วันพุธที่ 19 กันยายน พ.ศ. 2555

"พานทองแท้" รำลึก 6 ปี รัฐประหาร 19 กันยายน 2549

go6TV (19 กันยายน 2555) - นายพานทองแท้ ชินวัตร บุตรชายอดีตนายกรัฐมนตรี “พ.ต.ท.ดร.ทักษิณ ชินวัตร” ได้เปิดใจรำลึกถึงเหตุการณ์รัฐประหารเมื่อ 6 ปีที่แล้ว ในเฟสบุ๊คส่วนตัวดังนี้

ภาพจาก Fackbook นายพานทองแท้
วันนี้ วันพุธที่ 19 กันยา 55 ครบรอบ 6 ปีของการปฏิวัติ!!

สิ่งที่ยังคงเป็น "ตราบาป" จากการปฏิวัติ ที่ส่งผลกระทบถึงครอบครัวผมจนทุกวันนี้ก็คือ การที่คุณพ่อของผมถูกตัดสินจำคุก2ปี ด้วยข้อหาเล็กๆคือ คุณพ่อได้เซ็นต์หนังสือยินยอมในฐานะคู่สมรสให้คุณแม่เข้าร่วมประมูลซื้อที่ดินรัชดา ในขณะที่คุณแม่ซึ่งเป็นผู้ดำเนินการฯกลับไม่พบความผิด

เรื่องที่คุยโม้ว่า หนักหนาสาหัส มีหลักฐานเป็นคันรถ สามารถจับนักการเมืองเข้าคุกได้แน่นอน เช่นเรื่อง "ซีทีเอ๊กซ์" กลับไม่สามารถชี้มูลความผิดได้ และเรื่องที่กระทบกระเทือนจิตใจคนไทยเช่นเรื่อง"ผังล้มเจ้า" ก็ไม่มีที่มาที่ไป เอามาแถลงข่าวกล่าวหากันใหญ่โต พอซักไซ้ไล่เลียงไปก็ปรากฏว่า ไม่มีใครยอมรับว่าเป็นคนทำผังอุบาทนี้ แต่สังคมพวก "สลิ่มหูเบา" ทั้งหลายได้พิพากษาไปแล้วว่า "ทักษิณและพวกล้มเจ้า"

กรณีของครอบครัวของผมนี้ ผมเชื่อว่าถ้าคุณพ่อผมเป็นพลเมืองไทยประเภทที่มีภูมิคุ้มกันแบบ "อภิสิทธิ์ชน" หรือเป็นพวกว่านอนสอนง่าย ใครจะบอกว่า2+2เท่ากับ5 ก็เชื่อ ก็น่าจะไม่ต้องมาถูกตรวจสอบโดยองค์กรที่อุปโลกกันขึ้นมาภายใต้ชื่อ คตส.เช่นนี้ ซึ่งกลุ่มบุคคลที่ถูกตั้งมาเป็นกรรมการตรวจสอบฯ ก็เป็นที่ทราบกันดีว่าคณะปฏิวัติได้เลือกแต่งตั้งจากบุคคลที่เป็นปฏิปักษ์กับคุณพ่อผม ทั้งสิ้น

ส่วน "ตราบาป" ที่เกิดขึ้นกับพี่น้องประชาชนไทยนั้นหนักกว่า และผู้ได้รับผลกระทบ จากการปฏิวัติและเหตุการณ์ที่เป็นผลพวงต่อเนื่องจากการปฏิวัตินั้น ต้องทนทุกข์ทรมานมากกว่าผมและครอบครัวหลายเท่าครับ ไม่ว่าเรื่องที่ประเทศชาติต้องล้าหลังไปอีกนับ10ปี ความเชื่อมั่นของต่างชาติ กรณีของคุณลุงนวมทองฯลฯ สืบเนื่องมาถึงเหตุการณ์ความวุ่นวายหลังจากการปฏิวัติ ที่วีรชนทั้ง98ศพที่ยังคงนอนตายตาไม่หลับ เนื่องจากยังต้องรอคอยความยุติธรรมอยู่ รวมถึงครอบครัว ลูกเมียของผู้สูญเสีย ที่ยังรอการเยียวยา โดยที่ทุกวันนี้ก็ยังคงไม่มีหลักประกันว่า เรื่องเลวร้ายแบบนี้จะไม่เกิดขึ้นอีกกับบ้านเมืองนี้อีก

สิ่งที่ยังคงเข้มแข็งและเป็นเกราะคุ้มกันการปฏิวัติได้เป็นอย่างดี ได้แก่พี่น้องประชาชนที่รักประชาธิปไตยทุกท่าน ซึ่งปัจจุบันได้รวมตัวกันเป็นมวลชนคนเสื้อแดงครับ ยิ่งปฏิวัติก็ยิ่งแดงยิ่ง2มาตรฐานก็ยิ่งแดง ยิ่งแบ่งแยกชนชั้นอำมาตย์-ไพร่ก็ยิ่งแดง เหมือนกับจะบอกว่า ถ้ายังคิดจะทำผิดให้เป็นถูก-ทำถูกให้เป็นผิด สวนกระแสชาวโลกอยู่เช่นนี้คนก็จะยิ่ง"กล้าแดง" มากขึ้นเรื่อยๆ

ผมจึงชอบพูดอยู่เสมอว่า "2+2เป็น5กูกล้าแดง" ไงครับ

ไม่มีความคิดเห็น: