จากเหตุการณ์ที่กลุ่มสภาประชาชน เดินทางไปเรียกร้องเรื่องที่ดินทำกิน อย่างไม่มีปี่ไม่มีขลุ่ย ที่ทำเนียบวันนี้ เราได้พบว่ากลุ่มดังกล่าวนี้ เป็นกลุ่มเดียวกันกับที่ยึดที่ดินเอกชน "บ.ไทยเมลลอน" รังสิต ปลูกบ้านอาศัยอย่างไม่เกรงกลัวกฏหมาย
พอสือบค้นย้อนกลับไปเราพบว่า กลุ่มดังกล่าวนั้นจัดตั้งเมื่อ ราวกันยายน ๒๕๕๐ การจัดตั้ง “สภาประชาชน” ครั้งแรกที่จังหวัดโคราช ในวันนั้น ประธานสภาประชาชนคนแรก “ไชยวัฒน์ สินสุวงศ์”ดร.ปราโมทย์ นาครทรรพ ประธานกิตติมศักดิ์ มีสมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์ บรรยายพิเศษในงาน ที่หอประชุม “เปรม ติณสูลานนท์” ดังในลิ้งข่าวข้างล่างและภาพด้านบน
ปชช.เดินทางมาหอประชุม "เปรม ติณสูลานนท์"
ประชาชนลงทะเบียน
ดร.ปราโมทย์ นาครทรรพ ประธาน จุดธูปเทียนบูชาพระรัตนตรัย
(ซ้าย) นายไชยวัฒน์ สินสุวงศ์ ประธานสภาประชาชนฯ คนแรก
อ้างอิงข่าวจาก
http://www.oknation.net/blog/print.php?id=112318
http://www.manager.co.th/Lite/ViewNews.aspx?NewsID=9500000106430
มูลนิธิประชาชน 4 ภาค ตั้งเต็นลงทะเบียนจองที่ทำกิน
ภายในเต็นท์รับลงทะเบียน มีคณะทำงานซึ่งไม่ใช่ข้าราชการ หรือคนในพื้นที่ จ.หนองบัวลำภู เป็นชายและหญิง 6-7 คน มาตั้งโต๊ะให้ประชาชนมาลงทะเบียนโดยนำเอาสำเนาทะเบียนบ้าน สำเนาบัตรประชาชน จำนวน 5 ชุด มาใช้เป็นเอกสารประกอบการลงทะเบียน มีการลงชื่อในสมุด และบอกกล่าวกันว่าจะมีการฝึกอบรมก่อนที่จะได้สิทธิในที่ดินทำกินประมาณ 1 งาน ในบริเวณที่ดินดังกล่าว
ทั้งนี้จากการสอบถามนายประสงค์ เขียวคำ อายุ 54 ปี อยู่บ้านเลขที่ 29 หมู่ 11 ต.ผาสุก อ.วังสามหมอ จ.อุดรธานี ซึ่งเป็นตัวแทนของผู้มาดำเนินการรับลงทะเบียนบอกว่า สภาประชาชน 4 ภาค ได้เข้ามาดำเนินการจัดหาที่ดิน บสท. ที่ไม่มีการทำประโยชน์มานานนับสิบปี เพื่อมาดำเนินการจัดสรรให้กับผู้ยากจนไม่มีที่ทำกิน และพวกตนซึ่งเป็นคณะทำงานของมูลนิธิสภาประชาชน 4 ภาค ในส่วนของภาคอีสาน จึงได้มาเปิดให้ลงทะเบียนในที่ดิน บสท.ทรัพย์สินเพื่อการลงทุน 25 แปลง ตรงข้ามทางเข้าศูนย์ราชการจังหวัดหนองบัวลำภู จำนวน 322 ไร่เศษ โดยไม่เก็บเงินค่าลงทะเบียน หลังจากนั้นก็จะทำความสะอาดพื้นที่บริเวณดังกล่าวเพื่อให้ผู้ยากจนได้เข้ามาจับจองหลังจากได้รับการพิจารณา ซึ่งจะรวบรวมเอกสารเพื่อส่งให้ กอ.รมน.ภาค 2 จ.นครราชสีมา ดำเนินการพิจารณาและจัดฝึกอบรมก่อน"
ข่าวจากลิ้ง http://77.nationchannel.com/playvideo.php?id=138013
จากนั้นมีข่าวว่าที่ดินที่ไปอยู่จับจอง กลายเป็นการบุรุก แกนนำโดนจับข้อหาหลอกลวง
แกนนำ สภาประชาชน 4 ภาค มอบตัวหลังถูก บสท.แจ้งจับ บุกรุกที่ดิน มั่นใจ 100% ได้ชัวร์
ศรีสะเกษ –แกนนำ สภาประชาชน 4 ภาค มอบตัวหลังถูก บสท.แจ้งจับ บุกรุกที่ดิน มั่นใจ 100% ได้ชัวร์ หลังมีข่าว รัฐอนุมัติ 3 หมื่นไร่แจกคนไร้ที่ทำกิน – ที่อาศัยแล้ว
ข่าวโดย – มนูญ มุ่งชู
วันนี้ (20 ก.ย.53) เวลา 10.00 น. ที่ สภ.เมืองศรีสะเกษสมาชิกสภาประชาชน 4 ภาค จำนวนประมาณ 50 คนได้เดินทางมาให้กำลังใจ นายประภาส โงกสูงเนิน ประธานสภาประชาชน 4 ภาค และคณะรวม 4 คนที่เดินทางเข้าพบ พ.ต.ท.พิทักษ์ จันทร์อบ รอง ผกก.สภ.เมืองศรีสะเกษ เพื่อรับทราบข้อกล่าวหาจากกรณีที่ บรรษัทบริหารทรัพย์สินไทย (บสท.) ได้แจ้งความดำเนินคดีนายประภาส และพวกรวม 4 คนในข้อหาบุกรุกที่ดินของ บสท. บริเวณบ้านง้อ –หนองแสง ต.น้ำคำ อ.เมือง จ.ศรีสะเกษ ตั้งแต่วันที่ 15 ก.ค. 2553 มาจนถึงขณะนี้ก็ยังคงปักหลักพักค้างแรมกันมาร่วม 3 เดือนแล้ว โดยที่ดินที่ทางสมาชิกเครือข่ายสภาประชาชน 4 ภาค พื้นที่ศูนย์ ศรีสะเกษ บุกยึดครอบครองนั้นมีจำนวน 79 ไร่ และมีสมาชิกที่มาลงทะเบียนแล้วตอนนี้จำนวน 600 ราย
นายพงศพร นิลวัน รองประธานฝ่ายบริหาร สภาประชาชน 4 ภาค พื้นที่ จ.ศรีสะเกษ กล่าวว่า ล่าสุดฝ่าย บสท. คุณประภาส และนายกอภิสิทธิ์ ได้พูดคุยตกลงกันแล้วว่าทางรัฐบาลจะซื้อที่ดินของ บสท.แล้วจัดสรรให้เกษตรกรที่ไม่มีที่ดินทำกิน และประชาชนที่ไม่มีที่อยู่อาศัย ดังนั้นตนจึงมั่นใจ 100 % ว่าสมาชิกเครือข่ายที่มาลงทะเบียนกับสภาประชาชน 4 ภาค จะได้รับมอบที่ดินทำกินและที่อยู่อาศัยอย่างแน่นอน แต่ขณะนี้ต้องรอให้ทางผู้ใหญ่เขาคุยกันก่อน ส่วนวันนี้ที่ทางแกนนำประกอบด้วยนายประภาส โงกสูงเนิน ประธาน สภาฯ ได้เดินทางมารับทราบข้อกล่าวหลังจากได้รับหมายเรียกจากทางตำรวจ สภ.เมืองศรีสะเกษไปตั้งแต่วันที่ 9 ส.ค.ที่ผ่านมาโดยตนและแกนนำรวม 3 คนได้มารับทราบไปก่อนหน้านี้แล้ว วันนี้เลยมาให้กำลังท่านประภาส ประธานสภาฯ
เมื่อถามว่าหากรัฐบาลซื้อที่ดิน บสท.เพื่อแจกให้สมาชิกเครือข่ายจริงแล้ว จะจัดสรร แบ่งปันที่ดินกันอย่างไร นายพงศพร กล่าวว่า เรื่องนี้ต้องให้ทางผู้ใหญ่ทั้งในส่วนรัฐบาลและส่วนของจังหวัดมาพูดคุยกันถึงรูปแบบวิธีการอาจจะมีหน่วยงานที่เกี่ยวข้องโดยตรงอย่างที่ดินจังหวัดมาร่วมด้วย แต่ไม่ว่าอย่างไรจะต้องดำเนินการอย่างตรงไปตรงมาและเกิดความยุติธรรมต่อสมาชิกทุกคน
อย่างไรก็ตาจากการสอบถามชาวบ้านหลายคนก็เชื่อว่าเป็นการดำเนินการจริง ๆ ก็พากันนำเอกสารมาลงทะเบียนกันหลายร้อยคน และก็มีบางคนไม่เชื่อพอยื่นเอกสารเสร็จแล้วก็ขอเอกสารคืนก็มี ขณะที่ทางเจ้าหน้าที่รัฐก็มีการเข้ามาตรวจสอบแล้ว
พอข่าวเริ่มดังออกไป ปรากฏว่าประชาชนหลายจังหวัดโดนหลอก เริ่มโวยวาย "สภาประชาชน"
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น