ใบส่งมอบเรือ แบบชัดๆ
ใบเสร็จน้ำดื่มแบบชัดๆ
เอกสารรวมค่าใช้จ่ายที่ซ์้อเรือทั้งหมด เป็นเงินเจ็ดล้านกว่าบาท ไม่ได้นำของ ศปภ.ไปใช้เลย
รถยกฯ ที่ติดชื่อทักษิณ ก็เป็นรถยก ที่คนให้มาใช้งานด้วยความรักท่านทักษิณ และเสื้อแดง
นี่คือสำเนาบัตรประชาชน ผู้บริจาคน้ำดื่มให้กับจตุพร พรหมพันธ์
วันนี้ (28 พ.ย.) ที่รัฐสภา นายจตุพร พรหมพันธุ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคเพื่อไทย และแกนนำกลุ่ม นปช. หรือกลุ่มคนเสื้อแดง กล่าวถึงกรณีที่พรรคประชาธิปัตย์อภิปรายไม่ไว้วางใจ พล.ต.อ.ประชา พรหมนอก รมว.ยุติธรรม ในฐานะผู้อำนวยการ ศปภ. โดยนายศิริโชค โสภา ส.ส.สงขลา พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวหา พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร เบียดบังสิ่งของบริจาคน้ำท่วมมาเป็นของตัวเอง ทั้ง เรือและถุงยังชีพ โดยมีการลบชื่อผู้บริจาคออกและนำชื่อของตัวเองไปติดแทนว่า ตนอยากจะบอกไปยังนายศิริโชคว่า พ.ต.ท.ทักษิณ มีการซื้อเรือทั้งชนิดแบบพายและมีเครื่องติดอยู่ จำนวนทั้งสิ้น 2,175 ลำ รวมเป็นเงินประมาณ 7 ล้านบาท และยังซื้อข้าวสารอีก 500,000 บาท น้ำพริก 60,000 บาท ซึ่งเอามารวมรวมเป็นถุงยังชีพจำนวนกว่า 1,500,000 บาท โดยการจัดซื้อผ่านนางกนกพร ศิริพรรณาภิรัตน์ ซึ่งเป็นมิตรสหายและกลุ่มคนเสื้อแดงที่รู้จักกับ พ.ต.ท.ทักษิณ
ส่วนกรณีที่นายศิริโชคกล่าวหาตนว่สนำเอาทรัพย์สินของทางราชการอย่างเช่นน้ำดื่มบริจาคมาเป็นของตัวเองนั้น นายจตุพรกล่าวว่า สิ่งที่นายศิริโชคพูดทั้งหมดนั้นเป็นความเท็จ เพราะน้ำดื่มดังกล่าวนั้นเป็นน้ำที่นายอนันต์ สัจจาไชยนนท์ และพี่ชายของเขาเป็นผู้ซื้อน้ำมาจากบริษัท พีพี นคร (ประเทศไทย) จำกัด ซึ่งเป็นน้ำดื่มของกลุ่มคนเสื้อแดงอยู่แล้ว โดยทั้ง 2 คนซื้อน้ำดื่มมาทั้งหมด 2,722 แพก และนำมามอบให้กับตน จึงมีการเขียนชื่อของตนเอาไว้ในรูปที่นายศิริโชคนำมาอภิปรายเท่านั้น
นายจตุพรกล่าวว่า สิ่งที่พรรคประชาธิปัตย์เอามาอภิปรายวานนี้ เป็นการอภิปรายที่ใช้ไม่ได้ ไม่มีการเตรียมตัวหาข้อมูลมาล่วงหน้า มีแต่การใส่ความผู้อื่นเท่านั้น เพราะฉะนั้นภายในสัปดาห์นี้ตนจะเข้าแจ้งความต่อกองปราบปรามเพื่อเอาผิดนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะผู้นำฝ่ายค้าน พร้อมด้วยพวกอีก 154 คนที่ลงนามในญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจ โดยตนจะแจ้ง 2 ข้อหา คือ การหมิ่นประมาท และพูดความเท็จ และหลังจากนั้นตนก็จะยื่นฟ้องต่อศาลเพ่งเพื่อเรียกร้องค่าเสียหายด้วย ซึ่งหลักฐานในการรับส่งมอบของทั้งหมด ตนมีอยู่ และยังมีพยานที่เป็นบุคคลที่พร้อมที่ช่วยเป็นพยานให้ในการต่อสู้ครั้งนี้ด้วย โดยการฟ้องร้องในครั้งนี้ตนจะฟ้องในนามตัวเองก่อน ส่วนของ พ.ต.ท.ทักษิณ ตนก็คงจะมีการหารืออีกครั้งหนึ่ง
ส่วนกรณีที่พรรคประชาธิปัตย์ออกมาข่มขู่ว่าจะมีการยื่นถอดถอน ส.ส.ของพรรคเพื่อไทย ออกจากตำแหน่งเพิ่มเติมด้วยนั้น นายจตุพรกล่าวว่า ตนอยากจะบอกพรรคประชาธิปัตย์ว่าอย่าชักช้า เพราะ ส.ส.ของพรรคเพื่อไทยทุกคนทำงานเพื่อประชาชน และไม่มีใครกลัวต่อการข่มขู่ของพรรคประชาธิปัตย์ด้วย
ส่วนกรณีที่นายศิริโชคกล่าวหาตนว่สนำเอาทรัพย์สินของทางราชการอย่างเช่นน้ำดื่มบริจาคมาเป็นของตัวเองนั้น นายจตุพรกล่าวว่า สิ่งที่นายศิริโชคพูดทั้งหมดนั้นเป็นความเท็จ เพราะน้ำดื่มดังกล่าวนั้นเป็นน้ำที่นายอนันต์ สัจจาไชยนนท์ และพี่ชายของเขาเป็นผู้ซื้อน้ำมาจากบริษัท พีพี นคร (ประเทศไทย) จำกัด ซึ่งเป็นน้ำดื่มของกลุ่มคนเสื้อแดงอยู่แล้ว โดยทั้ง 2 คนซื้อน้ำดื่มมาทั้งหมด 2,722 แพก และนำมามอบให้กับตน จึงมีการเขียนชื่อของตนเอาไว้ในรูปที่นายศิริโชคนำมาอภิปรายเท่านั้น
นายจตุพรกล่าวว่า สิ่งที่พรรคประชาธิปัตย์เอามาอภิปรายวานนี้ เป็นการอภิปรายที่ใช้ไม่ได้ ไม่มีการเตรียมตัวหาข้อมูลมาล่วงหน้า มีแต่การใส่ความผู้อื่นเท่านั้น เพราะฉะนั้นภายในสัปดาห์นี้ตนจะเข้าแจ้งความต่อกองปราบปรามเพื่อเอาผิดนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะผู้นำฝ่ายค้าน พร้อมด้วยพวกอีก 154 คนที่ลงนามในญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจ โดยตนจะแจ้ง 2 ข้อหา คือ การหมิ่นประมาท และพูดความเท็จ และหลังจากนั้นตนก็จะยื่นฟ้องต่อศาลเพ่งเพื่อเรียกร้องค่าเสียหายด้วย ซึ่งหลักฐานในการรับส่งมอบของทั้งหมด ตนมีอยู่ และยังมีพยานที่เป็นบุคคลที่พร้อมที่ช่วยเป็นพยานให้ในการต่อสู้ครั้งนี้ด้วย โดยการฟ้องร้องในครั้งนี้ตนจะฟ้องในนามตัวเองก่อน ส่วนของ พ.ต.ท.ทักษิณ ตนก็คงจะมีการหารืออีกครั้งหนึ่ง
ส่วนกรณีที่พรรคประชาธิปัตย์ออกมาข่มขู่ว่าจะมีการยื่นถอดถอน ส.ส.ของพรรคเพื่อไทย ออกจากตำแหน่งเพิ่มเติมด้วยนั้น นายจตุพรกล่าวว่า ตนอยากจะบอกพรรคประชาธิปัตย์ว่าอย่าชักช้า เพราะ ส.ส.ของพรรคเพื่อไทยทุกคนทำงานเพื่อประชาชน และไม่มีใครกลัวต่อการข่มขู่ของพรรคประชาธิปัตย์ด้วย
ที่มาของภาพ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น