วันพุธที่ 29 กันยายน พ.ศ. 2553

"ในหลวง" เสด็จฯ ทอดพระเนตรดนตรี




พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จพระราชดำเนิน จากชั้น 16 อาคารเฉลิมพระเกียรติ รพ.ศิริราช ไปยังหอประชุมราชแพทยาลัย เพื่อ ทอดพระเนตรการแสดงดนตรีจากวงไทยแลนด์ฟิลฮาร์โมนิกออร์เคสตรา ในงาน “ศิริราชคอนเสิร์ต เทิดไท้องค์อัครศิลปิน”

วันนี้ 29 ก.ย. เวลา 20.02 น. พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่ เสด็จฯพระราชดำเนินลงจากชั้น 16 อาคารเฉลิมพระเกียรติด้วยรถเข็นพระที่นั่ง โดยมี รศ.นพ.ประดิษฐ์ ปัญจวีณิน หัวหน้าภาควิชาหทัยวิทยา ภาควิชาอายุรแพทยศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล ทั้งนี้ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่ทรงสวมฉลองพระองค์ด้วยสูททักซิโด้สีดำและหูกระต่ายสีดำ ทรงมีสีพระพักตร์สดใส พร้อมโบกพระหัตถ์ทักทายพสกนิกรที่มาเฝ้ารอรับเสด็จฯ ตั้งแต่ช่วงเย็น และพากันเปล่งเสียง "ทรงพระเจริญ" ตลอดสองข้างทางเสด็จพระราชดำเนินไปยังหอประชุมราชแพทยาลัย สถานที่จัดแสดงงาน "ศิริราชคอนเสิร์ต เทิดไท้องค์อัครศิลปิน" ซึ่งบรรเลงโดยวงดุริยางคฟีลฮาร์โมนิกแห่งประเทศไทย โดยมีสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เฝ้ารับเสด็จฯ

โดยบรรยากาศทั่วบริเวณหอประชุมราชแพทยาลัย เต็มไปด้วยบรรดาบุคคลสำคัญที่ได้รับเชิญให้เข้าชมการแสดงในวันนี้มีจำนวนกว่า 300 คน อาทิ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรีพร้อมภริยา นายกรณ์ จาติกวณิช รมว.คลัง และภริยา พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รมว.กลาโหม พล.อ อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผบ.ทบ. พล.ต.อ.วิเชียร พจน์โพธิ์ศรี ผบ.ตร. และ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา รอง ผบ.ทบ. ฯลฯ

ศ.คลินิก นพ.ธีรวัฒน์ กุลทนันทน์ คณบดีคณะแพทยศาสตร์ ศิริราชพยาบาล กล่าวถึงความเป็นมาของการจัดงานศิริราชคอนเสิร์ตเทิดไท้องค์อัครศิลปิน ว่าเพื่อเป็นการถวายแด่พระองค์ท่านให้ทรงพระเกษมสำราญ และเพื่อรำลึกถึง วันที่ 29 ก.ย.2516 ซึ่งพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ได้เสด็จฯมาทรงดนตรี ที่หอประชุมราชแพทยาลัย คณะแพทย์ศาสตร์ศิริราชพยาบาลแห่งนี้ ทำให้นักศึกษาและบุคคลากรทุกหมู่เหล่ามีโอกาสได้เข้าเฝ้าฯ และซาบซึ้งในพระปรีชาสามารถของพระองค์ ซึ่งหลังจากที่ทรงดนตรีครั้งนั้นแล้ว พระองค์ก็ไม่ได้เสด็จฯไปทรงดนตรีที่สถาบันศึกษาไหนอีก

และเพื่อเป็นการรำลึกถึงวันทรงดนตรีที่ยังอยู่ในความทรงจำชาวศิริราช ทางคณะแพทย์ศาสตร์ฯ จึงตั้งใจจัดงานนี้ขึ้น โดยเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาได้เข้ากราบบังคมทูลถวายรายงานให้ทรงทอดพระเนตร จากนั้นทรงมีรับสั่งผ่าน ศ.เกียรติยศ นพ.สงคราม ทรัพย์เจริญ แพทย์ประจำพระองค์ว่า จะเสด็จฯมาทอดพระเนตร นอกจากนี้ตนยังได้เข้าเฝ้าสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ และทรงมีรับสั่งว่าจะเสด็จมาทอดพระเนตรด้วยเช่นกัน

สำหรับวงดนตรีที่มาแสดงถวายในคืนนี้คือไทยแลนด์ฟิลฮาร์โมนิกออร์เคสตรา ซึ่งเป็นวงดนตรีออร์เคสตรา 80 ชิ้น ควบคุมวงโดย Mr Gudni A. Emillson และ พ.ต.ประทีป สุพรรณโรจน์ ซึ่งศ.คลินิก น.พ.ธีรวัฒน์ ได้กล่าวถึงความรู้สึกของนักดนตรีเมื่อได้รับทราบว่าพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯจะเสด็จมาทอดพระเนตรการแสดงในครั้งนี้ว่า

"เมื่อทราบว่าพระองค์รับสั่งว่าจะเสด็จฯมาทอดพระเนตร ทุกคนในวงต่างก็รู้สึกตื่นเต้นคึกคัก ส่วนตัวแล้วก็รู้สึกถึงความหลังด้วย เพราะแม้จะผ่านมากว่า 30 ปีแล้ว แต่ยังจำได้ดีว่า วันที่ที่ทรงดนตรีนั้น ตนเป็นนักศึกษาแพทย์ปีสุดท้าย ได้มีโอกาสเข้าร่วมรับชมด้วย วันนั้นพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ทรงแซกโซโฟน พระองค์จะรับสั่งติดตลกกับนักดนตรีที่เข้าแสดง พวกเรานักศึกษาแพทย์ต่างอิ่มใจและหัวเราะกันอย่างสนุกสนาน ทั้งยังมีรับสั่งกับนักศึกษาด้วยว่า "ดีใจที่ได้มีวันนี้อีกครั้ง" อย่างไรก็ตามทุกอย่างกระทันหันไปหมด จึงต้องขออภัยที่ทางศิริราชเรียนเชิญผู้มีเกียรติเข้าร่วมได้ไม่ทั่วถึง"

ซึ่งในวันนี้บรรดาสมาชิกวงไทยแลนด์ฟิลฮาร์โมนิกออร์เคสตรากว่าร้อยชีวิต ได้ทยอยเดินทางมาซ้อมที่หอประชุมราชแพทยาลัย ตั้งแต่เวลา 15.00 น. โดยทางคณะแพทย์ศาสตร์ศิริราช ได้ทำการตกแต่งดัดแปลงให้เป็นห้องจัดแสดงออร์เตสตรา แบบสมบูรณ์แบบ โดยมีการยกเวทีสูงขึ้นจากพื้นหอประชุมราว 2 เมตรบริเวณหน้าเวที ประดับประดาด้วยดอกไม้ ส่วนภายในโถงตั้งเก้าอี้สีขาวขลิบทองจำนวนกว่า 400 ที่นั่ง เพื่อรับรองแขกผู้มีเกียรติ ขณะเดียวกัน ที่บริเวณชั้น 2 ของหอประชุม ถูกจัดวางและตกแต่งให้เป็นที่ประทับของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ

ซึ่งการบรรเลงในวันนี้ประกอบด้วย เพลงพระราชนิพนธ์ 19 เพลง นอกจากนี้ยังมีการบรรเลงเพลงโหมโรงมหาราช เพลงอาทิตย์อับแสง ซึ่งเดี่ยวเปียโนโดย นายดริน พันธุมโกมล , เพลงไร้เดือน เพลงเมื่อโสมส่อง เพลงเกาะในฝัน ขับร้องโดย Mrs.Colleen Jennings, เพลงใกล้รุ่ง เพลงยามเย็น ขับร้องโดย น.ส.กมลพร หุ่นเจริญ, เพลงกินรี เพลงแสงเทียน เพลงความฝันอันสูงสุด ขับร้องโดยนายณัฐพร ธรรมาธิ, เพลงดวงใจกับความรัก เพลงในดวงใจนิรันดร์ เพลงสายฝน เพลงแสงเดือน เพลงพระมหามงคล เพลงชะตาชีวิต ขับร้องโดย Mrs.Cherryl hayes, เพลงเราสู้ ขับร้องโดยนายณัฐพร ธรรมาธิ นายตุลานันท์ นรเศรษฐ์พิศาล น.ส.กมลพร หุ่นเจริญ น.ส.กุมาริกา ศุภการ , เพลงแผ่นดินของเรา ขับร้องโดยน.ส.กุมาริกา ศุภการ และเพลงมาร์ชราชวัลลภ

รศ.นพ.อภิชาติ อัศวมงคลกุล รองคณบดีฝ่ายบริหาร คณะแพทย์ศาสตร์ศิริราช กล่าวว่า ไทยแลนด์ฟิวฮาโมนิกออเคสตร้า เป็นวงดนตรีที่ก่อตั้งขึ้นมาเพื่อพัฒนาให้เป็นออเคสตร้าวงอาชีพ ได้รับการสนับสนุนงบประมาณจากรัฐบาลและทางวิทยาลัยดุริยางคศิลป์ ในแต่ละปีที่ผ่านมาจะมีการแสดงระดับประเทศและระดับนานาชาติ ซึ่งถือเป็นโอกาสที่ดีในการได้มาแสดงถวาย ทั้งนี้ทางศิริราชได้จัดเตรียมระบบแสงเสียงที่ดีที่สุด ในหอประชุมราชแพทยาลัย ถือเป็นประวัติศาสตร์ของศิริราช ที่มีการจัดแสดงวงออเคสตร้าแบบเต็มวง ซึ่งเป็นสิ่งที่ทางศิริราชตั้งใจถวาย

ด้านความรู้สึกของนักร้องของวงไทยแลนด์ฟิลฮาร์โมนิกออร์เคสตราMrs Colleen Jennings ชาวอเมริกัน ผู้ขับร้องเพลง "เกาะในฝัน" เผยว่า เป็นครั้งที่ 2 ที่ได้ร้องเพลงต่อหน้าพระพักตร์ ซึ่งถือเป็นเกียรติในชีวิตอย่างยิ่ง เพราะไม่ใช่นักร้องอเมริกันทุกคนที่จะได้มีโอกาสนี้ ส่วนตัวชอบเพลง Hm blue อาทิตย์อับแสง ดวงใจกับความรัก

ส่วน น.ส.กมลพร หุ่นเจริญ อายุ 21 ปี นักศึกชั้นปีที่ 4 วิทยาลัยดุริยางคศิลป์ มหาวิทยาลัยมหิดล หนึ่งในผู้ขับร้องบทเพลง"เราสู้" กล่าวว่า ถือเป็นครั้งแรกในชีวิตที่มีโอกาสร้องเพลงต่อหน้าพระพักตร์ รู้สึกตื่นเต้น แต่ตั้งใจว่าจะทำให้ดีที่สุดเพื่อถวายพระองค์ และทางครอบครัวก็รู้สึกดีใจพร้อมกับกำชับมาว่าต้องร้องให้ดีที่สุด เพราะไม่ใช่ทุกคนที่จะมีโอกาส

