วันพุธที่ 12 กันยายน พ.ศ. 2555

เข้าใจ...แต่ไม่ขอโทษ "บิณฑ์" ปิดจ็อบ "ดราม่าด่าหมอ" ง่ายๆ แบบไม่รับผิดชอบ?

go6TV (12 กันยายน 2555) - นายบิณฑ์ บรรลือฤทธิ์ ดารานักแสดงชื่อดัง ได้เขียนข้อความในเฟสบุคส่วนตัว ถึงกรณีข่าวการเสียชีวิตของแม่-ลูก คู่หนึ่งที่ตนได้เข้าไปมีส่วนรู้เห็นเรื่องราว และนำมาเขียนจนกลายเป็นเรื่องราวใหญ่โต โดยพาดพิงถึงการทำงานของแพทย์ พยาบาลและโรงพยาบาล ลามไปถึงการด่าทอโครงการของรัฐบาลโดยไม่มีเหตุผลนั้น  ล่าสุด นายบิณฑ์ ได้ออกมาเขียนข้อความต่อสาธารณชนแล้วว่าได้มีโอกาส พูดคุยกับแพทย์และพยาบาลในวันเกิดเหตุ ได้ทราบรายละเอียดถึงเหตุการณ์ต่างๆ มากขึ้น โดยนายบิณฑ์ ไม่ได้กล่าวเสียใจหรือขอโทษต่อข้อความของตนแต่อย่างไร เพียงกล่าวสั้นๆว่า "ขอให้ทุกท่านเข้าใจนะครับ เพราะเรามีพ่อองค์เดียวกัน.."

นายบิณฑ์ ได้เขียนข้อความลงในเฟสบุ๊คของตนดังนี้  

"สวัสดีครับเพื่อนๆครับ..วันนี้ผมได้มีโอกาสไปงานฌาปนกิจศพของ คุณ กัลยานี สำรวย ที่เสียชีวิตพร้อมลูก และได้มีโอกาสได้พูดคุยกับหมอและพยาบาลที่เกี่ยวข้องของวันทีเกิดเหตุครับ จะได้รู้กระจ่างครับว่าเกิดอะไรขึ้น จะได้ไม่ต้องมีปัญหากันระหว่างหมอกับผู้ที่สงสัยในประเด็นดังกล่าว
และผมเองที่เป็นต้นเหตุที่ทำให้หลายๆคนมีมุมมองที่สงสัย..  ว่าทำไม..?"

คุณพยาบาลบอกว่า..ผู้ป่วยเจ็บครรภ์ เวลา10.00  ของวันที่ 8ก.ย น้ำเดินเวลา12.00 และมาถึง
รพ 12.45 และบอกญาติให้กลับไปเตรียมของที่บ้าน เตรียมตั้งชื่อลูกและในขณะนั้นคุณหมอได้
ตรวจปากมดลูกปรากฏว่าปากมดลูกเปิด 3ซ.มและต่อมาคุณหมอได้ใช้เครื่องNST (เครื่องตรวจ
สุขภาพทารกในครรภ์) พบว่าแม่ไม่ได้กดสัญญาณเด็กดิ้น คือถ้าเด็กดิ้นคุณแม่ก็จะกด พยาบาลจึงถาม
ว่าทำไมไม่กด แม่บอกว่าเด็กไม่ดิ้นก็เลยไม่กดและยังบอกกับพยาบาลว่า ดิ้นน้อยมา3วันแล้ว
พยาบาลรายงานให้แพทย์ให้อ็อกซิเจน และน้ำเกลือและให้ผู้ป่วยนอนพัก เวลา14.25 ผู้ป่วยพูดว่า
"วิงเวียน เหมือนหน้ามืด" หลังจากนั้น หมดสติหน้าเขียว พยาบาลคลำชีพจรแต่ชีพจรเต้นเบามาก
และฟังเสียงหัวใจเด็กได้ 50 ครั้งต่อนาที วัดความดันไม่ได้ ต่อจากนั้นแพทย์ได้ใส่ท่อช่วยหายใจ
กดหน้าอก และปั๊มหัวใจ ฉีดยา Adrenaline กระตุ้นการเต้นของหัวใจ และโทรศัพท์ประสาน
งานเพื่อส่งต่อผู้ป่วย 

ระหว่างแพทย์กดหน้าอกปั๊มหัวใจ และโทร1669หน่วยแพทย์ฉุกเฉิน แจ้ง ว่าจะนำรถพยาบาลไปส่งผู้ป่วยที่ รพ นพรัตน์ต่อมาได้นำเอาผู้ป่วยขึ้นรถพยาบาล มีพยาบาล ไปด้วย3คนไปกับผู้ป่วย และประสานงานกับ รพนพรัตน์เตรียมห้องฉุกเฉินไว้รับผู้ป่วยทันที จาก รพ ลำลูกกาถึง รพ นพรัตน์ ใช้เวลว30นาทีแต่ในระหว่างทางผู้ป่วยเกิดเสียชีวิตและพยาบาลที่นั่งมาด้วยก็พยายามช่วยกันอย่างเต็มที่ พอถึง รพ นพรัตน์ ก็เข้าห้องฉุกเฉินทันที แต่ผู้ป่วยได้เสียชีวิตมาแล้วและได้ตรวจเด็กในครรภ์ปรากฏว่าเด็กก็เสียชีวิต คุณหมอได้บอกว่าถ้าแม่เสียชีวิตเกิน 4นาทีลูกก็ต้องเสียชีวิตตาม แพทย์เวร รพ นพรัตน์ คุยกับ พยาบาลลำลูกกาและปรึกษาผู้อำนวยการ

ผู้อำนวยการให้แจ้งญาติผู้ป่วยว่าผู้ป่วยเสียชีวิตแล้วให้นำเข้าห้องเก็บศพ โดยทางการแพทย์เรียกว่า
น้ำคล้ำเข้าไปในกระแสเลือด ซึ้ถ้าเกิดกับใครก็รอดยาก ถ้าผู้ป่วยไม่มา รพ ก็อาจจะเสียชีวิตที่บ้าน
ในกรณีแบบนี้อาจจะเป็นหนึ่งในแสน ขอย้อนกลับไปในกรณีนี้ถ้ามดลูกเปิดไม่ถึง10ซ.มก็ยังคลอดไม่ได้
ทาง รพ ลำลูกกาแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น...ก็คงจะกระจ่างกันแล้วนะครับ
เพื่อนๆ เราก็คงไม่มาเข้าใจอะไรผิดๆกับหมออีกนะครับ ผมว่าทุกคนก็ไม่อยากให้เหตุการณ์แบบนี้มัน
เกิดขึ้น คุณหมอก็พยายามทำดีที่สุดแล้วครับ..ผมเองก็ได้คำตอบที่เป็นความรู้มากๆในวันนี้ครับ..

ทุกๆอย่างก็สามารถเกิดขึ้นได้ในทุกสถานการณ์ เพื่อนๆครับทุกอย่างเข้าใจแล้วนะครับพวกเราให้
กำลังใจคุณหมอทำหน้าที่ที่ช่วยเหลือพวกเราต่อไปประเทศเราจะขาดคุณหมอไม่ได้ครับ เราคนไทยด้วย
กันครับมีอะไรก็พูดกันรู้เรื่องนะครับ ขอให้ทุกท่านเข้าใจนะครับ เพราะเรามีพ่อองค์เดียวกัน..

ขอให้อ่านทุกบรรทัดนะครับ รักและเคารพทุกท่าน"

ไม่มีความคิดเห็น: