วันเสาร์ที่ 27 สิงหาคม พ.ศ. 2554

"นายกฯยิ่งลักษณ์" มอบนโยบายข้าราชการ "ให้ลืมแก้แค้น แต่ทำงานให้ประชาชนดีที่สุด"




"ปู"แถลง - น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกฯ ประชุมชี้แจงนโยบายบริหารราชการแผ่นดินของรัฐบาล โดยมีหัวหน้าส่วนราช การทั้งหมดเข้ารับฟัง ที่ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล เมื่อ 26 ส.ค.

Go6tv: นายกฯปูทำงานทันที เปิดทำเนียบเรียกประชุมหัวหน้าหน่วยราชการ ผู้ว่าฯ ผบ.เหล่าทัพ มอบนโยบายบริหารราชการแผ่นดิน เน้นย้ำทำงานเป็นทีมไปในทิศทางเดียวกัน ยันชัดลืมคำว่าแก้แค้นไปได้เลย มาช่วยกันบูรณาการประเทศ เศรษฐกิจ สังคม ให้นึกว่าประชาชนคือลูกค้าสำคัญที่ต้องบริการให้ดีที่สุด

"นายกฯ"เปิดทำเนียบประชุมบิ๊กขรก.

เมื่อเวลา 09.15 น.วันที่ 26 ส.ค.ที่ทำเนียบรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เป็นประธานประชุมชี้แจงนโยบายของรัฐบาลและจัดทำแผนการบริหารราชการแผ่นดินต่อหัวหน้าส่วนราชการและหน่วยงาน โดยมีหัวหน้าส่วนราชการ ทั้งปลัดกระทรวง ผู้ว่าราชการจังหวัด และผู้นำเหล่าทัพเข้าร่วมอย่างพร้อมเพรียง

ทั้งนี้นายกรัฐมนตรีใช้เวลาชี้แจงนโยบายกับหัวหน้าส่วนราชการประมาณ 35 นาที โดยอธิบายถึงนโยบายของรัฐบาลทั้งหมดที่แถลงต่อรัฐสภา ทั้งนโยบายเร่งด่วน ไม่ว่าจะเป็นการสร้างความสามัคคีปรองดองของคนในชาติ การเยียวยาและฟื้นฟูประชาชนที่ได้รับผลกระทบทางด้านการเมือง ตั้งแต่ช่วงปลายของการใช้รัฐธรรมนูญปี 40 ซึ่งเป็นการเยียวยาทั้งภาคประชาชน เจ้าหน้าที่รัฐ และผู้ประกอบการ และการเยียวยาเหตุการณ์ความไม่สงบในภาคใต้ การสนับสนุนการตรวจสอบและค้นหาความจริงของคณะกรรมการอิสระตรวจสอบและค้นหาความจริง(คอป.) ให้เป็นไปอย่างอิสระ และการแก้ไขรัฐธรรมนูญที่ให้มีสภาร่างรัฐธรรมนูญที่มีความอิสระ และเลือกโดยภาคประชาชน ซึ่งจะให้ความอิสระเช่นเดียวกับ คอป. และไม่ได้เร่ง แต่สามารถทำได้ก่อนในปีแรก รวมทั้งการแก้ไขปัญหาค่าครองชีพของประชาชน สร้างโอกาส สร้างรายได้ให้เข้าถึงแหล่งเงินทุน ทั้งการขึ้นค่าแรง 300 บาทต่อวัน และรายได้ปริญญาตรี 15,000 บาท ลดราคาน้ำมัน การลดภาษีนิติบุคคล เป็นต้น

ประชาชนคือลูกค้าสำคัญ

น.ส.ยิ่งลักษณ์กล่าวอีกว่า นอกจากนี้ยังมีนโยบายที่ต้องทำภายใน 4 ปี แบ่งเป็น 7 เรื่อง ได้แก่ 1.นโยบายความมั่นคง ซึ่งอยากเห็นการเทิดทูนและปกป้องสถาบันพระมหากษัตริย์อย่างเป็นรูปธรรม และอยากเห็นการเสริมสร้างศักยภาพกองทัพเพื่อให้เป็นที่พึ่งของประชาชนได้ และฝากเรื่องกำจัดปัญหายาเสพติดและอาชญากรรมให้หมดไป 2.นโยบายเศรษฐกิจ อยากเห็นการลงทุนทั้งภาคการผลิต บริการ และภาคเกษตร 3.สังคมและคุณภาพอาชีพ โดยต้องเน้นวางรากฐานเพื่อให้เด็กแข่งขันกับอาเซียนได้ เช่นเดียวกับครู รัฐบาลพร้อมให้กำลังใจและสนับ สนุน ที่สำคัญอยากเห็นหน่วยงานที่จะมาบูรณาการเรื่องของเด็กและสตรีอย่างจริงจัง 4.นโยบายด้านที่ดิน ทรัพยากรธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อม ขอเน้นย้ำเรื่องแก้ไขปัญหาน้ำ ป่าไม้ทั้งระบบ โดยต้องหาหน่วยงานที่มาทำหน้าที่รณรงค์เพื่อให้มีการป้องกันระยะยาว 5.นโยบายวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี อยากให้สร้างนักวิทยาศาสตร์และนักวิจัยมากขึ้น 6.นโยบายการต่างประเทศ และเศรษฐกิจต่างประเทศ ซึ่งต้องใช้ความรอบคอบและความละเอียดอ่อนสร้างความสัมพันธ์กับนานาประเทศ และประเทศไทยต้องยืนให้ได้ในฐานะผู้นำอาเซียน 7.การบริหารกิจการบ้านเมืองที่ดี โดยต้องพัฒนาบุคลากร และเครื่องมือต่างๆ ให้เพียงพอ ที่สำคัญคืออยากเห็นหัวใจการบริการอย่างมืออาชีพและยึดหลักนิติ ธรรม ธรรมาภิบาล และความโปร่งใส วันนี้เราเก็บภาษีจากประชาชน เราต้องถือว่าประชาชนคือลูกค้าสำคัญที่เราต้องให้บริการ

ห้องทำงานเปิดรับทุกท่าน

"ดิฉันอยากเห็นการทำงานแบบบูรณาการ เพราะจะทำให้เกิดการตัดสินใจที่รวดเร็ว เราจะทำงานทั้งแบบแท่งตรงคือรายกระทรวง และแนวนอนก็ต้องเร่งให้เกิดขึ้น อีกเจตนารมณ์หนึ่งที่ดิฉันอยากให้ทุกท่านสบายใจคือรัฐบาลนี้เราไม่แก้แค้น เราไม่มีคำนี้ เราอยากเห็นความสามัคคีปรองดองเกิดขึ้น แต่อยากให้ทุกท่านทำงานอย่างเต็มที่ ขอให้ทำงานเพื่อสนองกับความต้องการของพี่น้องประชาชน สนองการบริการอย่างมืออาชีพ ที่สำคัญอยากขอให้ทำงานตามนโยบายที่รัฐบาลได้สัญญาไว้กับพี่น้องประชาชน ขอฝากความมุ่งมั่นอันนี้ และอยากเห็นการทำงานที่ซื่อสัตย์ สุจริต และโปร่งใส เพราะวันนี้ตัวเลขที่น่ากลัว และถือเป็นโอกาสสำหรับพวกเราในการกู้ชื่อเสียงนี้ คือดัชนีความโปร่งใสของประเทศไทยในปี 2553 เราอยู่เพียง 3.5 จากคะแนน 10 เราต้องแก้ไขเรื่องนี้เร่งด่วน ต้องกอบกู้ชื่อเสียงของไทยคืนมา ดิฉันอยากเน้นว่าเราต้องไม่มีเรื่องทุจริตคอร์รัปชั่น นโยบายต้องทำ แต่คนดีต้องดูแลและรักษา แต่เรื่องระบบการตรวจสอบทุจริตต่างๆ เราจะทำอย่างจริงจัง และขอให้สบายใจ ไม่มีระบบซื้อขายตำแหน่ง ห้องดิฉันพร้อมเปิดรับคำแนะนำและการร้องเรียนจากทุกท่าน ขอให้กำลังใจทุกท่าน และขอให้ทำงานอย่างเต็มที่ เชื่อว่าทุกท่านทำหน้าที่ของตัวเองอย่างเต็มที่ รัฐบาลพร้อมสนับสนุน เพราะวันนี้เราคือทีมงานเดียว กัน ข้าราชการทุกคนถือเป็นกำลังสำคัญของรัฐบาลในการขับเคลื่อนงานและนโยบายต่างๆ ดิฉันอยากเห็นการทำงานที่เป็นทีมเวิร์กเดียวกัน เพราะโดยรัฐบาลลำพังคงทำงานไม่สำเร็จถ้าไม่ได้รับความร่วมมือจากทุกหน่วยงาน และทุกภาคส่วน" น.ส.ยิ่งลักษณ์กล่าว

นายกฯกล่าวต่อว่า นอกจากนี้ขอฝากโครง การพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวที่ค้างอยู่หลายโครงการ ขอให้เร่งรัดโครงการต่างๆ เหล่านี้โดยเร็ว ตนพร้อมสนับสนุนและช่วยเหลือหากการทำงานมีอุปสรรค โดยเฉพาะเรื่องน้ำ รวมทั้งขอให้ร่วมมือจัดงานเฉลิมฉลองในวาระเฉลิมพระชนมพรรษา 84 พรรษาอย่างสมพระเกียรติ และขอให้ทุกหน่วยงานน้อมรับพระราชเสาวนีย์ของสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระ บรมราชินีนาถ ในเรื่องยาเสพติดด้วย อย่างไรก็ตามขอให้ดูแลผู้เสพด้วย ต้องถือเป็นผู้ป่วยที่ต้องดูแลรักษา เราไม่เน้นเรื่องปราบปรามอย่างเดียว การปราบปรามต้องทำอย่างจริงจัง แต่ต้องดูแลผู้เสพ และป้องกันไม่ให้เกิดปัญหานี้ด้วย นอกจากนี้ขอให้ดูแลแก้ไขปัญหาภาคใต้ โดยส่งเสริมเศรษฐกิจในภาคใต้ให้มีความเป็นอยู่ดีขึ้น ซึ่งจะช่วยลดความรุนแรงลงได้ ทั้งนี้การทำงานทั้งหมด อยากให้ยึดแนวพระราชทานของพระ บาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในเรื่องเข้าใจ เข้าถึง และพัฒนา

