ศาลเยาวชนอ่านคำพิพากษาคดีเยาวชน 2 รายตกเป็นจำเลยในคดีปล้นทรัพย์ห้างเซ็นทรัลเวิลด์ ในวันที่ 19 พ.ค.53 โดยยกฟ้องคดีปล้นทรัพย์ ขัดขวางเจ้าหน้าที่ แต่ผิดพ.ร.ก.ฉุกเฉิน ให้รอการกำหนดโทษ 1 ปี รายงานตัว 3 ครั้ง บำเพ็ญสาธารณประโยชน์ 72 ชั่วโมง
ตราศาลเยาวชนและครอบครัว |
13 ก.ย.55 ที่ศาลเยาวชนและครอบครัวกลาง ศาลอ่านคำพิพากษาคดีหมายเลขดำที่ อ.1504/2553 ซึ่งพนักงานอัยการฟ้องนายภาสกร (สงวนนามสกุล) และนายอัตพล (สงวนนามสกุล) จำเลยซึ่งเป็นเยาวชน ในข้อหาร่วมกันปล้นทรัพย์โดยมีและใช้อาวุธปืน, ขัดขวางเจ้าพนักงานในการปฏิบัติตามหน้าที่, ฝ่าฝืน พ.รก.ฉุกเฉิน เหตุเกิดที่ห้างเซ็นทรัลเวิลด์ (CTW) ในเหตุการณ์สลายการชุมนุมกลุ่ม นปช. วันที่ 19 พ.ค.53 โดยศาลเยาวชนพิพากษายกฟ้องทุกข้อกล่าวหา ยกเว้น ฝ่าฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉิน โดยมีระวางโทษจำคุกไม่เกิน 3 เดือน แต่ให้รอการกำหนดโทษ 1 ปี เนื่องจากจำเลยยังเป็นเยาวชนและไม่เคยกระทำความผิดมาก่อน โดยให้มีการรายงานตัว 3 ครั้ง และบำเพ็ญสาธารณประโยชน์ 72 ชั่วโมง
ทั้ง นี้ คดีเกี่ยวกับกรณีของห้างเซ็นทรัลเวิลด์นั้นแยกเป็นคดีความผิดฐานปล้นทรัพย์ กับคดีความผิดเกี่ยวกับการวางเพลิง โดยเยาวชนทั้ง 2 คนนี้เป็นผู้ต้องหาทั้ง 2 คดีร่วมกับจำเลยที่เป็นผู้ใหญ่อีกจำนวนหนึ่ง
ในคดีปล้นทรัพย์นั้นก่อนหน้านี้คดีของผู้ใหญ่ซึ่งมีจำเลย 7 คน มีการยกฟ้องไปแล้วเมื่อ วันที่ 1 ธ.ค.54 โดยศาลอาญากรุงเทพใต้สั่งยกฟ้องในความผิดเกี่ยวกับการปล้นทรัพย์ รวม 18 รายการ มูลค่า 95,430 บาท เนื่องจากยังไม่มีทรัพย์สินของกลางที่ยืนยันว่าจำเลยทั้งหมดเป็นผู้กระทำ ความผิด คงมีเพียงนายคมสันต์ สุดจันทร์ฮาม จำเลยที่ 3 ที่ถูกลงโทษ 3 ปี ทำให้ผู้ต้องขังทั้ง 6 คน (ยกเว้นนายคมสันต์) ซึ่งถูกควบคุมตัวในเรือนจำมาแล้วปีครึ่งได้รับปล่อยตัวในทันที
สำหรับคดีเผา ส่วนที่เกี่ยวข้องกับเยาวชนทั้ง 2 คนนี้จะมีการสืบพยานนัดสุดท้ายในวันที่ 17 ก.ย.55 ขณะที่ในส่วนของผู้ใหญ่ มีผู้ต้องหา 2 รายคือนายพินิจ จันทร์ณรงค์ และนายสายชล แพบัว ซึ่งถูกจำคุกมาตั้งแต่วันจับกุมตัว 19 พ.ค.53 จะมีการสืบพยานอีกครั้งในวันที่ 5 พ.ย.55
ทั้ง นี้ คดีเกี่ยวกับกรณีของห้างเซ็นทรัลเวิลด์นั้นแยกเป็นคดีความผิดฐานปล้นทรัพย์ กับคดีความผิดเกี่ยวกับการวางเพลิง โดยเยาวชนทั้ง 2 คนนี้เป็นผู้ต้องหาทั้ง 2 คดีร่วมกับจำเลยที่เป็นผู้ใหญ่อีกจำนวนหนึ่ง
ในคดีปล้นทรัพย์นั้นก่อนหน้านี้คดีของผู้ใหญ่ซึ่งมีจำเลย 7 คน มีการยกฟ้องไปแล้วเมื่อ วันที่ 1 ธ.ค.54 โดยศาลอาญากรุงเทพใต้สั่งยกฟ้องในความผิดเกี่ยวกับการปล้นทรัพย์ รวม 18 รายการ มูลค่า 95,430 บาท เนื่องจากยังไม่มีทรัพย์สินของกลางที่ยืนยันว่าจำเลยทั้งหมดเป็นผู้กระทำ ความผิด คงมีเพียงนายคมสันต์ สุดจันทร์ฮาม จำเลยที่ 3 ที่ถูกลงโทษ 3 ปี ทำให้ผู้ต้องขังทั้ง 6 คน (ยกเว้นนายคมสันต์) ซึ่งถูกควบคุมตัวในเรือนจำมาแล้วปีครึ่งได้รับปล่อยตัวในทันที
สำหรับคดีเผา ส่วนที่เกี่ยวข้องกับเยาวชนทั้ง 2 คนนี้จะมีการสืบพยานนัดสุดท้ายในวันที่ 17 ก.ย.55 ขณะที่ในส่วนของผู้ใหญ่ มีผู้ต้องหา 2 รายคือนายพินิจ จันทร์ณรงค์ และนายสายชล แพบัว ซึ่งถูกจำคุกมาตั้งแต่วันจับกุมตัว 19 พ.ค.53 จะมีการสืบพยานอีกครั้งในวันที่ 5 พ.ย.55
ขอขอบคุณ ประชาไท
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น