"รอยล" ฉะ "กทม." แค่น้ำฝนก็ท่วม

ผู้ว่ากทม. แสดงสีหน้าเคร่งเครียด

นายรอยล จิตรดอน ประธานคณะอนุกรรมการติดตาม วิเคราะห์สถานการณ์น้ำ และจัดสรรน้ำ ในคณะกรรมการบริหารจัดการน้ำและอุทกภัย กบอ. เปิดเผยว่า สถานการณ์ฝน ตั้งแต่วันนี้จนถึงวันที่ 17 ก.ย.นี้ หย่อมความกดอากาศต่ำยังเป็นปัญหาใหญ่ที่คนกรุงเทพต้องเผชิญ ซึ่งมองว่าเป็นปัญหาที่คนกรุงเทพน่ากังวลมากกว่าน้ำจากภาคเหนือที่ได้มีการระบายอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ เดือนสิงหาคม ทำให้ปัจจุบันมีปริมาณน้ำอยู่รอบนอก กทม. เพียง 300 กว่าล้านลบ.ม. ต่างจากปี 2554 ที่ระดับน้ำรอบนอก กทม. สูงถึง 1.2-1.4 ล้าน ลบ.ม.

"ระบบการระบายน้ำฝนของ กทม. ณ วันนี้ ปัญหาคือการระบายน้ำ ท่วมขังจากฝนที่ตกหนักออกไปทางอุโมงค์ระบายน้ำให้ได้ทันเวลา เนื่องจากพื้นที่กรุงเทพไม่มีความลาดเอียง ทำให้น้ำไม่สามารถไหลลงอุโมงค์ได้สะดวก" นายรอยล กล่าว

ทั้งนี้ เครื่องผลักดันน้ำมีความจำเป็นสำหรับการระบายน้ำในพื้นที่กรุงเทพ ควบคู่ไปกับการขุดลอกคูคลอง ซึ่งปัจจุบัน กทม. มีเครื่องผลักดันน้ำ 40-50 เครื่อง ที่จะต้องเร่งติดตั้งในคูคลองเพื่อระบายน้ำฝน โดยเฉพาะจุดวิกฤติ ซึ่งจะช่วยให้สถานการณ์เปลี่ยน น้ำที่ท่วมขังจากการระบายไม่ทันลดลงเร็ว และระดับน้ำในคลองไม่ล้นตลิ่งจนสร้างความเสียหายเหมือนที่ผ่านมา

นาย รอยล กล่าวอีกว่า สถานการณ์น้ำที่คลองสอง ณ วันนี้ นอกประตูระบายน้ำ ระดับน้ำอยู่ที่ 1.3 เมตร ด้านในประตูระบายน้ำอยู่ที่ 60 เซนติเมตร ถ้าฝนตกจะไม่มีการระบายน้ำเข้าคลอง ซึ่งวันนี้มีข้อมูลเพียงพอที่จะบอกได้ว่าฝนจะตกเมื่อไหร่ และศักยภาพของคูคลองในการระบายน้ำอยู่ในระดับใด ซึ่งผลจากการทดสอบประสิทธิภาพการระบายน้ำในคลองฝั่งตะวันตกและตะวันออกที่ผ่านมา ทำให้รู้ศักยภาพในการระบายน้ำผ่านระบบคูคลองของกรุงเทพมหานครที่รับได้ถึง 20 ล้าน ลบ.ม./วัน ซึ่งจะช่วยลดผลกระทบของระดับน้ำโดยรอบกรุงเทพมหานคร โดยเฉพาะจังหวัดปทุมธานี