วันศุกร์ที่ 23 มีนาคม พ.ศ. 2555

"ไทย-แคนนาดา" ชื่นมื่น ร่วมลงปฏิญญาส่งเสริมธรรมมาภิบาล

















เวลา 10.30 น. วันที่ 23 มี.ค. ที่ทำเนียบรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ให้การต้อนรับนายสตีเวน ฮาร์เปอร์ นายกรัฐมนตรีแคนาดา ที่เดินทางมาเยือนประเทศไทยอย่างเป็นทางการที่ทำเนียบรัฐบาล โดยนายกรัฐมนตรีได้นำนายกรัฐมนตรีแคนาดาตรวจแถวทหารกองเกียรติยศบริเวณสนามหญ้าด้านหน้าตึกไทยคู่ฟ้าเพื่อเป็นการต้อนรับ

นายกรัฐมนตรีทั้งสองได้หารือข้อราชการถึงความร่วมมือทวิภาคี ได้แก่ ความร่วมมือด้านการค้า การลงทุน พลังงาน การศึกษา และความมั่นคงตลอดจนความร่วมมือกับอาเซียนและระหว่างประเทศภายหลังเสร็จสิ้นการหารือนายกรัฐมนตรี และนายกรัฐมนตรีแคนาดากับ เป็นสักขีพยานร่วมในพิธีลงนามปฏิญญาแสดงเจตน์จำนงในการจัดทำตราสารระหว่างรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรไทยและรัฐบาลแห่งแคนาดาว่าด้วยการแลกเปลี่ยนเยาวชน และพิธีลงนามหนังสือความเข้าใจระหว่างกระทรวงการต่างประเทศและการค้าระหว่างประเทศแคนาดาและสำนักงานตำรวจแห่งชาติ

จากนั้น นายกรัฐมนตรีทั้งสองประเทศแถลงข่าวร่วมกันเพื่อแสดงความยินดีในโอกาสฉลองครบรอบ 35 ปี ของความสัมพันธ์อาเซียน-แคนาดา โดยน.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าวว่า การเดินทางมาเยือนไทยของนายสตีเวน ฮาร์เปอร์ นายกรัฐมนตรีแคนาดาครั้งนี้ เป็นการแสดงให้เห็นถึงความสัมพันธ์อันดีระหว่างไทย-แคนาดา ซึ่งก้าวเข้าสู่ปีที่ 51 และเป็นการเฉลิมฉลองครบรอบ 35 ปีของความสัมพันธ์อาเซียน-แคนาดา ซึ่งไทยเป็นประเทศผู้ประสานงาน ตนและนายกรัฐมนตรีแคนาดาได้หารือเกี่ยวกับความร่วมมือของสองประเทศในด้านต่างๆ อาทิ การส่งเสริมการค้าและการลงทุน และตกลงกันถึงความเป็นไปได้ในการจัดทำความตกลงเขตการค้าเสรี โดยตนได้เชิญชวนให้แคนาดาเข้ามาลงทุนในประเทศไทยในอุตสากรรมอิเลคทรอนิคส์ เครื่องจักรกล ยานยนต์ เทคโนโลยีสารสนเทศ รวมถึงเทคโนโลยีพลังงานสะอาด อนุรักษ์สิ่งแวดล้อมและเทคโนโลยีชีวภาพ นอกจากนี้ยังได้หารือถึงการขยายความร่วมมือด้านพลังงาน ซึ่งบริษัท ปตท.สผ.ได้เข้าไปลงทุนในแคนาดาตั้งแต่ปี 2553 นอกจากนี้ยังได้หารือถึงความเป็นไปได้ในความร่วมมือด้านการเฝ้าระวังทรัพยกากรและภัยธรรมชาติโยอาศัยเทคโนโลยีดาวเทียม

น.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าวว่า นายกรัฐมนตรีแคนาดและตนได้เป็นสักขีพยานในการลงนามเอกสารความร่วมมือระหว่างสำนักงานตำรวจแห่งชาติของไทยและกระทรวงการต่างประเทศและการค้าของแคนาดา ซึ่งไทยยินดีที่จะร่วมงานกับแคนาดาในการต่อต้านการลักลอบขนคนข้ามชาติ การก่อการร้ายและอาชญากรรมข้ามชาติ นอกจากนั้น นายกรัฐมนตรีแคนาดาและตน ยังได้เป็นสักขีพยานในการลงนามในปฏิญญาแสดงเจตจำนงค์ในการจัดทำความตกลงว่าด้วยการแลกเปลี่ยนเยาวชน ซึ่งมีผลให้เยาวชนทั้งสองประเทศเข้าไปท่องเที่ยวและทำงานชั่วคราว ถือเป็นการเปิดโอกาสให้สัมผัสและเรียนรู้ความงดงามของวัฒนธรรมระหว่างกัน ถือเป็นการกระชับความสัมพันธ์ระหว่างกันให้แน่นแฟ้นมากยิ่งขึ้น และในฐานะประเทศเอเชียแปซิฟิกไทยและแคนาดา จะร่วมมือกันอย่างใกล้ชิดในประเด็นระดับภูมิภาคที่อยู่ในความสนใจของทั้งสองฝ่าย โดยเฉพาะการลดช่องว่างในด้านการพัฒนาและการส่งเสริมประชาคมอาเซียนให้มีความเชื่อมโยงกันมากยิ่งขึ้น ไทยและแคนาดาจะร่วมกันส่งเสริมค่านิยมธรรมาภิบาล สิทธิมนุษยชนและประชาธิปไตย


ไม่มีความคิดเห็น: