วันอังคารที่ 16 พฤศจิกายน พ.ศ. 2553

งานวัดภูเขาทอง เริ่ม 17-23 พฤศจิกายน นี้


วัดสระเกศ ราชวรมหาวิหาร เป็นวัดเก่าแก่ มีมาตั้งแต่ครั้งกรุงศรีอยุธยา เป็นวัดหนึ่งที่อยู่คู่บ้านคู่เมืองมาจนปัจจุบัน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เป็นวัดที่ประดิษฐาน พระบรมสารีริกธาตุ แห่งองค์บรมบรรพต (ภูเขาทอง) ซึ่งมีบันทึกไว้ในจดหมายเหตุ ที่บ่งบอกว่า เป็นพระบรมสารีริกธาตุที่แน่ชัดว่าเป็นของ องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า จากเมืองกบิลพัสตุ์ ประเทศอินเดีย โดย พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๕ ได้รับพระบรมสารีริกธาตุจากรัฐบาลอินเดีย และได้โปรดเกล้าฯ ให้บรรจุประดิษฐานไว้บนองค์บรมบรรพต (ภูเขาทอง) จากนั้นได้โปรดเกล้าฯ ให้มีการเฉลิมฉลองอย่างยิ่งใหญ่ จนกลายเป็น ประเพณีนมัสการพระบรมสารีริกธาตุ สืบต่อมายาวนาน นับ ๑๐๐ ปี จนถึงปัจจุบัน ที่เรียกกันในเวลาต่อมาว่า งานวัดภูเขาทอง

จนมีการกล่าวกันว่า งานวัดภูเขาทอง เป็นต้นกำเนิดของงานวัดในเมืองไทย และเป็นงานใหญ่ประจำปี ที่ชาวกรุงเทพพระนคร เฝ้ารอคอยที่จะมาร่วมงานเสมอมา

อย่างไรก็ตาม รูปแบบของงานวัด อาจเปลี่ยนแปลงไปบ้างตามกาลเวลา แต่งานวัดภูเขาทองยังคงเป็นงานวัดที่คงรูปแบบ และกลิ่นอายของงานวัดในอดีต นับเป็นงานวัดที่มีขนาดใหญ่ที่สุด และยังคงได้รับความนิยมและกล่าวขวัญถึงมากที่สุด จนทุกวันนี้

สำหรับปีนี้ มีกำหนดการจัดงาน ระหว่างวันที่ 17-23 พฤศจิกายนนี้ โดยมีวัตถุประสงค์ ๑.เพื่อสืบสานประเพณีอันศักดิ์สิทธิ์ที่สำคัญทางประวัติศาสตร์ และเป็นเอกลักษณ์อันดีงามสืบไป ๒.เพื่อถวายเป็นพระราชกุศล แด่ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ๓.เพื่อสร้างความเป็นสิริรมงคลแก่ประเทศชาติ และผู้ร่วมงาน ๔.ส่งเสริมการท่องเที่ยวในกรุงเทพมหานคร ทั้งชาวไทย และชาวต่างประเทศ ด้วยการจัดกิจกรรมที่ดึงดูดความสนใจ สร้างสีสันให้เมืองหลวง ๕.เพื่อให้ความรู้เกี่ยวกับประวัติศาสตร์ อันทรงคุณค่าของบ้านเมืองของไทย โดยเฉพาะอย่างยิ่งวัด ซึ่งถือเป็นสถานที่หล่อหลอมรวมประวัติศาสตร์อันทรงคุณค่าของบ้านเมืองไว้ ๖.เพื่อสร้างกิจกรรมอันเป็นประโยชน์ ทั้งในด้านคุณค่าทางสติปัญญา จิตใจ สนับสนุนให้ครอบครัว สังคม ได้มาชมกิจกรรมนี้ร่วมกัน

กิจกรรมในงานประกอบด้วย เทศกาลงานบุญ, เทศกาลงานวัด (แบบย้อนยุค) และเทศกาลงานสมโภชองค์พระบรมสารีริกธาตุ

โดยเฉพาะอย่างยิ่ง พิธีอัญเชิญและขบวน แห่ผ้าแดง เพื่อนมัสการพระบรมสารีริกธาตุ ซึ่งเป็นพิธีที่มีมาตั้งแต่รัชกาลที่ ๕ เพราะเชื่อกันว่า เป็นพิธีที่ทำให้เกิดสิริมงคลอย่างยิ่ง ด้วยอานุภาพแห่งพุทธบูชา คือ การสักการบูชาพระเจดีย์ที่บรรจุพระบรมสารีริกธาตุ จะทำให้เกิดความร่มเย็นเป็นสุข มีความเจริญรุ่งเรืองก้าวหน้าในชีวิต เสริมชะตา เสริมบารมี แคล้วคลาดปลอดภัยจากสรรพอันตราย

พิธีห่มผ้าแดง ประกอบด้วยรถแห่ ขบวนฉัตรริ้วทิวธง ขบวนม้าตระการตา ประกอบพิธีย้อนยุค จำลองเหมือนครั้งอัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุในอดีต สมัยรัชกาลที่ ๕

นอกจากนี้ พุทธศาสนิกชนจะได้สักการบูชา พระพุทธรูป และสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ที่สำคัญๆ ภายในวัด ซึ่งบางองค์เปิดโอกาสให้สักการบูชาได้เฉพาะในงานนี้เท่านั้น

ในส่วนของกิจกรรมต่างๆ ประกอบด้วย ๑. ตลาดไทยย้อนยุค ๒. เวทีกิจกรรมกลางการแสดงดนตรีไทย, สาธิตศิลปะช่างสิบหมู่, หัตถกรรม, การทำอาหาร และขนมไทย, การแสดงดนตรีไทย และการแสดงเด็ก เช่น โขนเด็ก ฯลฯ

ในส่วนของกิจกรรมสาธิต งานช่างหัวโขน ซึ่งเป็นศิลปวัตถุประเภทประณีตศิลป์ ที่ได้รับการสร้างขึ้นอย่างวิจิตรประณีต ด้วยกระบวนการช่างแบบไทย ที่แสดงออกถึงภูมิปัญญาและเอกลักษณ์ในงานศิลปะแบบไทยประเพณีประเภทหนึ่ง

หัวโขนจึงเป็นศิลปวัตถุ ที่มีรูปลักษณะควรแก่การดูชม และเก็บรักษาไว้เพื่อการชื่นชมในรูปสมบัติและคุณสมบัติในฐานะศิลปกรรมไทยประเพณีวิธีการและกระบวนการทำหัวโขน โดยวิธีการอันเป็นไปตามระเบียบวิธีแห่งการช่างทำหัวโขน ตามขนบนิยม อันมีมาแต่ก่อน และยังคงถือปฎิบัติการทำหัวโขนของช่างหัวโขนบางคนต่อมา จนกระทั่งปัจจุบัน

"บุญนำพา"

ไม่มีความคิดเห็น: