หมายเหตุ - ศาลรัฐธรรมนูญไต่สวนพยานฝ่ายผู้ถูกร้องนัดแรกในคดียุบพรรคประชาธิปัตย์จากการใช่จ่ายเงินกองทุนเพื่อการพัฒนาพรรคการเมือง 29 ล้านบาทไม่เป็นไปตามวัตถุประสงค์ โดยมี ม.ล.ประทีป จรูญโรจน์ ที่ปรึกษาประธานกกต. ในฐานะอดีตประธานคณะกรรมการตรวจสอบตามคำสั่งของโดยนายทะเบียนพรรคการเมือง เป็นพยานฝ่ายผู้ถูกร้องเบิกความต่อศาล โดยมีนายบัณฑิต ศิริพันธุ์ ทนายความประจำพรรคประชาธิปัตย์ และนายกิตินันท์ ธัชประมุข อัยการคดีพิเศษ ฝ่ายสำนักคดีพิเศษ สำนักงานอัยการสูงสุด (อสส.) ผู้รับมอบอำนาจจากนายทะเบียนพรรคการเมืองซักค้านพยาน เมื่อวันที่ 27 กันยายน
นายกิตินันท์ ธัชประมุข อัยการคดีพิเศษ ฝ่ายสำนักคดีพิเศษ สำนักงานอัยการสูงสุด (อสส.) ผู้รับมอบอำนาจจากนายทะเบียนพรรคการเมืองซักค้านม.ล.ประทีป
นายกิตินันท์ : แต่ท่านได้ทำความเห็นส่วนบุคคลด้วย
ม.ล.ประทีป : ใช่ การทำความเห็นของ กรรมการแต่ละคนจะใช้วิธีคือเมื่อที่ประชุมกำหนดประเด็นที่เป็นข้อกล่าวหาแต่ละข้อไว้แล้วเว้นช่องว่างให้ กรรมการแต่ละคนเขียนความเห็น ซึ่งประเด็นข้อกล่าวหาเขียนโดยมติที่ประชุม แต่ความเห็นเป็นอิสระของ กรรมการแต่ละคน โดยเมื่อกำหนดประเด็นขึ้นมาแล้วก็จะมีการไปตรวจสอบ ในประเด็นที่กำหนดขึ้น จากนั้นกรรมการแต่ละคนก็ไปสรุปความเห็น
นายกิตินันท์ : จากพยานเอกสารที่เป็นความเห็นส่วนตนของท่านได้ระบุคำให้การของน.ส.วาศิณี ทองเจือ หรือ "แอน" กรรมการผู้จัดการบริษัท แม็คเนท ซายน์ จำกัด ให้การในสำนวนว่าได้รับจ้างพรรคประชาธิปัตย์ทำป้ายโฆษณาหาเสียงด้วยวงเงิน 4 ล้านบาท แต่เอกสารรับเงินจากพรรคประชาธิปัตย์มาเพียง 2 ล้าน 3 หมื่นกว่าบาท ซึ่งแตกต่างจากข้อเท็จจริงและพรรคประชาธิปัตย์ได้ยื่นมาเพียง 2 ล้านมาทางกกต. ส่วนนี้ท่านพิจารณาด้วยหรือไม่
ม.ล.ประทีป : ผมพิจารณาส่วนร่วม โดยพิจารณาหลักฐานใบแจ้งหนี้การจ่ายเช็คให้พรรคประชาธิปัตย์จ่ายให้ครบถ้วนตามที่รับได้อนุมัติหรือไม่ และยังได้พิจารณาปากคำพยานเช่น น.ส.วาศิณี บริษัทที่ไม่เสียภาษีไม่ประกอบกิจการจากพยานบุคคลและใบเสร็จรับเงินที่ไม่ตรงตามข้อเท็จจริง คือผมก็เห็นว่าแม้พยานไม่ตรงตามข้อเท็จจริง แต่ผมพิจารณาหากเกี่ยวพันกับพรรคประชาธิปัตย์หรือไม่ เพราะมันเป็นเรื่องของ บริษัทรับจ้างทำป้าย ที่จัดการออกใบเสร็จแล้วยื่นให้พรรคประชาธิปัตย์ยื่นต่อกกต. ดังนั้นพรรคประชาธิปัตย์จึงไม่มีส่วนรู้เห็นต่อการออกใบเสร็จ ถ้าใบเสร็จต่างๆไม่ตรงข้อเท็จจริง ผมคิดว่าเป็นเรื่องของบริษัทที่เขาทำขึ้น ไม่ใช่พรรคประชาธิปัตย์ทำ พรรคประชาธิปัตย์ทำเพียงเอาใบเสร็จยื่นต่อกกต. และหลักฐานต่างๆ ได้ผ่านผู้ตรวจสอบบัญชีถูกต้องทุกประการแล้ว ผมจึงเห็นว่าพรรคประชาธิปัตย์ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการกระทำดังกล่าว
