![]() |
ม.ล.วัลย์วิภา จรูญโรจน์ |
“ร.ต.แซมดิน” และ “ม.ล.วัลย์วิภา” ตัดสินใจขอพระบารมีปกแผ่นดินไทย เดินหน้าทูลเกล้าฯ ถวายฎีกากรณีรัฐนำวาระพระวิหารเข้าที่ประชุมสภา หวั่นยกระดับจากข้อตกลงร่วมเป็นสนธิสัญญา ชี้ดินแดนเสียแล้วเสียเลย เรียกคืนยาก ม.ล.วัลย์วิภาระบุคนไทยชายแดนกำลังถูกเขมรละเมิดสิทธิพลเมืองแห่งรัฐไทย รุกที่ดินทำกิน เผยสู้มาทุกรูปแบบไม่มีใครดูดำดูดี จึงต้องขอพระบารมีเป็นที่พึ่ง
วันนี้ (15 ก.ย.) เมื่อเวลา 11.30 น. ม.ล.วัลย์วิภา จรูญโรจน์ นักวิชาการไทยคดีศึกษา ในฐานะผู้ประสานงานเครือข่ายภาคีติดตามสถานการณ์ปราสาทพระวิหาร พร้อมด้วย ร.ต.แซมดิน เลิศบุศย์ ผู้ประสานงานกองทัพธรรม เข้าทูลเกล้าฯ ถวายฎีกา กรณีรัฐบาลดำเนินการเพื่อให้ บันทึกความเข้าใจระหว่างรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรไทย กับ รัฐบาลแห่งราชอาณาจักรกัมพูชาว่าด้วยการสำรวจและจัดทำหลักเขตแดนทางบก ที่เริ่มดำเนินการเมื่อปีพุทธศักราช 2543 ได้รับความเห็นชอบจากรัฐสภา หากเมื่อใดที่รัฐสภาให้ความเห็นชอบ บันทึกความเข้าใจฯ ดังกล่าวนั้นจะกลายเป็นสนธิสัญญาทันที แล้วจะส่งผลให้สนธิสัญญา ข้อตกลง และการขอสงวนสิทธิทั้งหลายที่ได้ เคยกระทำไว้อย่างถูกต้องก่อนหน้านี้และมีผลบังคับใช้ซึ่งส่งผลดีอย่างยิ่งต่อราชอาณาจักรไทยต้องหมดสภาพบังคับ ประเทศไทยและประชาชนไทยจะต้องเสียเกียรติภูมิ กับเสียดินแดนและทรัพยากรธรรมชาติ ที่มีคุณค่ามหาศาลส่วนนี้ไปอย่างถาวร โดยยื่นผ่านนายสนอง บูรณะ รองราชเลขา ณ ทำเนียบองคมนตรี
วันนี้ (15 ก.ย.) เมื่อเวลา 11.30 น. ม.ล.วัลย์วิภา จรูญโรจน์ นักวิชาการไทยคดีศึกษา ในฐานะผู้ประสานงานเครือข่ายภาคีติดตามสถานการณ์ปราสาทพระวิหาร พร้อมด้วย ร.ต.แซมดิน เลิศบุศย์ ผู้ประสานงานกองทัพธรรม เข้าทูลเกล้าฯ ถวายฎีกา กรณีรัฐบาลดำเนินการเพื่อให้ บันทึกความเข้าใจระหว่างรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรไทย กับ รัฐบาลแห่งราชอาณาจักรกัมพูชาว่าด้วยการสำรวจและจัดทำหลักเขตแดนทางบก ที่เริ่มดำเนินการเมื่อปีพุทธศักราช 2543 ได้รับความเห็นชอบจากรัฐสภา หากเมื่อใดที่รัฐสภาให้ความเห็นชอบ บันทึกความเข้าใจฯ ดังกล่าวนั้นจะกลายเป็นสนธิสัญญาทันที แล้วจะส่งผลให้สนธิสัญญา ข้อตกลง และการขอสงวนสิทธิทั้งหลายที่ได้ เคยกระทำไว้อย่างถูกต้องก่อนหน้านี้และมีผลบังคับใช้ซึ่งส่งผลดีอย่างยิ่งต่อราชอาณาจักรไทยต้องหมดสภาพบังคับ ประเทศไทยและประชาชนไทยจะต้องเสียเกียรติภูมิ กับเสียดินแดนและทรัพยากรธรรมชาติ ที่มีคุณค่ามหาศาลส่วนนี้ไปอย่างถาวร โดยยื่นผ่านนายสนอง บูรณะ รองราชเลขา ณ ทำเนียบองคมนตรี
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น