ภาพรอยเตอร์ 141 พ.ย.2553 นางอองซานซูจี พบปะกับฝูงชนนัดแรก ประกาศขอให้ประชาชน
พม่าไม่สิ้นหวัง และ ฝ่ายค้านจะต้องรวมตัวกันต่อสู้เพื่อให้บรรลุเป้าหมายคือ ประชาธิปไตยที่
ยุติธรรมสำหรับทุกคน ผู้นำฝ่ายค้านกลุ่มใหญ่ที่สุดของประเทศยังกล่าวว่า พร้อมจะเจรจากับ
คณะปกครองทหารและทุกๆ ฝ่าย นับเป็นการแสดงเจตนารมณ์ที่จะไม่ยอมจำนนและดำเนินการ
ต่อสู้ทางการเมืองต่อไป แม้จะถูกกักขัง กักบริเวณยาวนานถึง 15 ปีตลอดเวลา 21 ปีมานี้
ย่างกุ้ง (รอยเตอร์/เอเอฟพี)-- นางอองซานซูจี ผู้นำฝ่ายค้านกลุ่มใหญ่ที่สุดในพม่าได้เรียกร้อง
ให้ประชาชน "อย่าเพิ่งสิ้นหวัง" และ ขอให้ฝ่ายค้านทุกกลุ่มสามัคคี เพื่อต่อสู้ให้ถึงเป้าหมาย คือ
ประชาธิปไตยสำหรับทุกคน ขณะเดียวกันก็ส่งสัญญาณถึงยังคณะปกครองทหาร "ไม่เคยคิดว่า
เป็นศัตรู" และ ขอเพียงสิ่งเดียวคือ สิทธิเสรีภาพในการแสดงออก
ในการปราศรัยต่อฝูงชนนับหมื่นๆ คน ที่ไปชุมนุมนอกที่ทำการพรรคสันนิบาติแห่งชาติเพื่อประชาธิปไตย
ในกรุงย่างกุ้งในวันอาทิตย์ (14 พ.ย.) นี้ นางซูจีระบุด้วยว่า จะต้องฟังความคิดเห็นของประชาชนก่อน
จะดำเนินการอะไรต่อไป ขณะเดียวกันก็ประกาศพร้อมที่จะพบเจรจากับทุกฝ่าย
นางซูจีเคยได้พบหารือกับพลเอกอาวุโสตานฉ่วย ผู้นำคณะปกครองทหารครั้งแรกและครั้งเดียวในปี
2546 ต่อมาในปี 2552 คณะปกครองทหารได้แต่งตั้งให้ระดับรัฐมนตรีช่วยว่าการคนหนึ่งเป็นผู้เจรจา
กับพรรคฝ่ายค้าน แต่ไม่มีความคืบหน้าอะไร เนื่องจากนางซูจียังคงถูกกักบริเวณในบ้านพักตลอด 6 ปี
ที่ผ่านมา
การกักบริเวณครั้งล่าสุดเป็นเวลา 18 เดือนสิ้นสุดลงในวันเสาร์ และค่ำวันเดียวกันผู้สนับสนุนกว่า 1,000
คน ได้ไปชุมนุมที่หน้าบ้านพักแสดงความยินดีที่ได้รับอิสรภาพ
นางซูจีได้เรียกร้องให้ผู้สนับสนุนและประชาชนทั่วไปต้องรวมกันเป็นหนึ่งเดียวในการต่อสู้ เพื่อให้ไปถึง
เป้าหมาย โดยระบุว่า "หมดเวลาสำหรับการเงียบ และหมดเวลาสำหรับการพูดแล้ว"
การปราศรัยต่อหน้าฝูงชนเป็นครั้งแรกในวันอาทิตย์นี้ ได้แสดงให้เห็นความตั้งใจอันแรงกล้าที่จะต่อสู้ต่อ
ไปในประเทศที่ปกครองโดยเผด็จการทหารติดต่อกันมา 47 ปี
"เสรีภาพขึ้นพื้นฐานของประชาธิปไตยคือ เสรีภาพในการแสดงออก" สำนักข่าวรอยเตอร์อ้างคำพูดของ
นางซูจี ซึ่งทำให้ฝูงชนที่แออัดกันตามทางยาว ช่วงหัวมุมถนนสายหนึ่งโห่ร้องขานรับอย่างกึกก้อง
"แม้คุณจะไม่ใช่นักการเมือง การเมืองก็จะไปหาคุณ" นางซูจีกล่าว
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น