วันพุธที่ 13 มิถุนายน พ.ศ. 2555

"ไม่โดนขาขึ้น ก็โดนขาล่อง"



 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บรรยากาศในที่ประชุม ครม.ซึ่งมี น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เป็นประธาน ได้ใช้เวลาหารือเรื่องการออก พ.ร.ฎ.ปิดการประชุมสภาฯสมัยนิติบัญญัติ ในวันที่ 19 มิ.ย.นี้ ยาวนานเกือบ 1 ชั่วโมง

โดยนายวรวัจน์ เอื้ออภิญญ-กุล รมต.ประจำสำนักนายกฯ ในฐานะวิปรัฐบาล แจ้งว่า จะขอให้มีการปิดประชุมสภาฯในวันดังกล่าว จากนั้น นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ รมช.เกษตรฯ และแกนนำ นปช.

ได้กล่าวว่า การแก้ไขรัฐธรรมนูญ มาตรา 291 และการเดินหน้าผ่านมา 2 วาระ เป็นไปตามนโยบายและบทบัญญัติรัฐธรรมนูญ การเลื่อนการลงมติหรือการปิดสมัยประชุมเป็นสิ่งที่ประชาชนไม่ได้ยอมรับมาตั้งแต่ต้น ถ้าทำแบบนี้แล้วกองเชียร์จะเหลือใครบ้าง

วันที่เราถูกตัดสินในทางที่เป็นลบ อาจจะไม่เหลือใครยืนข้างเราเลย โดยเมื่อพูดถึงตอนนี้ นายกฯซึ่งมีสีหน้าเคร่งเครียดได้พยายามตัดบท โดยกล่าวว่า เข้าใจความรู้สึกความเห็นของคุณณัฐวุฒิ

แต่หากมีการท้วงติงมาจะไม่ฟังเลยคงไม่ได้ ส่วนตัวถามวันนี้ว่าเห็นด้วยหรือไม่ อย่าให้พูด แต่เมื่อมันเกิดข้อขัดแย้ง หากไม่ปิดสมัยประชุม ไม่ถอดชนวนความขัดแย้ง ประเทศชาติก็เดินหน้าต่อไปไม่ได้
เฉลิมชี้ถ้าดึงดันนายกฯเข้าคิลลิ่งโซน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายณัฐวุฒิกล่าวว่า จะมั่นใจได้อย่างไรว่าศาลรัฐธรรมนูญจะตัดสินเป็นคุณกับเรา วันนี้เลี้ยวซ้ายก็ตายเลี้ยวขวาก็ตาย ทำไมเราไม่เลือกเลี้ยวให้ได้ใจมวลชน ไหนๆจะล้มอยู่แล้ว ไม่ชกให้มันประทับใจหน่อยหรือ อย่างน้อยก็ออกหมัดบ้าง ไม่ใช่รอรับเท้าที่สหบาทามาอย่างเดียว

ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกฯ จึงกล่าวว่า ตั้งคำถามง่ายๆว่า ลงมติวันนี้พรุ่งนี้ได้อะไร ไม่ลงวันนี้พรุ่งนี้เสียอะไร บอกเลยว่า ยิ่งประชาธิปัตย์ทำอย่างนี้ เหมือนคนที่ถอดเสื้อผ้าเปลือยกายล่อนจ้อน

คนเห็นหมดแล้วทั้งประชาธิปัตย์และศาลรัฐธรรมนูญ บางอย่างการที่เราไม่พูดหรือการที่เรายอม ไม่ได้แปลว่าเราแพ้หรือยอมจำนน แต่การนิ่งหรือการให้เวลาไปแก้ไขผล มันอาจจะดีและหอมหวานกว่าที่คิดก็ได้ วันนี้เหมือนกับเราดำน้ำแข่งกัน

ใครดำอึดกว่าก็ชนะ ใครอดทนน้อยกว่าก็แพ้ แต่ถ้าเราดึงดันเพื่อจะโหวตวันนี้ก็จะเสียของ ถ้าโหวตวันนี้ก็แพ้วันนี้เลย ถ้าเราเดินต่อไปก็จะเป็นการผลักนายกฯเข้าสู่คิลลิ่งโซน เพราะเมื่อส่งเรื่องขึ้นไปแล้ว

ถ้าไม่ผ่านคณะกรรมการกลั่นกรองขององคมนตรี มันก็จะแช่อยู่อย่างนั้น เท่ากับนายกฯเดินเข้าสู่แดนประหาร ศาลรัฐธรรมนูญก็จะออกคำตัดสินมาทันทีว่าการกระทำนั้นขัดรัฐธรรมนูญ

ทีนี้ทั้งในกฎหมายทั้งนอกกฎหมาย ทั้งม็อบเชิญ ม็อบรับจ้างจะมากันหมด จึงอยากจะบอกว่า วันนี้ไม่ต้องไปกลัว มวลชนเข้าใจเรา
ฝ่ายข่าวทหารเตือนให้รัฐบาลถอย

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พล.อ.ยุทธศักดิ์ ศศิประภา รองนายกฯ ได้กล่าวว่า เราพูดเรื่องนี้กันมากแล้ว จึงเสนอความเห็นขอให้ ผอ.สำนักข่าวกรองได้พูดเรื่องนี้ด้วย เพราะเป็นเรื่องเดียวกัน

แต่นายกฯบอกว่า ถ้าเป็นเรื่องเดียวกันก็ไม่ต้องให้ ผอ.สำนักข่าวกรองพูด ท่านพูดเองก็ได้ เพื่อให้เกิดความกระชับ พล.อ.ยุทธศักดิ์จึงรายงานว่า

เมื่อวันที่ 11 มิ.ย.นี้ หน่วยข่าวด้านความมั่นคง 12 หน่วยงานได้มาประชุมกันที่ทำเนียบฯ ซึ่งทุกคนเป็นห่วงประเด็นนี้ โดยเห็นว่า

ถ้านายกฯยังเดินหน้าที่จะกราบบังคมทูล ก็ขอเตือนนายกฯให้ระวัง 2 ขา คือ ทั้งขาขึ้นกราบบังคมทูล และขารับสนองพระบรมราชโองการ หมายความว่า ไม่ขาไปก็ขามาโดนแน่

ซึ่งนายกฯก็บอกว่าหมายความว่า เรื่องนี้ข่าวกรองก็บอกให้ถอย ทหารก็บอกให้ถอย ดังนั้น ยุทธศาสตร์ตาม ร.ต.อ.เฉลิมถือว่าถูกต้องแล้ว