"วันนี้เรามาทำความเข้าใจร่วมกัน แต่เข้าถึงนั้น ดิฉันไม่สามารถเข้าถึงได้ ถ้าไม่ได้รับความร่วมมือจากทุกภาคส่วนราชการ" นายกฯกล่าว

อยากเห็นสามัคคีปรองดอง

นายกฯกล่าวอีกว่า เนื่องจากงบประมาณประ จำปีเรายังไม่ได้ทำ จึงมีงานที่ต้องเร่งใน 2 ส่วนคือ เตรียมงานนโยบายของใหม่ ขณะเดียวกันงบประมาณ และแผนบริหารราชการแผ่นดิน ก็ต้องทำโดยเร็ว โดยขอความร่วมมือรองนายกฯ รมต. และหัวหน้าส่วนราชการ 2 เรื่องสำคัญ คือ 1.เร่งจัดประชุมคณะกรรมการนโยบายการบริหารงานจังหวัดและกลุ่มจังหวัดแบบบูรณาการ(ก.น.จ.) โดยขอฝากผู้ว่าฯซีอีโอทุกคนไปดูแลและทบทวนแผนงานที่วางไว้ด้วยว่าสอดคล้องกับทิศทางที่ทำงานร่วมกันหรือไม่ ส่วนไหนที่ไม่ได้กระตุ้นเศรษฐกิจก็ขอให้ช่วยกันประหยัดงบประมาณ 2.กลไกการทำงานของรัฐบาล ซึ่งต้องบูรณาการงานร่วมกัน ตนรู้สึกตกใจที่ทราบว่าวันนี้เรามีคณะกรรมการชุดต่างๆ ทั้งหมดถึง 282 คณะ ถือว่าเยอะมาก เราเสียเวลากับการประชุมคณะกรรมการต่างๆ จึงขอให้หัวหน้าส่วนราชการได้ทบทวนและหารือกับรมต.แต่ละกระทรวง ตรงไหนปรับลดได้ก็ให้ปรับลด เพราะเราเน้นประ สิทธิภาพมากกว่าปริมาณ จะได้มีเวลาทำงานภายในหน่วยงานมากขึ้น โดยขอให้ยืนยันกลับมาภายในวันที่ 13 ก.ย.

"ขอบคุณทุกภาคส่วนอีกครั้ง เพราะตลอดเวลา 3 วันของการแถลงนโยบาย และการจัดทำนโยบายต่างๆ รบกวนทุกหน่วยงานมามาก จนวันนี้ที่เรามีโอกาสได้ทำงานจริงจัง ดิฉันเองก็ตื่นเต้น และอยากหาโอกาสไปเยี่ยมทุกท่าน ให้กำลังใจ และขอรับฟังข้อคิดเห็นต่างๆ เพราะเราเองอยากทำงานแบบ 2 ทางในการปรับปรุงงานต่างๆ อีกสิ่งที่อยากเห็นและเป็นความจริงใจจากรัฐบาลและครม.ทั้งหมด ซึ่งเชื่อว่าทุกคนมีเจตนารมณ์เดียวกัน คืออยากเห็นประเทศก้าวไปสู่ความสามัคคีปรองดอง จุดนี้จะทำให้ต่างประ เทศมีความมั่นใจและเข้ามาลงทุนในประเทศไทย ซึ่งเป็นการตอบโจทย์ที่จะทำให้เศรษฐกิจใน ประเทศเจริญเติบโตอย่างถาวรด้วย เพราะจะมีทั้งการจ้างงานในประเทศ และการลงทุนจากต่างประเทศ ที่สำคัญหากมีความสามัคคีปรองดองบรรยากาศความสงบและความสุขจะกลับคืนมาสำหรับคนไทยๆ" นายกฯกล่าว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในช่วงท้ายน.ส.ยิ่งลักษณ์ขอหารือกับผู้เข้าร่วมประชุมในเรื่องรณรงค์การแต่งกายด้วยผ้าไทยสัปดาห์ละ 1 ครั้ง เพื่อส่งเสริมวัฒนธรรมไทย และศิลปะพื้นบ้าน แต่แนะ นำว่าควรนัดกันสวมใส่ให้ตรงกันเพื่อความเป็นเอกภาพ และคนดูจะได้ชื่นใจ เช่น ทุกวันอังคารที่มีประชุมครม.

ไม่มีความคิดเห็น: