กระซิบกันเบาๆ ว่า ตุลาคม อันตรายสุด ๆ ถ้ารัฐบาลผ่านไปได้ก็อยู่ยาวถึงปีหน้า แต่ถ้าฝ่าข้ามไปไม่ได้ก็ไม่มี มาร์ค รอบ 2 อีกต่อไป
การปรับฮวงจุ้ย หรือ พูดให้เท่ว่า ปรับภูมิทัศน์ ลึก ๆก็คือ การใช้ศาสตร์แห่งฮวงจุ้ย ต่ออายุรัฐบาล นั่นเอง
2-3 สัปดาห์มานี้ บรรยากาศการเมือง ดูเงียบสงัด อย่างผิดสังเกต จนดู คล้าย พายุใหญ่ ระดับสึนามิ กำลังก่อตัว
ถ้ามองโลก เชิงบวก ก็อาจวิเคราะห์ว่า อย่าห่วงเลย !!! ประเทศไทย โชคดีที่มีพระสยามเทวาธิราช คอยปกป้องคุ้มครอง
ประเทศไทยจะอยู่รอด โดยทุกสถาบันไม่ต้องปรับตัวอะไร รวมถึงการปฎิรูปโดยพวกธงเขียว ก็อาจไม่จำเป็น เพราะมีสีเขียวขี้ม้าที่แข็งแกร่งคอยพิทักษ์
แต่ถ้ามองโลกให้เป็นจริง สถานการณ์การเมืองกำลังเข้าใกล้วิกฤตเข้าไปทุกขณะ กลไกของสังคมเสื่อมลงอย่างรวดเร็วและน่าตกใจ
มองผ่านการเมือง ภายในรัฐบาลอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หรือ รัฐบาลเด็ก กำลังถูกพรรคภูมิใจไทย ขี่คอขย่ม
เรื่องอื้อฉาว ไม่ว่าจะเป็นการประมูลข้าว และมันเส้น มูลค่า 15,000 ล้าน ภายใต้พรรคภูมิใจไทย ทำให้รัฐบาลประชาธิปัตย์ อึกอัก น้ำท่วมปาก
การแต่งตั้งโยกย้าย ข้าราชการระดับสูง โดยเฉพาะในกระทรวงมหาดไทย โพกัสเจาะเข้าไปที่ตำแหน่งปลัดกระทรวงมหาดไทย
กรณี"ปลัดมหาดไทย" อาจเป็นการส่งสัญญาณอะไร บางอย่าง ผู้อาวุโส เปรยว่า ไม่มียุคใดอัปยศ เท่ายุคนี้
"เทพเทือก" มักพูดเสมอว่า เหตุแห่งการรัฐประหาร 19 กันยายน 2549 มาจากรัฐบาลทักษิณ ทุจริตคอร์รัปชั่น และการแทรกแซงของฝ่ายการเมือง
แต่วันนี้ในรัฐนาวาของรัฐบาลอภิสิทธิ์ ไม่แตกต่างจากรัฐบาลทักษิณ ช่วงปลายรัฐบาล ปมการทุจริตคอร์รัปชั่นเจาะไปตรงไหนเจอที่นั่น !
4-5 ปีก่อน ทักษิณ ถูกสร้างภาพให้น่ากลัว ราวกับปีศาจ แต่วันนี้ ปีศาจ ตัวใหม่ ใหญ่กว่าเดิม คว้าเค้กคำโต โดยมือที่มองไม่เห็น
จาก กระทรวงพาณิชย์ จนถึง กระทรวงมหาดไทย กลายเป็นแหล่งขุมทรัพย์ของพรรคภูมิใจไทย บัดนี้ เงิน และ ปืน พร้อมแล้ว
ขณะที่พรรคประชาธิปัตย์เองก็อยู่ในสภาพ ลูกผีลูกคนเต็มที ในคดีเงินผิดวัตถุประสงค์ 29 ล้าน การสืบพยานฝ่ายผู้ร้อง พยานปากเอก"พ.ต.อ.สุชาติ วงศ์อนันต์ชัย" เปิดบาดแผลฉกรรจ์ แกนนำพรรคประชาธิปัตย์ จนยากจะเย็บ "เอกสารลับ"ที่กลายเป็นอาวุธลับ บัดนี้ได้อยู่ในสำนวนคดีเรียบร้อย
จุดเสี่ยงของพรรคประชาธิปัตย์ จึงสูงยิ่ง จนเป็นที่มาของกระแสข่าวที่ว่า ถ้าศาลรัฐธรรมนูญ นัดอ่านคำพิพากษายุบพรรคประชาธิปัตย์ เดือนพฤศจิกายน นายกฯอภิสิทธ์ ก็ประกาศยุบสภาเดือนตุลาคม
ประเด็นสำคัญที่ไม่ควรมองข้ามคือ การก่อการร้ายในเมือง กรณีถังดับเพลิงที่ประกอบเป็นระเบิดอย่างเรียบร้อย ถังแรกเป้าคือห้างสรรพสินค้า ถังที่สองกระทรวงสามธารณสุข ถังที่สามโรงเรียนกลางเทพ ผู้ก่อการตั้งใจจะบอกว่า ไม่มีสถานที่ใดปลอดภัย อะไรก็เกิดขึ้นได้ เพียงแต่รอเวลา เท่านั้น
เช่นเดียวกับ ความสัมพันธ์ที่น่าเป็นห่วงระหว่างรัฐบาลไทยกับรัฐบาลซาอุฯ ที่กำลังกลายเป็นฟางเส้นสุดท้าย
น่าแปลกที่ภายใต้รัฐบาลเด็ก ความสัมพันธ์ของประเทศไทย กับประเทศเพื่อนบ้าน ไม่ราบรื่น เพราะการชักธงชาตินิยม อย่างไม่รู้กาละเทศะของพวกคลั่งชาติ
รวมถึง สหรัฐฯและรัสเซีย ดูวังเวง ชอบกล จากกรณี"วิคเตอร์ บูท"พ่อค้าอาวุธ
ท่ามกลางสถานการณ์ก่อนพายุใหญ่ เริ่มมีการพูดเรื่อง รัฐบาลแห่งชาติ อย่างตั้งใจ อีกครั้ง เพราะผู้ใหญ่เชื่อว่า รัฐบาลแห่งชาติคือทางออกที่ดีที่สุด
4 ปีหลังรัฐประหาร 19 กันยายน 2549 ไม่มีใคร ยืนยัน ได้ว่า จะไม่มีการรัฐประหาร อีกต่อไป
ผู้เชี่ยวชาญด้านการทหาร เตือนว่า " บิ๊กตู่" พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา " ไม่เหมือน "บิ๊กป๊อก" พลเอกอนุพงษ์ เผ่าจินดา ในหลายเรื่อง โดยเฉพาะสำคัญที่สุดคือ วิธีคิดเรื่อง กองทัพ กับ ประชาธิปไตย นี่อาจเป็นจุดเปลี่ยนที่สำคัญ
กล่าวกันว่า ในหมู่ทหารว่า รัฐประหารไม่ใช่เรื่องยาก แค่ขับรถถังออกมาสู่ราชดำเนินก็ยึดอำนาจได้แล้ว
แต่สิ่งที่ยากคือ หลังรัฐประหาร จะจัดการอย่างไร ต่างหาก !!!
ชั่วโมงนี้ รัฐบาลแห่งชาติ เป็นคำตอบที่ผู้ใหญ่ที่นิยมชมชอบ ตำนานของ อัศวินม้าขาวผู้จัดระบียบสังคมไทยใหม่ เห็นว่าเข้าท่าที่สุด
รัฐบาลแห่งชาติ สูตร"ผู้ใหญ่รู้ดี" จะทบทวนบทเรียนความผิดพลาดในอดีต สมัยรัฐบาลพลเอกสุรยุทธ์ จุลานนท์ ที่ประสบความล้มเหลว ได้ไม่คุ้มเสีย แถมเปลืองตัวกันทั่วหน้า
ฉะนั้น รัฐบาลแห่งชาติ สูตรปรับปรุง จะไม่ใช้ บริการ ขุนทหาร อีกต่อไป
แต่จะเป็นการบริหารประเทศ โดยนักวิชาการที่มีชื่ออยู่ใน อรหันต์ 3 ชุด ได้แก่ กรรมการปฎิรูป กรรมการสมัชชา กรรมการแก้ไขรัฐธรรมนูญ นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีของรัฐบาลแห่งชาติ จะอยู่ในกรรมการ 3 ชุด นั่นเอง เพราะภาพนักวิชาการดูดีกว่า สีเขียวขี้ม้า
บทวิเคราะห์ที่กล่าวมาข้างต้น เป็นการมองแบบกรณีเลวร้ายที่สุด หากจะเกิดขึ้นในเดือนตุลาคม 2553
แต่เลวร้ายน้อยกว่านั้นก็คือ การนั่งดูรัฐบาลโกหกไปวันๆ ว่าทุกอย่างจะดีขึ้น
ขณะที่เสียงชาวบ้านเริ่มไม่พอใจว่า จะพายเรือให้โจรนั่งไปอีกนานแค่ไหน !!!
นักรัฐศาสตร์รุ่นเดอะ สำนักจุฬาฯ เตือนว่า ทั้งหมดคือจุดเปลี่ยนผ่านของสังคมไทยครั้งสำคัญที่สุด !!!
ขุนสำราญภักดี
20 ก.ย.2553
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น