วันพฤหัสบดีที่ 23 กันยายน พ.ศ. 2553

ตปท.ชี้ "ไทย" ตกคลอง หุ้นสื่อสารร่วงระนาว

www.go6tv.com สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานถึงการที่นักวิเคราะห์ต่างประเทศออกมาแสดงความคิดเห็นต่อคำสั่งศาลปกครองสูงสุดที่ให้ชะลอการเปิดประมูลใบอนุญาต 3 จี โดยนางจิง ลี่ นักวิเคราะห์ด้านโทรคมนาคมประจำภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก จากบริษัทไอเอชเอส โกลบอล อินไซท์ ระบุว่า คำพิพากษาของศาลปกครองสูงสุดครั้งนี้นับเป็นการก้าวถอยหลังครั้งใหญ่สำหรับแผนการอนุญาตให้มีการใช้คลื่นความถี่เพื่อประกอบกิจการโทรศัพท์เคลื่อนที่ 3 จี โดยไทยนับเป็นประเทศที่มีอัตราการใช้โทรศัพท์เคลื่อนที่สูงมาก แต่ก็เป็นประเทศเดียวในภูมิภาคที่ยังไม่มีการออกใบอนุญาตให้ใช้ 3 จี และหากไทยต้องรอคณะกรรมการอิสระชุดใหม่ที่มีอำนาจเข้ามาทำหน้าที่ดูแลด้านการออกใบอนุญาต (กสทช.) คงต้องรออีกนานกว่าที่จะสามารถจัดให้มีการประมูลใบอนุญาต 3 จีได้


ขณะที่สำนักข่าวเอพีรายงานว่า การที่ศาลปกครองมีสูงสุดคำสั่งเช่นนี้ยิ่งทำให้การจะมีเทคโนโลยีอินเตอร์เน็ตความเร็วสูงในประเทศไทยต้องล่าช้าออกไปอีก และไทยกลายเป็นประเทศเดียวในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่ไม่มีเทคโนโลยี 3 จีใช้ ขณะที่ประเทศเพื่อนบ้านที่ยากจนกว่าอย่างกัมพูชาและลาวมี 3 จีใช้เรียบร้อยแล้ว


หุ้นสื่อสารร่วงแล้ว6-27%


วันเดียวกัน ผู้สื่อข่าวรายงานจากตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ว่า หลังจากศาลปกครองสูงสุดมีคำสั่งให้ระงับการประมูล 3 จี ปรากฏว่าราคาหุ้นในกลุ่มสื่อสารปรับลดลงสวนกับภาวะตลาดโดยรวมที่ปรับขึ้น โดยหุ้นทรู ปิดตลาดที่ระดับ 4.10 บาท ลดลง 0.84 บาท หรือ 17% เอไอเอส ปิดที่ 90.75 บาท ลดลง 1 บาท หรือ 1.09% และดีแทคปิดที่ 39.25 บาท ลดลง 0.50 บาท หรือ 1.26%


ด้านบริษัท หลักทรัพย์ เอเซียพลัส ออกบทวิเคราะห์ว่า เมื่อประเมินสถานการณ์โดยรวมแล้ว มีความเป็นไปได้ค่อนข้างมากที่การประมูล 3.9 จี น่าจะไปเกิดขึ้นภายใต้องค์กรจัดสรรคลื่นความถี่และกำกับการประกอบกิจการวิทยุกระจายเสียง วิทยุโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ พ.ศ... (กสทช.) มากกว่า ซึ่งน่าจะเกิดขึ้นในปี 2554 ภายใต้สมมติฐานว่าการเมืองยังมีเสถียรภาพ


บล.กิมเอ็งวิเคราะห์ว่า หลังคำตัดสินของศาลปกครองกลาง ราคาหุ้นสื่อสารได้ปรับตัวลงมาแล้ว 6-27%


ไม่มีความคิดเห็น: