วันศุกร์ที่ 26 สิงหาคม พ.ศ. 2554

วันนี้เมื่อ 3 ปีที่แล้ว "ตวงพร อัศววิไล - กิตติ สิงหาปัต" คิดอย่างไร


"กิตติ สิงหาปัด" ติดในวงล้อมพันธมิตร ยันถูกม็อบชกหน้าหนีขึ้นแท็กซี่ทัน "ตวงพร อัศววิไล" ผู้ประกาศข่าวเอ็นบีที แอบมุดป่าย่องเข้าสถานีหลังถูกชายฉกรรจ์ล้อม ขณะบุกยึดสถานี

นายกิตติ สิงหาปัด พิธีกรรายการ "3 มิติ" ทางสถานีโทรทัศน์สีช่อง 3 ให้สัมภาษณ์ผ่านหนังสือพิมพ์ "มติชน" เมื่อวันที่ 26 สิงหาคม ว่า ทุกวันอังคารจะไม่มีรายการข่าวสามมิติ ที่ตนทำอยู่ที่ช่วง 22.30 น. จึงว่างและไม่ต้องเตรียมตัวประชุมข่าว แต่เห็นข่าวว่าพันธมิตรฯ บุกเข้าไปยึดสถานีโทรทัศน์ เอ็นบีที จึงแต่งตัวออกจากบ้านมาสังเกตการณ์ เพราะบ้านอยู่ไม่ไกลกับสถานีโทรทัศน์เอ็นบีทีมากนัก


นายกิตติ เล่าว่า ระหว่างที่ดูอยู่นั้นก็มีผู้หญิง 2-3 คนในม็อบ ที่จำผมได้ ก็มาขอจับไม้จับมือ คล้องแขน และขอถ่ายรูป คนอื่นๆ เห็นก็มาขอถ่ายรูปด้วย วงก็เริ่มกว้างขึ้น จาก 2-3 คน กลายเป็น 7-8 คน คนที่อยู่ข้างนอกก็คงสงสัยว่า วงที่เรากำลังถ่ายรูปกันนั้นมีอะไรเกิดขึ้น อาจจะมีการคิดว่ามีใครเข้ามาป่วนในม็อบ เพราะวงใหญ่เค้าเริ่มส่งเสียงโห่แล้วหันมาทางเรา ตอนนั้นการ์ดของพันธมิตรฯ คงจะเห็นท่าไม่ดีก็เลยคล้องแขนกันเข้ามากันเราออกไป ยิ่งทำให้คนในม็อบคิดว่าการ์ดจะทำร้ายเรา เขาก็เลยกรูเข้ามา มีหลายคนพยายามต่อยผ่านวงล้อมของการ์ด โดนบ้างไม่โดนบ้าง แต่ที่โดนเต็มๆ มี 3 หมัด ไม่ได้เจ็บมาก เพราะการ์ดกันอยู่

"ผมพยายามตะโกนบอก ปอง (นส.อัญชลี ไพรีลักษณ์) ที่อยู่บนเวทีว่า อย่าทำอะไรผม ปองก็พยายามตะโกนห้าม แต่ห้ามไม่ได้ เพราะนาทีนั้นไม่มีใครฟังใครแล้ว พอดีพี่คนหนึ่งในพันธมิตรฯ เรียกรถแท็กซี่ให้ ผมก็เลยรีบขึ้นรถทันที แต่ก็ยังมีบางคนที่ไม่เข้าใจกรูกันเข้ามาทุบรถจนกระจกรถข้างซ้ายแตก แต่รถก็ขับนำผมออกมาจากพื้นที่ตรงนั้นได้อย่างปลอดภัย ไม่คิดว่าจะเจอเรื่องแบบนี้ในชีวิตการทำข่าว" นายกิตติ กล่าว


เมื่อถามว่า เห็นหน้าคนที่ชกได้หรือไม่ นายกิตติ กล่าวว่า เห็นก็จำไม่ได้เพราะชุลมุนวุ่นวายไปหมด

ขณะที่ น.ส.ตวงพร อัศววิไล ผู้ประกาศข่าวโทรทัศน์เอ็นบีที เปิดเผยว่า ทราบข่าวตั้งแต่เวลา 06.00 น. วันที่ 26 สิงหาคม ว่ามีกลุ่มชายฉกรรจ์บุกเข้ามาที่สถานี จึงรีบออกจากบ้านไปสถานี แต่ไม่สามารถเข้าทางประตูหน้าได้ ต้องมุดป่าเข้าไป พอก่อน 07.00 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจเข้ามาเคลียร์สถานการณ์ไว้ คือกลุ่มที่บุกเข้ามาพร้อมอาวุธปืน ใบกระท่อม พอมาถึงเราเห็นเหมือนกัน ก็เตรียมการออกข่าวปกติถึง 08.00 น. เตรียมตัวเข้าไปแต่งหน้ารายงานข่าวเกาะติดสถานการณ์ พอถึงตอนนั้นเหตุการณ์ตึงเครียดมาก เพราะกลุ่มพันธมิตรมาปิดทางเข้าออกที่สถานี มีแกนนำมาคือ นายอมร อมรรัตนานนท์ ทางด้านหน้า และนายวัชระ เพชรทอง ปิดทางออกด้านหลังและปราศรัยผ่านเครื่องขยายเสียงโจมตีสถานีโทรทัศน์เอ็นบีทีว่าจะบุกเข้ามาสถานีเมื่อพร้อม

นอกจากนี้ ยังพูดกันว่าจะมาต่อเชื่อมสัญญาณเอเอสทีวีออกอากาศทางตำรวจนำกำลังมาเพื่อรักษาความปลอดภัย พอเวลา 08.30 น. ทางกลุ่มพันธมิตรบุกเข้ามา ด้านนายสุรยงค์ หุณฑสาร ผู้อำนวยการเอ็นบีทีได้ออกมาบอกให้พนักงานทุกคนออกอากาศจนนาทีสุดท้าย แต่ไม่นานนักมีการตัดไฟทั้งตึก เป็นเหตุให้เอ็นบีทีจอมืดไปช่วงหนึ่ง ต่อมามีกลุ่มชายฉกรรจ์ปิดหน้าปิดตาทุบกระจกเข้ามา ตำรวจให้ช่างภาพสถานีถ่ายไว้เป็นหลักฐาน ดิฉันอยู่ตรงห้องแต่งหน้า มีกลุ่มพันธมิตรเข้ามา มีการโห่ไล่ ด่าว่าขายชาติ แต่ยังดีที่เจ้าหน้าที่พันธมิตรที่เปิดเผยหน้าตาช่วยกันคนออกไปแล้วพาไปอยู่กับตำรวจ พอไปถึงก็ถูกล้อมกรอบโดยกลุ่มพันธมิตรที่อยู่ด้านหลัง โดนขว้างปาด้วยขวดน้ำ และโดนน้ำสาด ดีที่นายวัชระ เพชรทอง ออกมาทำความเข้าใจว่าเราเป็นสื่อมวลชน เราทำหน้าที่ของเรา แล้วเป็นคนไทยด้วยกัน ต้องขอบคุณตรงนี้มากๆ ดิฉันต้องปีนรั้วออกไปเพราะออกทางประตูหลังไม่ได้ จากเหตุการณ์นี้มีผู้บาดเจ็บเล็กน้อย 1 ราย คือนายดุสิต ชมทา ช่างภาพเอ็นบีทีซึ่งถูกดึงลงมาจากกำแพงขณะถ่ายภาพจากมุมสูง

หลังจากนั้น ไปออกอากาศรายงานสถานการณ์ร่วมกับคุณจิรายุ ห่วงทรัพย์ จากสถานที่ออกชั่วคราว แต่ออกได้ประมาณ 45 นาที ก็ได้รับรายงานข่าวว่ากลุ่มพันธมิตรกำลังเดินทางมาปิดล้อม จึงถอนตัวออกไปเพราะไม่อยากให้เจ้าของสถานที่ได้รับความเดือดร้อน

ที่มา มติชน





ไม่มีความคิดเห็น: