เมื่อวันที่ 26พ.ย. ที่ผ่านมา น.ส.มัลลิกา บุญมีตระกูล รองโฆษก พรรคประชาธิปัตย์(ปชป.)แถลงว่าในวันที่ 28 พ.ย.นี้ ตนเองจะทำหนังสือถึงนายกรัฐมนตรี และรมว.ไอซีที เพื่อขอให้ปราบปรามเว็บไซต์ที่มีเนื้อหากระทบกระเทือนสถาบันพระมหากษัตริย์
พร้อมเสนอวิธีที่เบาที่สุด คือให้ประสานงานไปยังรัฐบาลที่เว็บไซต์นั้นตั้งอยู่เพื่อขอให้ปิดเว็บไซต์ดังกล่าว แต่แรงที่สุด คือให้ปิดเว็บไซต์ยูทูบหรือเฟซบุ๊กไปเลยเหมือนอย่างที่รัฐบาลจีนเคยทำ
นอกจากนี้ปชป.ยังได้เปิดเฟซบุ๊ก Fight Bad Web พร้อมอีเมล์Fightbadweb@gmail.com เพื่อรับเรื่องร้องเรียนที่เกี่ยวข้องกับการทำความผิดตามพ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ พ.ศ.2551 ใน 4 ฐานความผิด ได้แก่ 1.หมิ่นสถาบัน 2.ความมั่นคง 3.ลามกอนาจาร และ 4.ยาเสพติด-การพนัน
พลันที่ข่าวแนวคิดจากรองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์แพร่สะพัดออกไปไม่ถึงชั่วโมง กระแสวิพากษ์วิจารณ์ตามมาอย่างร้อนแรงกับแนวคิด ปิดยูทูป ปิดเฟซบุค!?! ในสังคมออนไลน์
มัลลิกา คิดอย่างไรถึงเสนอไอเดียที่ถูกผู้คนในโลกออนไลน์ทวิตตั้งคำถามว่า ราวกับจบปริญญาโทมาจากเกาหลีเหนือ
"ประชาชาติธุรกิจออนไลน์" ตามไปถาม "มอลลี่" มัลลิกา บุญมีตระกูล ที่อาคารรัฐสภา ปัจจุบันเธอคือรองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ อดีตเลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม อดีตที่ปรึกษารัฐมนตรีไอซีที และอดีตผู้ประกาศข่าวและพิธีกรรายการร่วมมือร่วมใจ สถานีโทรทัศน์ไอทีวี
โดยแจ้งเธอว่าเราจะอัพโหลดขึ้น "ยูทูป" ด้วย และข่าวก็ต้องถูกแชร์ลง "เฟซบุค"ด้วยเช่นกัน โดยได้ตั้งข้อสงสัยถึงไอเดียนี้ว่ามีที่มาอย่างไร?
ขอขอบคุณ มตชนออนไลน์และประชาชาติออนไลน์
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น