หมายเหตุ
ทีมงานทำราคาเปรียบเทียบ จากคำให้สัมภาษณ์ของ ผู้ว่าฯ กทม. พบว่าราคากล้องต่อตัวคือสองแสนถึงสี่แสนห้าพันบาทต่อตัว แต่คำพูดในเนื้อข่าว ระบุเฉพาะเจาะจงว่าแค่แสนสามหมื่นบาท แต่ราคากล้องที่แพงที่สุด ดีที่ีสุดในท้องตลาดปัจจุบัน แค่ราคาตัวละ 10000 บาท และราคากล้องดัมมี่แค่ราคา 220 บ. แต่ผู้ว่าฯ ให้ราคากล้องดัมมี่ที่ 2500 บ.
วันที่ 22 ก.ย. ที่ศาลาว่าการกทม. ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าฯ กทม. แถลงข่าวการตรวจสอบกล้องวงจรปิดทั่วพื้นที่กทม. ว่า ได้สั่งการให้นายเจริญรัตน์ ชูติกาญจน์ ปลัด.กทม. ตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงในการจัดซื้อกล้องวงจรปิด (ซีซีทีวี) ว่ามีการทุจริตคอร์รัปชันตามที่ถูกตั้งข้อสงสัยหรือไม่ รวมทั้งจะเสนอให้คณะกรรมการสืบสวนสอบสวนการทุจริตและประพฤติมิชอบในการบริหารราชการ กทม.ที่มี พล.ต.อ.วสิษฐ เดชกุญชร เป็นประธาน พิจารณาสอบสวนต่อไป
ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ กล่าวว่า นอกจากนี้ได้สั่งการให้ปลัด กทม. เปิดเผยสัญญาการจัดซื้อกล้องซีซีทีวีทุกฉบับ เผยแพร่ลงในเว็บไซต์ของ กทม. รวมทั้งให้เปิดเผยข้อมูลพิกัดการติดตั้งกล้องซีซีทีวีในพื้นที่ กทม.ทั้งหมด เพื่อให้สื่อมวลชนและประชาชนทุกภาคส่วนช่วยกันตรวจสอบว่ามีการทุจริตหรือติดตั้งในพื้นที่จริงหรือไม่ ยกเว้นกล้องซีซีทีวีที่ติดตั้งในเขตพระราชฐานและสถานที่ที่เกี่ยวข้องกับความมั่นคง ซึ่ง กทม.ไม่สามารถเปิดเผยข้อมูลได้
“หากพรรคเพื่อไทยต้องการจะเข้ามาตรวจสอบเรื่องนี้ ผมก็รู้สึกยินดีและดีใจมาก ขอให้แห่กันมาเลย เรื่องจะได้จบๆ ผมจะได้ไปทำเรื่องอื่นแทน จะด่าผมตามเว็บไซต์พันทิปก็ได้ ด่ากันให้แหลกเลย ผมไม่ว่าอะไร แต่ขอให้ช่วยกันตรวจสอบ และถ้าผมไม่ผิดก็ไม่จำเป็นต้องชี้แจงใดๆ เพราะผมไม่ได้กินปูนร้อนท้อง” ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ กล่าว
ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ กล่าวต่อว่า การจัดซื้อกล้องซีซีทีวีของ กทม.มีทั้งสิ้น 2 รุ่น รุ่นแรกคือกล้องที่ติดตั้งหลังเกิดเหตุระเบิดบริเวณแยกราชประสงค์ โดยมีการยกร่างประกวดราคาจัดซื้อ (ทีโออาร์) ตั้งแต่เดือน ธ.ค.2550-2551 ใช้งบประมาณรัฐบาล 330 ล้านบาท รวมกล้องทั้งหมด 2,046 ตัว ในจำนวนนี้มีกล้องปลอมหรือกล้องดัมมี่รวมอยู่ด้วย 1,325 ตัว
ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ กล่าวอีกว่า ในร่างทีโออาร์จัดซื้อกล้องซีซีทีวีรุ่นแรกกำหนดไว้ชัดเจนว่า ให้ติดตั้งกล้องปลอมด้วย เนื่องจากงบประมาณจำกัด โดยกล้องจริงราคาตัวละ 34,000-1.3 แสนบาท แต่กล้องปลอมราคาตัวละ 2,500-2,700 บาทเท่านั้น อีกทั้งเป็นการติดตั้งเพื่อป้องปรามอาชญากรรมและผู้ก่อการร้าย เช่นเดียวกับประเทศอังกฤษที่มีการติดตั้งกล้องหลอกถึง 5 หมื่นตัว
“ประชาชนมีสิทธิคิดได้การติดตั้งกล้องปลอมมีความเหมาะสมหรือไม่ เห็นด้วยหรือไม่ แต่ไม่ควรด่วนสรุปว่าเกิดการทุจริตคอร์รัปชัน เพราะมีการกำหนดไว้ในสัญญาจัดซื้อชัดเจน ยกเว้นว่าจะมีการจัดซื้อกล้องจริง แต่ติดตั้งกล้องปลอม” ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ กล่าว
ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ กล่าวด้วยว่า กทม.ได้ยกร่างทีโออาร์จัดซื้อกล้องรุ่น 2 จำนวน 2 หมื่นตัว ตามนโยบายที่ได้หาเสียงไว้ โดยทั้งหมดเป็นกล้องที่สามารถใช้งานได้จริงและได้ติดตั้งไปแล้ว 1 หมื่นตัวเมื่อเดือน มิ.ย.ที่ผ่านมา
“ขณะนี้ได้สั่งการให้รื้อถอนกล้องซีซีทีวีปลอมออกทั้งหมดโดยเร็วที่สุด ซึ่งปัจจุบันเหลืออยู่ประมาณ 500 ตัว โดย กทม.จะทยอยติดตั้งกล้องจริงแทนกล้องปลอมทั้งหมด” ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ กล่าว
ด้านนายวรัญชัย โชคชนะ แกนนำกลุ่มพิทักษ์ผลประโยชน์ประชาชน อดีตผู้สมัครผู้ว่าฯกทม. กล่าวว่า จะเข้ายื่นหนังสือร้องเรียนต่อคณะกรรมการปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ให้ตรวจสอบการติดตั้งกล้องซีซีทีวีแบบกลวง เป็นที่เคลือบแคลงสงสัยส่อไปในทางทุจริตหรือไม่เหมือนกรณีการจัดซื้อรถดับเพลิง โดยจะยื่นเรื่องร้องเรียนในวันที่ 22 ก.ย. เวลา 10.30 น.
ผู้สื่อข่าวรายงาน ว่า ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ ได้พาสื่อมวลชนชมการทำงานในห้องคอนโทรลของระบบกล้องวงจรปิด 10,000 ตัวทั่วกทม.อีกด้วย
ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ กล่าวว่า นอกจากนี้ได้สั่งการให้ปลัด กทม. เปิดเผยสัญญาการจัดซื้อกล้องซีซีทีวีทุกฉบับ เผยแพร่ลงในเว็บไซต์ของ กทม. รวมทั้งให้เปิดเผยข้อมูลพิกัดการติดตั้งกล้องซีซีทีวีในพื้นที่ กทม.ทั้งหมด เพื่อให้สื่อมวลชนและประชาชนทุกภาคส่วนช่วยกันตรวจสอบว่ามีการทุจริตหรือติดตั้งในพื้นที่จริงหรือไม่ ยกเว้นกล้องซีซีทีวีที่ติดตั้งในเขตพระราชฐานและสถานที่ที่เกี่ยวข้องกับความมั่นคง ซึ่ง กทม.ไม่สามารถเปิดเผยข้อมูลได้
“หากพรรคเพื่อไทยต้องการจะเข้ามาตรวจสอบเรื่องนี้ ผมก็รู้สึกยินดีและดีใจมาก ขอให้แห่กันมาเลย เรื่องจะได้จบๆ ผมจะได้ไปทำเรื่องอื่นแทน จะด่าผมตามเว็บไซต์พันทิปก็ได้ ด่ากันให้แหลกเลย ผมไม่ว่าอะไร แต่ขอให้ช่วยกันตรวจสอบ และถ้าผมไม่ผิดก็ไม่จำเป็นต้องชี้แจงใดๆ เพราะผมไม่ได้กินปูนร้อนท้อง” ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ กล่าว
ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ กล่าวต่อว่า การจัดซื้อกล้องซีซีทีวีของ กทม.มีทั้งสิ้น 2 รุ่น รุ่นแรกคือกล้องที่ติดตั้งหลังเกิดเหตุระเบิดบริเวณแยกราชประสงค์ โดยมีการยกร่างประกวดราคาจัดซื้อ (ทีโออาร์) ตั้งแต่เดือน ธ.ค.2550-2551 ใช้งบประมาณรัฐบาล 330 ล้านบาท รวมกล้องทั้งหมด 2,046 ตัว ในจำนวนนี้มีกล้องปลอมหรือกล้องดัมมี่รวมอยู่ด้วย 1,325 ตัว
ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ กล่าวอีกว่า ในร่างทีโออาร์จัดซื้อกล้องซีซีทีวีรุ่นแรกกำหนดไว้ชัดเจนว่า ให้ติดตั้งกล้องปลอมด้วย เนื่องจากงบประมาณจำกัด โดยกล้องจริงราคาตัวละ 34,000-1.3 แสนบาท แต่กล้องปลอมราคาตัวละ 2,500-2,700 บาทเท่านั้น อีกทั้งเป็นการติดตั้งเพื่อป้องปรามอาชญากรรมและผู้ก่อการร้าย เช่นเดียวกับประเทศอังกฤษที่มีการติดตั้งกล้องหลอกถึง 5 หมื่นตัว
“ประชาชนมีสิทธิคิดได้การติดตั้งกล้องปลอมมีความเหมาะสมหรือไม่ เห็นด้วยหรือไม่ แต่ไม่ควรด่วนสรุปว่าเกิดการทุจริตคอร์รัปชัน เพราะมีการกำหนดไว้ในสัญญาจัดซื้อชัดเจน ยกเว้นว่าจะมีการจัดซื้อกล้องจริง แต่ติดตั้งกล้องปลอม” ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ กล่าว
ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ กล่าวด้วยว่า กทม.ได้ยกร่างทีโออาร์จัดซื้อกล้องรุ่น 2 จำนวน 2 หมื่นตัว ตามนโยบายที่ได้หาเสียงไว้ โดยทั้งหมดเป็นกล้องที่สามารถใช้งานได้จริงและได้ติดตั้งไปแล้ว 1 หมื่นตัวเมื่อเดือน มิ.ย.ที่ผ่านมา
“ขณะนี้ได้สั่งการให้รื้อถอนกล้องซีซีทีวีปลอมออกทั้งหมดโดยเร็วที่สุด ซึ่งปัจจุบันเหลืออยู่ประมาณ 500 ตัว โดย กทม.จะทยอยติดตั้งกล้องจริงแทนกล้องปลอมทั้งหมด” ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ กล่าว
ด้านนายวรัญชัย โชคชนะ แกนนำกลุ่มพิทักษ์ผลประโยชน์ประชาชน อดีตผู้สมัครผู้ว่าฯกทม. กล่าวว่า จะเข้ายื่นหนังสือร้องเรียนต่อคณะกรรมการปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ให้ตรวจสอบการติดตั้งกล้องซีซีทีวีแบบกลวง เป็นที่เคลือบแคลงสงสัยส่อไปในทางทุจริตหรือไม่เหมือนกรณีการจัดซื้อรถดับเพลิง โดยจะยื่นเรื่องร้องเรียนในวันที่ 22 ก.ย. เวลา 10.30 น.
ผู้สื่อข่าวรายงาน ว่า ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ ได้พาสื่อมวลชนชมการทำงานในห้องคอนโทรลของระบบกล้องวงจรปิด 10,000 ตัวทั่วกทม.อีกด้วย
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น