ขณะที่นายตุลานันท์ นรเศรษฐ์พิศาล อายุ 21 ปี ผู้ร่วมขับร้องเพลง "เราสู้" กล่าวว่า รู้สึกตื่นเต้น และถือเป็นเกียรติครั้งหนึ่งในชีวิตที่ได้มีโอกาสแสดงต่อหน้าพระที่นั่ง และเมื่อรู้ว่าจะได้ร้องเพลงเราสู้ที่ค่อนข้างหาฟังยาก จึงต้องฝึกซ้อมอย่างมาก เพราะมีท่อนเอื้อนที่ค่อนข้างเยอะ แต่มั่นใจว่าจะทำได้ดีที่สุด

เช่นเดียวกับความรู้สึกของ 2 วาทยากรของวงไทยแลนด์ฟิวฮาโมนิกออร์เคสตรา Mr Gudni A. Emillson วาทยากรจากประเทศเยอรมัน กล่าวว่า วันนี้เป็นวันที่พิเศษมาก เป็นครั้งแรกในชีวิต ที่ได้อำนวยเพลงต่อหน้าพระมหากษัตริย์ ที่ทรงมีความสามารถในการประพันธ์ดนตรี แต่งบทเพลงที่คนรู้จัก ภูมิใจที่พระองค์ทรงอนุญาติให้พวกเราได้มาจัดแสดงวันนี้ และเป็นเกียรติอันยิ่งใหญ่ของวงด้วย แน่นอนว่าต้องรู้สึกตื่นเต้นเป็นเรื่องธรรมดา ไม่ต่างกับคนไทย เพราะต้องการทำสิ่งที่ดีที่สุดเพื่อถวายแด่พระองค์ท่าน ส่วนตัวแล้วชอบบทเพลงพระราชนิพนธ์ของในหลวงทุกบทเพลงที่ทรงแต่ง เพราะแต่ละเพลงมีสไตล์ที่ไม่ซ้ำกัน เป็นการแต่งที่ผสมผสานกัน จนแทบไม่น่าเชื่อว่าพระองค์จะมีความซาบซึ่งในเรื่องดนตรีมากขนาดนี้ ต้องบอกว่าเป็นพรสวรรค์อย่างมาก ทั้งวันนี้จะได้เลือกบทเพลงที่ดีที่สุดพิเศษที่สุดที่ทรงโปรด คือ HM blue

พ.ต.ประทีป สุพรรณโรจน์ หนึ่งในวาทยากรวงไทยแลนด์ฟิวฮาโมนิกออร์เคสตรา กล่าวว่า ภูมิใจที่ได้มีโอกาสนำบทเพลงทั้ง 19 บทเพลงซึ่งจะนำมาแสดง มาเรียบเรียงเสียงประสานให้เป็นเพลงคลาสสิค ซึ่งการนำเพลงแจ็สมาดัดแปลงเป็นเพลงคลาสสิคนั้นไม่ใช่เรื่องงาย แต่ก็ตั้งใจไว้แล้วว่าจะต้องทำเพื่อรับใช้เบื้องพระยุคลบาท ส่วนความรู้สึกนั้นเช่นเดียวกับนักดนตรีทุกคนของวง เมื่อทราบว่าได้แสดงต่อหน้าพระที่นั่ง ทุกคนต่างทุ่มเทในการฝึกฝนมาก เพราะถือเป็นช่วงเวลาแห่งเกียรติยศแห่งชีวิต จึงต้องซ้อมหนักและทุ่มเท เพราะมีเพียงวงโยธวาธิตเท่านั้น ที่สามารถเล่นต่อหน้าพระที่นั่งได้ สำหรับไฮไลท์ของการอำนวยเพลงนั้น จะมีอยู่ราว 2-3 เพลง โดยเฉพาะเพลงเปิดหน้าม่าน คือเพลง โหมโรงมหาราช ความฝันอันสูงสุด เราสู้ ซึ่งการแสดงทั้งหมดจะใช้เวลาราว 1.30 ชม. ยอมรับว่าตื่นเต้นเพราะใครได้มายืนตรงนี้ก็ถือว่าสูงสุดแล้ว

ไม่มีความคิดเห็น: