วันอังคารที่ 11 กันยายน พ.ศ. 2555

"กิ๊ฟซ่า" เมาแล้วขับถูกจับคาด่าน! อ้าง "กินเหล้าไม่ได้ทำให้ใครเดือดร้อน"


"กิ๊ฟซ่า" นักร้องดังโวยวายในอาการเมา แล้วขับรถ
เมื่อเวลากลางดึกวันที่ 11 กันยายน ขณะที่ ร.ต.อ.สัมฤทธิ์ นิธิธนาภักดี รอง สว.จร.งานสายตรวจ 2 กก.1 บก.จร. พร้อมกำลัง 8 นาย ตั้งด่านตรวจวัดปริมาณแอลกอฮอลล์อยู่บริเวณปากซอยพัฒนาการ 37 แขวงและเขตสวนหลวง ก็พบรถเก๋งยี่ห้อฮอนด้า ฟรีส สีดำ ขับผ่านเข้ามาที่ด่าน โดยมีหญิงเป็นคนขับ และมีชายนั่งอยู่เบาะข้างคนขับ เจ้าหน้าที่จึงเรียกให้หยุดเพื่อตรวจวัดปริมาณแอลกอฮอลล์ ก็พบว่าผู้ขับขี่รถคันดังกล่าวคือ น.ส.ปิยา พงศ์กุลภา อายุ 28 ปี หรือ กิ๊ฟซ่า เกิร์ลลี่ เบอร์รี่ นักร้องสาวชื่อดัง ซึ่งเจ้าหน้าที่พยายามเรียกให้กิ๊ฟซ่าพร้อมเพื่อนชาย ไฮโซชื่อดัง ลงจากรถคันดังกล่าว ซึ่งทั้งสองก็ยอมลงมาจากรถแต่โดยดี แต่ชายคนที่นั่งคู่มาด้วยกัน ได้เรียกรถแท็กซี่ออกจากด่านตรวจไปทันที ส่วนนักร้องสาวคนดังเอาแต่เดินไปมา ไม่ยอมให้เจ้าหน้าที่ตรวจวัดปริมาณแอลกอฮอล์ ก่อนจะไปนั่งโทรศัพท์ด่าทอปลายสายอยู่ที่เกาะกลางถนน กระทั่งผ่านไปประมาณ 15 นาที มีกระบะยี่ห้อนิสสัน เอ็นวี สีบรอนซ์เงิน แบบมีหลังคา ขับเข้ามาจอดที่ด่าน โดยมีชาย 2 คนเป็นคนขับมา จากนั้นเพื่อนชายของกิ๊ฟซ่า ( ไฮโซชื่อดัง ) ที่นั่งโดยสารมากับรถฮอนด้าฟรีสในตอนแรก ลงมาจากรถกระบะคันดังกล่าว พร้อมตรงเข้ามาดึงตัวกิ๊ฟซ่าให้ขึ้นไปที่รถ เพื่อจะขับออกจากด่านตรวจไป แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าขวางไว้ พร้อมแจ้งว่ายังออกไปไม่ได้เนื่องจากนักร้องสาวคนดังยังไม่ได้ตรวจวัดปริมาณแอลกอฮอล์ เพื่อนชายคนดังกล่าวจึงยืนรออยู่ด้านนอก ส่วนกิ๊ฟซ่าได้แต่นอนตะแคงฟุบหน้าอยู่บริเวณแคปด้านหลังรถเพื่อหลบกล้องของบรรดาสื่อฯ

เจ้าหน้าที่พยายามเกลี้ยกล่อมให้กิ๊ฟซ่า ลงมาจากรถเพื่อทำการตรวจวัดปริมาณแอลกอฮอล์ แต่เจ้าตัวก็ยังนอนฟุบนิ่งอยู่ที่เดิม กระทั่งเวลา 03.10 น. กิ๊ฟซ่า ก็ยอมออกมากจากรถด้วยสภาพตาแดงก่ำ พร้อมยอมรับกับผู้สื่อข่าวว่า เมื่อประมาณ 22.00 น.ที่ผ่านมา ไปดื่มกับเพื่อนรุ่นพี่ที่ย่านทองหล่อ จนกระทั่งเวลาประมาณ 01.00 น.ก็เดินทางกลับบ้าน โดยเป็นคนขับรถออกมา ส่วนรถเป็นของเพื่อนที่นั่งมาด้วย แต่เมื่อมาเจอด่านก็คิดว่าไม่น่าจะเป่าผ่าน ดื่มไปนิดหน่อยก็ไม่ผ่านแล้ว ก็เลยเรียกคนที่บ้านมารับ แต่ไม่ได้เมา เพราะดื่มไปแค่ 3 แก้ว แต่ไม่ขอบอกว่าดื่มอะไร ซึ่งเมื่อมาถึงด่านตั้งใจจะขอเวลาพักก่อน ส่วนที่ไม่ให้ความร่วมมือตอนแรกนั้น ก็เพราะไม่รู้ว่ามาตรฐานของตำรวจที่ว่าเมานั้นคือเท่าไร เลยจะขอนอนพัก และดื่มน้ำก่อน 3 ขวด โดยที่ไม่ได้ไปสร้างความเดือดร้อนให้ใคร เมื่อสร่างแล้วก็พร้อมจะเป่าทันที ส่วนเรื่องที่บอกว่ามีการกล่าวอ้างถึงนายตำรวจชั้นผู้ใหญ่นั้น ตนยืนยันว่าไม่ได้พูดแต่อย่างใด

จากนั้นเจ้าหน้าที่ได้เชิญตัวนักร้องสาวมาที่โต๊ะริมถนนเพื่อตรวจวัดปริมาณแอลกอฮอล์ แต่เจ้าตัวก็ยังบ่ายเบี่ยงไม่ยอมเป่าเครื่องตรวจวัดปริมาณแอลกอฮอล์ ก่อนจะบอกว่ายอมเป่าแน่นอน แต่ขอดื่มน้ำก่อน 3 ขวด พร้อมทั้งให้ผู้สื่อข่าวที่เป็นผู้หญิงเดินพาไปเข้าห้องน้ำ สร้างความเอือมระอาให้เจ้าหน้าที่ตำรวจในด่านดังกล่าว เมื่อเจ้าตัวเดินกลับมาที่โต๊ะ นักร้องสาวคนดังก็ พร้อมทั้งยื่นโทรศัพท์ให้ ร.ต.อ.สัมฤทธิ์ คุยอยู่หลายสายด้วยกัน โดยบางสายระบุตัวเองว่าเป็น นายเวรของนายตำรวจคนหนึ่ง แต่ทาง ร.ต.อ.สัมฤทธิ์ก็ไม่ได้สนใจ พร้อมทั้งพยายามเรียกให้นักร้องสาวคนดังเข้ามาเป่าเครื่องตรวจวัดปริมาณแอลกอฮอล์แต่โดยดี แต่เจ้าตัวก็ยังพยายามบ่ายเบี่ยง

หลังจากนักร้องสาวคนดังพยายามบ่ายเบี่ยงไปมา และเข้าไปคุยกับกลุ่มเพื่อนอยู่หลายรอบ จนกระทั่งเวลา 03.35 น. กิ๊ฟซ่า ก็เป่าเครื่องตรวจวัดปริมาณแอลกอฮอล์แต่โดยดี ซึ่งผลปรากฏว่า มีปริมาณแอลกอฮอล์สูงถึง 82 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ ซึ่งเกินกว่าที่กฎหมายกำหนดไว้ เจ้าหน้าที่จึงแจ้งข้อหาขับขี่รถขณะมึนเมาสรุา ก่อนควบคุมตัวส่ง พ.ต.ท.สง่า ปัญญา พนักงานสอบสวน (สบ 2) สน.คลองตัน ดำเนินคดี โดยกลุ่มเพื่อนของกิ๊ฟซ่า ได้นำหลักทรัพย์เป็นเงินสด 20,000 บาท ยื่นประกันตัวออกไปในเวลา 05.15 น. โดย พ.ต.ท.สง่า นัดให้กิ๊ฟซ่า มาพบพนักงานสอบสวนที่ สน.คลองตัน อีกครั้งในเวลา 08.30 น.วันพุธที่ 12 ก.ย. เพื่อส่งฟ้องศาลจังหวัดพระโขนง

ด้าน ร.ต.อ.สัมฤทธิ์ กล่าวว่า เมื่อผู้ต้องหาขับรถมาถึงด่านในตอนแรกนั้นก็บ่ายเบี่ยงไม่ยอมตรวจวัดปริมาณแอลกอฮอล์ ก่อนที่เพื่อนชายที่นั่งมาด้วยจะนั่งรถแท็กซี่ออกจากด่านไป แล้วโดยสารรถกระบะนิสสันเอ็นวีย้อนกลับมาที่ด่าน พร้อมทั้งพยายามจะดึงตัวผู้ต้องหาขึ้นรถกระบะนิสสันเอ็นวีไป แต่เจ้าหน้าที่ในด่านก็เข้าไปขวางไว้ ส่วนเรื่องที่มีคนอ้างว่าเป็นนายตำรวจระดับสูงโทรศัพท์มาขอนั้น ก็มักจะเจออยู่ตลอดเวลาที่ผู้ต้องหาเมาแล้วขับจะพยายามจะอ้างว่ารู้จักคนโน้นคนนี้ แต่ตนก็ไม่ได้สนใจอะไร ต้องให้เป่าไปตามกฎหมาย

ไม่มีความคิดเห็น: