นายสมชาย โสตถิอนันต์ เลขานุการส่วนตัวหลวงพ่อคูณ เปิดเผยว่า อาการโดยรวมของหลวงพ่อระยะนี้เริ่มดีขึ้นตามลำดับ เริ่มรู้สึกตัว และพูดคุยโต้ตอบได้ หลังจากแพทย์ได้ถอดสายยางให้อาหารทางช่องจมูกออก เมื่อ 10 วันก่อนก็พบว่าหลวงพ่อเริ่มฉันอาหารได้เอง แต่ยังไม่เพียงพอต่อความต้องการของร่างกาย ซึ่งอาจทำให้อาการทรุดลงอีกได้ ส่วนเรื่องที่แพทย์จะกลับมาให้อาหารทางสายยางแด่หลวงพ่ออีก และอาจจะต้องย้ายหลวงพ่อไปรักษาตัวต่อที่ รพ.ศิริราช ขณะนี้ยังไม่ได้ข้อสรุปที่ชัดเจน แต่ตอนนี้หลวงพ่อคูณยังรักษาตัวอยู่ที่ รพ.มหาราช นครราชสีมาเหมือนเดิม
ด้าน นพ.พินิศจัย นาคพันธ์ ผู้เชี่ยวชาญด้วยโรคหัวใจและหลอดเลือด รพ.มหาราชนครราชสีมา แพทย์ประจำตัวหลวงพ่อคูณ กล่าวว่าการย้ายหลวงพ่อคูณไปรักษาที่ รพ. ศิริราช ขณะนี้ยังไม่ได้ข้อสรุปที่ชัดเจน โดย ที่ผ่านมาเกือบ 4 เดือน คณะแพทย์ต้องให้อาหารทางสายยางผ่านช่องจมูกแด่หลวงพ่อมาตลอด จนน้ำหนักตัวของหลวงพ่อเพิ่มขึ้นเป็น 40 กก. ตามเกณฑ์ที่กำหนด จึงได้ถอดสายยางออกและให้หลวงพ่อฉันอาหารด้วยตนเอง พบว่าระยะแรกหลวงพ่อสามารถฉันอาหารได้บ้างแต่ยังมีปริมาณน้อยไม่เพียงพอต่อความต้องการของร่างกาย และตรวจพบว่าเกิดภาวะแทรกซ้อน จากการติดเชื้อทางโพรงจมูกลามลงสู่ปอด และจากการที่หลวงพ่อสำลักอาหาร ส่งผลให้ปอดอักเสบและไข้ขึ้นสูง ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่ทีมแพทย์จาก รพ.ศิริราช เดินทางมาตรวจอาการของหลวงพ่อพอดี และให้การรักษาภาวะแทรกซ้อนดังกล่าว และร่วมประชุมเพื่อหาแนวทางในการรักษาอาการของหลวงพ่อคูณที่ดีและเหมาะสมที่สุด
นพ.พินิศจัย กล่าวต่อไปว่า จากการหารือ คณะแพทย์มีความเห็นร่วมกันว่าควรให้หลวงพ่อกลับมารับอาหารทางสายยางอีกครั้ง แต่จะไม่ใช้การสอดสายยางทางช่องจมูกเหมือนเดิม เพราะอาจเสี่ยงต่อภาวะไซนัสอักเสบ และติดเชื้อจากช่องจมูกและลุกลามเป็นฝีในสมอง และทำให้หลวงพ่อรำคาญด้วย ดังนั้นแนวทางที่ดีที่สุดคือการเจาะช่องท้องเพื่อสอดสายยางเข้าไปสู่กระเพาะอาหารโดยตรง ซึ่งคงต้องมีการส่องกล้องอย่างละเอียดก่อนจะดำเนินการเจาะช่องท้องแล้วสอดสายยาง ลงสู่กระเพาะอาหาร ซึ่งทีมแพทย์ รพ.ศิริราช ยืนยันว่าจะดำเนินการเอง เพราะต้องใช้ทีมแพทย์ที่เชี่ยวชาญ และเครื่องมือที่ทันสมัย ซึ่งคงเป็นเรื่องยุ่งยากหากต้องมีการเคลื่อนย้ายอุปกรณ์และคณะแพทย์ศิริราช มาดำเนินการที่ รพ.มหาราช ส่วนจะมีการเคลื่อนย้ายหลวงพ่อไปดำเนินการที่ รพ.ศิริราช หรือไม่ตนยังไม่ขอให้ความเห็น เพราะต้องรอฟังผลการเจรจาระหว่าง ผวจ.นครราชสีมา และคณะลูกศิษย์ว่าควรจะดำเนินการอย่างไร.
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น