วันอังคารที่ 14 กันยายน พ.ศ. 2553
สยองถ่ายรูปคุ้มเจ้าหลวงเมืองแพร่ติดภาพวิญญาณไร้"หัว-แขน"เผยเป็นที่ตั้งคุกขังนักโทษกบฎ
เมื่อวันที่ 14 กันยายน ที่สำนักงานส่งเสริมและพัฒนาไม้เศรษฐกิจแพร่ ถนนยันตรกิจโกศล อ.เมือง จ.แพร่ นายอิทธิชัย ประมาณ หัวหน้างานบัญชีการเงิน ได้นำเอารูปถ่ายชวนสยอง ออกมาดูและวิพากษ์วิจารณ์พร้อมกับหวาดผวาไปตามๆ เป็นรูปผู้ชายใส่เสื้อสีแดงเลือดนก กางเกงขายาว ถ่ายหน้าคุ้มเจ้าหลวงเมืองแพร่ ชายดังกล่าวไม่มีหัว และแขนทั้งสองข้าง
หลังจากได้การพิจารณากันเป็นเวลานาน จึงได้เชิญผู้เชี่ยวชาญด้านการถ่ายรูปอัดภาพ มาจากร้านถ่ายรูปแห่งหนึ่งมาตรวจสอบด้วย ก็ยืนยันว่าเป็นรูปที่ไม่ได้ตัดต่อ อาจเป็นเพราะเทคนิคและเอฟเฟคท์ของแสงและสี
นายอิทธิชัย กล่าวว่า วันที่ 13 กันยายน มีเจ้าหน้าที่สำนักงานตรวจเงินแผ่นดินจากส่วนกลาง มาทำการตรวจบัญชี ตอนค่ำได้นำคณะไปกราบไหว้ศาลหลักเมืองและเที่ยวชมคุ้มเจ้าหลวงเมืองแพร่ ในช่วงเวลาประมาณ 20.00 น. ได้ถ่ายรูปให้กับพนักงานขับรถของคณะโดยถ่ายที่บริเวณหน้าอาคารที่มีความสวยงาม เห็นอาคารทรงไทยได้ดี และหลังจากถ่ายเสร็จแล้วก็ไม่ได้คิดอะไร จนกระทั่งรุ่งเช้านำรูปมาเปิดดูเพื่อคัดส่งให้คณะที่มาตรวจงาน พอเปิดรูปของพนักงานขับรถที่ถ่ายไว้ 1 ภาพ ต้องตกใจ เพราะว่ารูปที่เห็นเป็นรูปที่ไม่มีหัว และแขนสองข้าง
นายสมชัย หทยะตันติ ผู้ว่าราชการจังหวัด กล่าวว่า เดิมคุ้มเจ้าหลวงเมืองแพร่เป็นคุ้มเจ้าหลวงที่เป็นสถาปัตยกรรมสมัยรัชการที่ 5 ยุคต้น มีรูปเป็นแบบสถาปัตยกรรมไทยผสมยุโรป คุ้มเจ้าหลวง มีความหรูหราสง่างามมีประตูมากถึง 72 บาน ในสมัยรัฐการที่ 5 ได้จัดให้เป็นที่พักของเจ้าหลวงเมืองแพร่ และภายใต้ดิน ยังได้สร้างเป็นคุกขังนักโทษกบฎ ในสมัยนั้นและมีนักโทษตายในคุกจำนวนมาก ต่อมาทางการได้ปรับปรุง ให้เป็นที่พักของผู้ว่าราชการจังหวัด ที่เรียกว่าจวนผู้ว่าราชการ เมื่อ 20 ปีที่ผ่านมา จากปัญหาหลายด้านทั้งทางด้านวัฒนธรรม ทางด้านความเชื่อทางไศยศาสตร์ ก็เกิดมีการกล่าวขานกันเป็นประจำ เลยต้องสร้างจวนผู้ว่าหลังใหม่ และก็ได้โอนถ่ายคุ้มเจ้าหลวงมาอยู่ในความดูแลของ อบจ.แพร่ จนถึงปัจจุบัน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ผู้ที่ได้เห็นภาพดังกล่าวต่างวิพากษ์วิจารณ์กันไปต่างๆ นาๆ ถึงภาพที่เกิดขึ้นและหวาดผวา บางรายเผยว่าอาจจะเป็นพระยาไชยบูรณ์ มาปรากฏให้เห็น เนื่องจากในสมัยกบฏเงี้ยวปล้นเมืองแพร่ พระยาไชยบูรณ์ได้ร่วมรบ และถูกพวกเงี้ยวฟันศีรษะขาดในสนามรบในอดีต
ขอขอบคุณ มติชนออนไลน์
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น