นายชลิตรัตน์ จันทรุเบกษา รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.) เมื่อวันที่ 13 มี.ค. อนุมัติกรอบงบประมาณแก้ไขปัญหาอุทกภัยระยะเร่งด่วน จำนวน 246 โครงการ งบประมาณ 24,828 ล้านบาท ตามที่คณะกรรมการบริหารจัดการน้ำและอุทกภัย (กบอ.) เสนอ ซึ่งโครงการดังกล่าวได้ครม.ได้รับทราบแล้วเมื่อวันที่ 6 มี.ค.2555และคณะกรรมการนโยบายน้ำและอุทกภัยแห่งชาติ (กนอช.) มีมติเห็นชอบกับแผนดังกล่าวแล้วเช่นกัน เมื่อวันที่ 12 มี.ค.ที่ผ่านมา
ขณะเดียวกันครม.ยังเห็นชอบแนวทางการดำเนินงานตามพระราชกำหนดให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อวางระบบบริหารจัดการน้ำและสร้างอนาคตประเทศ วงเงิน 350,000ล้านบาท ตามที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาได้แก้ไขเพิ่มเติมในร่างระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการบริหารโครงการเพื่อวางระบบบริหารจัดการน้ำและสร้างอนาคตประเทศ เพื่อให้กระบวนการบริหารโครงการและการใช้จ่ายเงินกู้มีความถูกต้องเหมาะสม และชัดเจนยิ่งขึ้น รวมทั้งสอดคล้องกับระเบียบอื่นๆที่เกี่ยวข้อง
สำหรับสาระสำคัญที่ทางสำนักงานกฤษฎีกาเสนอเพิ่มเติมนั้นประกอบด้วย กำหนดให้ร่างระเบียบนี้ใช้บังคับเฉพาะโครงการที่ต้องดำเนินการโดยใช้จ่ายจากเงินกู้ 350,000 ล้านบาทเท่านั้น พร้อมทั้งให้มีการกำหนดระยะเวลาในการเสนอโครงการที่ประสงค์จะใช้จ่ายจากเงินกู้ กรอบระยะเวลาในการใช้เงินเหลือจ่ายเพื่อดำเนินโครงการใดเพิ่มเติม เพื่อให้ฝ่ายบริหารสามารถดำเนินการผลักดันโครงการให้สอดคล้องกับกำหนดเวลาในการกู้เงินตามพ.ร.ก.กู้เงิน 350,000 ล้านบาท
นอกจากนี้ ยังเห็นควรให้ปรับปรุงขั้นตอนการอนุมัติโครงการ โดยกำหนดให้ขั้นตอนในการขออนุมัติจัดสรรวงเงินกู้ของหน่วยงานเจ้าของโครงการ กรณีที่เป็นโครงการตามระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการบริหารจัดการน้ำและอุทกภัยแห่งชาติ พ.ศ.2555 ให้เสนอต่อกบอ.เพื่อเสนอต่อกนอช.ก่อนเสนอต่อครม.พิจารณาอนุมัติ ส่วนกรณีที่เป็นโครงการตามแผนยุทธศาสตร์เพื่อการฟื้นฟูและสร้างอนาคตประเทศให้เสนอต่อคณะกรรมการยุทธศาสตร์เพื่อการฟื้นฟูและสร้างอนาคตประเทศ(กยอ.)ก่อนเสนอครม.พิจารณาอนุมัติ ขณะที่การติดตามและการประเมินผลโครงการนั้น ยังคงกำหนดให้หน่วยงานเลขานุการของกบอ.และกยอ.ทำหน้าที่ดังกล่าว เพื่อให้สอดคล้องกับระเบียบอื่นที่เกี่ยวข้องและมีหน่วยงานที่รับผิดชอบโดยตรง
“ครม.ได้เน้นย้ำให้หน่วยงานเจ้าของโครงการจัดทำแผนผังการดำเนินงานหรือFlow Chart ซึ่งจะบอกกรอบระยะเวลา ขนาดของโครงการ และให้ทางสำนักงานกฤษฎีกา กระทรวงการคลัง สำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ ไปศึกษาวางหลักเกณฑ์การทำงานต่อไป” นายชลิตรัตน์กล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการอนุมัติโครงการแก้ปัญหาอุทกภัย 246 โครงการ วงเงิน 24,828 ล้านบาทของครม.ครั้งนี้ ได้มีการตั้งข้อสังเกตว่า เอกสารที่นายปลอดประสพ สุรัสวดี รมว.วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ในฐานะประธานกบอ.เสนอให้ครม.พิจารณานั้น ไม่มีรายละเอียดของโครงการ เป็นเพียงเสนอชื่อโครงการและวงเงินเท่านั้น ไม่ได้ระบุรายละเอียดสถานที่ดำเนินโครงการ แผนการปฏิบัติงานที่ชัดเจน แต่เนื่องจากเป็นโครงการเร่งด่วนเพื่อป้องกันน้ำท่วมให้เสร็จทันภายในเดือนพ.ค.-มิ.ย.นี้ ครม.จึงจำเป็นต้องอนุมัติให้ดำเนินการไปก่อน โดยหลังจากที่ครม.อนุมัติกรอบวงเงินโครงการแล้วให้ส่งรายละเอียดไปยังสำนักงบประมาณเพื่อขออนุมัติงบประมาณ และต้องแจ้งให้ประธานกบอ.รับทราบก่อนอนุมัติงบประมาณให้
ทั้งนี้ที่ประชุมครม.มีความเห็นว่า การพิจารณาอนุมัติครั้งนี้ ถือเป็นกรณีพิเศษ เฉพาะ 246 โครงการนี้เท่านั้น เนื่องจากว่า ถ้าทำตามขั้นตอนก็จะต้องกลับไปเริ่มนับหนึ่งใหม่ ทำให้การแก้ไขปัญหาน้ำท่วมไม่ทันแน่นอน ซึ่งน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีในย้ำในที่ประชุมครม. ในการพิจารณาโครงการแก้ไขปัญหาน้ำท่วมครั้งต่อไป จะต้องทำตามขั้นตามระเบียบสำนักงบประมาณ โดยให้เจ้าของโครงการต้องเสนอโครงการพร้อมรายละเอียดและแผนบริหารเสนอผ่านกบอ.ก่อน เมื่อกบอ.ทำเรื่องและผ่านความเห็นชอบจาก กนอช.จึงเสนอให้ครม.ให้ความเห็นชอบต่อไป
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น