วันอังคารที่ 16 สิงหาคม พ.ศ. 2554

"นายกฯปูเคาะโต๊ะ" นโยบายเสร็จแล้ว


น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เป็นประธานในการประชุมเพื่อพิจารณานโยบายรัฐบาลที่จะนำเข้าที่ประชุมครม.ในวันที่ 16 สิงหาคม โดยแบ่งเป็น 3 ส่วนคือ

1.พระราชเสาวนีย์ เช่น เรื่องการปราบปราบยาเสพติด การรักษาทรัพยากรธรรมชาติ การอนุรักษ์ศิลปวัฒนธรรม

2.นโยบายเร่งด่วนที่รัฐบาลต้องดำเนินการในปีแรกทั้งหมด ซึ่งจะเป็นนโยบายที่พรรคได้หาเสียงไว้ มี 16 ข้อ อาทิ สร้างความปรองดองฟื้นฟูระบอบประชาธิปไตย แก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนในปัญหาเงินเฟ้อและราคาน้ำมัน ฟื้นฟูความสัมพันธ์กับประเทศเพื่อนบ้าน การยกระดับราคาสินค้าเกษตร ยังมีพูดถึงการตั้งคณะกรรมการอิสระขึ้นมาแก้ไขรัฐธรรมนูญรวมถึงการเร่งเยียวยาผู้ที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ชุมนุมทางการเมืองทั้งเจ้าหน้าที่รัฐ นโยบายที่ว่าด้วยการเพิ่มรายได้และลดรายจ่าย ไม่ว่าจะเป็นการขึ้นค่าแรงขั้นต่ำวันละ 300 บาท และเงินเดือนปริญญาตรีให้แก่ข้าราชการและรัฐวิสาหกิจ 15,000 บาท โครงการจำนำราคาข้าว ที่จะเริ่มในฤดูเก็บเกี่ยวแรกเดือน พ.ย. รวมทั้งการแจกแท็บเล็ตพีซีให้กับนักเรียนชั้นประถมศึกษา 1 ให้ทันกับปีการศึกษาแรก เดือน พ.ค. 2555 เป็นต้น

3.เป็นนโยบายที่จะดำเนินการในช่วง 4 ปีของรัฐบาล ส่วนใหญ่จะเป็นนโยบายโครงการลงทุนขนาดใหญ่ เช่น รถไฟฟ้า 10 สาย 20 บาทตลอดทาง ทั้งนี้ ร่างนโยบายของรัฐบาลจะประกอบไปด้วยเนื้อหาจำนวน 34 หน้า

เวลา 20.30 น. น.ส.ยิ่งลักษณ์ ให้สัมภาษณ์ภายหลังการประชุมว่า ทุกนโยบายที่พรรคเพื่อไทยหาเสียงจะถูกนำมาบรรจุไว้เป็นนโยบายของรัฐบาล และจะต้องดูรายละเอียดอีกครั้งในที่ประชุม ครม.จากนั้นจะพิจารณาว่าจะสามารถแถลงต่อสภาได้เมื่อไร ซึ่งจะแจ้งให้ทราบอีกครั้ง

เมื่อถามว่านโยบายปรองดองและการแก้ไขรัฐธรรมนูญถูกบรรจุไว้เป็นนโยบายเร่งด่วนหรือไม่ น.ส.ยิ่งลักษณ์กล่าวว่า ก็ถูกบรรจุไว้

เมื่อถามว่า นโยบายขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ 300 บาท จะเริ่มดำเนินการในปีแรกเลยหรือไม่น.ส.ยิ่งลักษณ์กล่าวว่า จะทำเลยในช่วงปีแรก แต่จะต้องเจรจากับคณะกรรมการไตรภาคีอีกครั้งและจะทำควบคู่ไปกับการลดภาษีนิติบุคคล

นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.พาณิชย์ เปิดเผยว่า คณะทำงานยกร่างนโยบายของรัฐบาลได้จัดทำร่างนโยบายเสร็จสิ้นแล้ว ประกอบด้วย 2 ส่วนคือ 1. นโยบายเร่งด่วน และ 2. นโยบายของรัฐบาลในกรอบระยะเวลา 4 ปี นโยบายเร่งด่วนนั้นมีอยู่กว่า 10 เรื่อง ส่วนใหญ่เป็นนโยบายที่พรรคหาเสียงเอาไว้ เชื่อว่าเมื่อดำเนินการแล้วจะสำเร็จเห็นผลทันที โดยนายกฯ ได้ย้ำว่าจะต้องเร่งทำงานและให้เวลาลองทำงานไว้ 6 เดือนเท่านั้น เมื่อถามย้ำว่า มั่นใจว่านโยบายเร่งด่วนต้องเห็นผลภายใน 6 เดือนหรือไม่ นายกิตติรัตน์กล่าวทีเล่นทีจริงว่า ถ้า 6 เดือนไม่เห็นผล สงสัยคงต้องเปลี่ยนรองนายกฯ

ไม่มีความคิดเห็น: