นิสิต-นักศึกษาพบนายกรัฐมนตรี |
นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ขอยืนยันว่าทุกครั้งที่มีข่าวว่าพ.ร.ก.ฉุกเฉินกระทบกับกิจกรรมของนิสิตนักศึกษา ตนจะตรวจสอบและให้ดำเนินการตามแนวทางที่ควรจะเป็น บางกรณีมีความเข้าใจผิด คิดว่าการเรียกตัวไปเป็นหมายจับ ทั้งที่จริงไม่ใช่ เป็นเพียงการเรียกตัวไปสอบถาม และเท่าที่ตนตรวจสอบไม่มีนักศึกษาคนใดถูกดำเนินคดี สำหรับการควบคุมตัวตามพ.ร.ก.ฉุกเฉินมีการใช้น้อยมาก ส่วนใหญ่จะถูกดำเนินการตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา ยืนยันว่าไม่มีการปกปิดรายชื่อผู้ถูกควบคุมตัว และไม่มีใครเป็นนักโทษการเมือง เพราะนักโทษการเมืองน่าจะหมายถึงคนที่ถูกจับ เพราะมีความคิดทางการเมืองแตกต่างกัน ซึ่งไม่มีเพราะคนที่ถูกคุมตัวทุกคนทำผิดกฎหมาย เช่น ผิดฐานก่อการร้าย
"ความจริงการเคลื่อนไหวทางการเมืองก็มีเยอะ กรณีคนเสื้อแดงไปทำกิจกรรมที่สวนลุมพินี ก็ไม่ถูกดำเนินการใดๆ หากไม่ผิดเงื่อนไข 5 ข้อตามที่ศาลแพ่งวางเอาไว้ สำหรับการปิดนสพ.เรดเพาเวอร์ ยืนยันว่าไม่ใช่การปิดสื่อ เพราะมีความคิดเห็นที่ไม่ตรงกันทางการเมือง แต่ที่มีปัญหาเพราะทำผิดกฎหมายอื่น ซึ่งต้องว่าไปตามกระบวนการยุติธรรม อย่างไรก็ตาม ส่วนตัวเห็นว่ามีกฎหมายฉบับหนึ่งที่เกี่ยวกับสื่อที่ต้องแก้ไข คือพ.ร.บ.ว่าด้วยความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ 2550 ที่ยังขาดความชัดเจน จนทำให้เกิดปัญหา" นายอภิสิทธิ์ กล่าวเมื่อถามว่า นักศึกษาที่ จ.เชียงรายแค่ชูป้ายถูกคุมตัวและจับไปบำบัดจิต นายสุธาชัย ยิ้มประเสริฐ หรืออาจารย์ยิ้ม อาจารย์ประจำคณะอักษรศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ถูกคุมตัวโดยไม่แจ้งข้อหาแล้ว แต่เหตุใดพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยชุมนุมหน้ายูเนสโกถึงไม่มีใช้อำนาจตามพ.ร.ก.ฉุกเฉินบ้าง นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า กรณีอาจารย์ยิ้มที่ทราบภายหลังว่ามีปัญหาสุขภาพ ตนก็ได้ประสานไปขอให้ดูแล แต่ยอมรับว่าบางเรื่องก็ดูแลไม่ 100 เปอร์เซ็นต์ แต่พอทราบว่ามีปัญหาก็ให้เข้าไปดูแล กรณีกลุ่มพันธมิตรฯเมื่อมีการปิดถนน ตนก็ให้ตำรวจเข้าไปเจรจา รอบหลังที่จะมาชุมนุมที่ทำเนียบรัฐบาล ก็มีการเจรจาจนย้ายที่สำเร็จ
เมื่อถามว่ามีความจำเป็นแค่ไหนที่ต้องเพิ่มงบประมาณของกระทรวงกลาโหม (กห.) จากปีที่แล้วถึงกว่า 7 หมื่นล้านบาท ราวเป็นกว่า 2 แสนล้านบาท ทั้งที่การใช้งบของกห.ที่ผ่านมาหลายอย่างก็มีปัญหา ทั้งการจัดซื้อเรือเหาะที่บินไม่ได้ หรือเครื่องตรวจสอบวัตถุระเบิดจีที 200 ที่พิสูจน์แล้วว่าเป็นของเก๊ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า การเพิ่มขึ้นของงบของกห. ถ้าตนจำไม่ผิด ไม่ได้สูงกว่าสัดส่วนงบของปีก่อนๆ ถามว่าจำเป็นแค่ไหน ตนได้ดูเรื่องนี้เชิงระบบ โดยนำไปเปรียบเทียบกับงบพัฒนากองทัพของประเทศเพื่อนบ้าน ปรากฏว่าเรามีค่าใช้จ่ายด้านนี้ต่ำที่สุดในภูมิภาค ส่วนการใช้งบจะถูกผิดอย่างไร ต้องไปว่ากันอีกครั้ง
เมื่อถามว่าเหตุใดนายกฯถึงไม่รีบลงจากอำนาจ และเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมให้เร็วที่สุด เพื่อแสดงความรับผิดชอบต่อ 91 ศพที่เสียชีวิต นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ความจริงรัฐบาลนี้มีสิทธิตามรัฐธรรมนูญที่จะอยู่จนถึงสิ้นปีหน้า และก่อนหน้านี้หากผู้ชุมนุมรับข้อเสนอของตน อีกไม่กี่เดือนข้างหน้าก็จะมีการเลือกตั้งแล้ว ความจริงพวกเขาปฏิเสธข้อเสนอของตนไปอย่างน้อย 3 ครั้ง ครั้งแรก หากนำข้อเสนอของคณะกรรมการสมานฉันท์ไปทำประชามติ ป่านนี้ก็มีการเลือกตั้งไปแล้ว 2-3 เดือนก่อน แต่ฝ่ายโน้นก็ปฏิเสธ เพราะคนต่างประเทศไม่เห็นด้วย ครั้งที่สอง ระหว่างชุมนุมปลายพ.ค.ที่ผ่านมา ที่ตนไปนั่งโต๊ะเจรจา มีการเสนอให้เลือกตั้งปลายปี แต่ปรากฏว่าต้องเลิกเจรจา เพราะมีโทรศัพท์เข้ามาขอให้ฝ่ายโน้นเลิกเจรจา ครั้งสุดท้าย ตนเสนอให้เลือกตั้ง วันที่ 14 พ.ย.2553 แต่สุดท้ายแกนนำคนเสื้อแดงก็ไม่ยอมรับ
นายกฯ กล่าวว่า เรื่องความสูญเสีย ตนต้องขอความเป็นธรรม เพราะยืนยันไม่เคยมีนโยบายให้ปราบปรามหรือยิงประชาชน ความสูญเสียที่เกิดขึ้น มี 3 ช่วงเวลา ครั้งแรก วันที่ 10 เม.ย. ซึ่งเจ้าหน้าที่เริ่มขอคืนพื้นที่ตั้งแต่บ่ายโมงจนถึงหนึ่งทุ่ม ไม่มีใครเป็นอะไร แต่ความสูญเสียเริ่มเกิดขึ้น นับแต่มีการยิงเอ็ม 79 เข้ามา ทำให้ทหารและประชาชนผู้บริสุทธิ์เสียชีวิต ช่วงที่สอง ระหว่าง วันที่ 14-18 พ.ค. ตอนนั้นรัฐบาลเห็นว่าการชุมนุมที่ยืดเยื้อยาวนาน และปีนี้เป็นครั้งแรกที่ไม่มีระเบิดยิงใส่ผู้ชุมนุม มีแต่ระเบิดยิงออกมาจากผู้ชุมนุม นอกจากนี้ ยังพบอาวุธสงคราในบริเวณใกล้เคียงที่ชุมนุมจำนวนมาก เป็นเหตุให้ต้องมีการกระชับวงล้อม ถามว่าทำไมเกิดความสูญเสีย เพราะมีคนเข้าโจมตีด่านของทหาร ช่วงนี้เกิดความสูญเสียมากที่สุด
นายอภิสิทธิ์ กล่าวอีกว่า ช่วงสุดท้าย วันที่ 19 พ.ค.ที่มีการเข้า ยึดพื้นที่ชุมนุมแล้ว ซึ่งทำให้เกิดกรณีเสียชีวิต 6 ศพที่วัดปทุมวนารามขึ้นมา ซึ่งต้องตรวจสอบกันต่อไปว่าเกิดขึ้นได้อย่างไร และมีการตั้งคนกลางเข้ามาตรวจสอบแล้ว แต่ยืนยันว่ารัฐบาลไม่เคยมีนโยบายจะทำให้ประชาชนเกิดความสูญเสีย เพราะตอนที่แกนนำคนเสื้อแดงประกาศยุติการชุมนุม เราก็สั่งให้ทหารยุติปฏิบัติการทั้งหมด ทั้งที่แยกสารสิน ถนนชิดลม และสนามศุภชลาศัย แต่ปรากฏว่าเมื่อยุติการชุมนุม มีการเผาห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัลเวิลด์และสยามสแควร์ แต่ปรากฏว่าเมื่อนำรถดับเพลิงเข้าไปแล้วถูกยิงกลับมา ทำให้เกิดการต่อสู้ที่ถนนพระรามที่ 1 ซึ่งอาจทำให้เกิดกรณีวัดปทุมฯขึ้นหรือไม่
"ความจริงแล้ว ถ้าความสูญเสียทั้งหมด เกิดจากการสั่งปราบปรามการชุมนุม ผมไม่อยู่ถึงวันนี้หรอก ลาออกไปนานแล้ว ดังนั้นควรจะให้คนกลางเข้าไปตรวจสอบ ความจริงตัวผมเองก็ยืนยันว่าไม่มีเจตนาอยู่ครบเทอม แต่ก็ไม่ต้องการให้การเลือกตั้งอยู่กับความรุนแรง โดยมีเงื่อนไข 2 ข้อ หนึ่ง ต้องไม่มีการประกาศไล่ล่ากัน หรือห้ามไม่ให้พรรคการเมืองนี้เข้าไปหาเสียงในพื้นที่ใด สอง ผมไม่ต้องการเลือกตั้งที่ต้องมาถกเถียงเรื่องกติกาอีก เวลาเกิดปัญหาขึ้น ว่าควรยุบหรือไม่ยุบพรรค ถ้าสองเงื่อนไขนี้มีเมื่อไร ผมพร้อมจะยุบสภา ผมไม่ได้เกรงกลัวว่าจะแพ้การเลือกตั้ง เพราะผมไม่มีผลประโยชน์ส่วนตัวอะไรอยู่แล้ว ที่สำคัญช่วงที่ผมอยู่ มีเลือกตั้งซ่อมหลายครั้ง ผมก็แพ้น้อยมาก" นายอภิสิทธิ์ กล่าว
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น