นายกิตินันท์ : แต่ใบเสร็จสำคัญรับเงินที่บริษัท เกิดเมฆ แอ็ดเวอร์ไทซิ่ง แอนด์ กรุ๊ปจำกัดออกให้พรรคประชาธิปัตย์เอกสารนี้อยู่ในสำนวนเป็นใบเสร็จที่พรรคประชาธิปัตย์นำรายงานส่งให้กกต. ก็มีผู้บริหารพรรคประชาธิปัตย์รับรองเอกสารทั้งหมดอย่างนี้ถือว่าเป็นเอกสารของบริษัทหรือพรรคประชาธิปัตย์เพราะพรรคประชาธิปัตย์ได้ยื่นเอกสารเหล่านี้ต่อกองทุนเพื่อการพัฒนาพรรคการเมือง
ม.ล.ประทีป : เอกสารเหล่านี้เจ้าหน้าที่กกต.ได้รับรองสำเนาถูกต้อง และมีใบสำคัญรับเงิน ส่วนที่นายบัญญัติ บรรทัดฐาน อดีตหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ นางอาภรณ์ รองเงิน สมุห์บัญชีเลือกตั้งปี 2548ได้ลงนามรับรองนั้น คือการรับรองเอกสารคือรับรองให้ตรงกับต้นฉบับจึงไม่ได้เป็นผู้กระทำ เพราะบริษัท เกิดเมฆฯได้รายงานมาพรรคประชาธิปัตย์แล้วพรรคก็รายงานมากกต.
นายกิตินันท์ : แต่นายสุชาติ เกิดเมฆ ก็บอกว่าออกใบเสร็จ ทั้งที่ไม่มีมูลหนี้ออกให้น.ส.วาศิณีท่านก็ทราบใช่ไหม
ม.ล.ประทีป : ครับ
นายกิตินันท์ : เอกสารของสำนักงานกกต.มีถึงหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ แจ้งอนุมัติโครงการแผนงานประจำพรรคการเมืองประจำปี 2548 ระบุว่าการใช้จ่ายเงินตามโครงการให้พรรคการเมืองใช้จ่ายตามที่ได้รับอนุมัติในโครงาร หากมีการเปลี่ยนแปลงต้องขออนุมัติจากคณะกรรมการกองทุนเพื่อการพัฒนาพรรคการเมืองพร้อมหลักฐานการจ่ายเงินให้ครบถ้วน กรณีพรรคประชาธิปัตย์ขอเปลี่ยนแปลงจากฟิวเจอร์บอร์ด ก็ทำหนังสือขอเปลี่ยนแปลงมาและขณะนั้นไม่มีการประชุมคณะกรรมการกองทุนฯ แต่มีมติเวียนแล้วอนุมัติ แต่อนุมัติในปลายเดือนมกราคม 2548 หลังพรรคประชาธิปัตย์จ้างบริษัท เมซไซอะ บิซิเนส แอนด์ ครีเอชั่น จำกัดทำป้ายแล้ว กรณีนี้ท่านให้ความเห็นว่า อนุมัติย้อนหลังได้ไม่ขัดต่อหนังสือเวียนของกกต.หรือไม่
ม.ล.ประทีป : หนังสือเวียนของกกต.เรื่องนี้ไม่มีบทบัญญัติของกฎหมายชัดแจ้ง ซึ่งแล้วแต่นโยบายของกกต. เมื่อการกระทำไม่ขัดต่อข้อกฎหมายก็ให้อนุมัติย้อนหลังได้
นายกิตินันท์ : ถ้าเกิดคณะกรรมการกองทุนฯเวียนแล้วไม่อนุมัติที่จ้างไปแล้ว จะทำอย่างไร
ม.ล.ประทีป : คือต้องหาผู้รับผิดชอบกันเอง
ม.ล.ประทีป : ผมพิจารณาโดยภาพรวม ว่าเงินจำนวนนี้ได้ทำป้ายเมื่อป้ายได้รับการอนุมัติเรียบร้อย มีการทำป้ายจริงจากการโฆษณาหาเสียงในการเลือกตั้ง เมื่อทำป้ายเกินกว่าเงินที่ได้รับ ดังนั้นผมเชื่อโดยสุจริตว่า ไม่มีเจตนาทุจริต และใบสำคัญรับเงินสำเนาถูกต้องนั้นเป็นบริษัท ผมเคยรับราชการในตำแหน่งนายอำเภอ ปลัดจังหวัด จริงๆ ผมก็ไม่ได้ตรวจเช็คเงินถูกต้องหรือไม่ แต่หัวใจคือ มีการใช้เงินตรงตามงบประมาณที่ได้รับหรือไม่แค่นั้นพอรายละเอียดผมไม่เคยได้ดู
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น