วันอาทิตย์ที่ 25 กันยายน พ.ศ. 2554

"เจ๊ดา" ชีวิตที่เหลืออยู่เพื่อประชาธิปไตย


ที่กรุงพนมเปญ ประเทศกัมพูชา วันที่ 25 ก.ย. 2554 นางดารณี กฤตบุญญาลัย หนึ่งในแกนนำกลุ่มคนเสื้อแดง ที่ขณะนี้ยังถูกหมายจับคดีก่อการร้าย เมื่อวันที่ 19 พ.ค. 2553 ให้สัมภาษณ์ “สำนักข่าวเนชั่น” ถึงเหตุการณ์ต่าง ๆ ที่เกิดขึ้น รวมถึงชีวิตโฮโซที่ต้องหมดไปหลังหนีออกนอกประเทศ โดยเริ่มเปิดฉากถึงการหลบหนีออกนอกประเทศ ว่า การหลบหนีออกจากประเทศไทย มีขั้นตอนในช่วงวันที่ 19 พ.ค. เมื่อแกนนำของเรามีความรู้สึกว่าการกระชับพื้นที่ โดยใช้ภาษาที่เลี่ยงบาลีจากการสลายกาชุมนุมเป็นกระชับพื้นที่ ก็คือการสั่งสังหารหมู่ประชาชนวันนั้น เราเห็นภาพเมื่อวันที่ 10 เม.ย.

นางดารณี กล่าวต่อว่า ดังนั้นแกนนำของเราหลายคน ทั้ง นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ก็มีความคิดว่าจะยอมสิ้นอิสรภาพของตัวเราเอง เพื่อที่จะไม่ให้เกิดภาพสังหารหมู่ประชาชนเมื่อวันที่ 10 เม.ย. ซึ่งเราก็เห็นด้วยกับเพื่อนที่ทำแบบนั้น แต่ทุกครั้งที่เราต่อสู้บนเวทีเราพูดคำว่า รัฐบาลนี้เป็นรัฐบาลโจร คือ มาด้วยการตั้งรัฐบาลในกรมทหารราบที่ 11 รักษาพระองค์ (ร.11 รอ.) และคนที่อยู่ในพรรคพลังประชาชนชวนให้ทรยศประชาชนที่หย่อนบัตรเลือกตั้งให้ ซึ่งเป็นการทรยศอุดมการณ์ ทรยศประชาชนที่ได้ตัดสินใจเลือกเพราะคุณมีสีเสื้อของพรรคพลังประชาชน แต่คุณไปร่วมกับพรรคประชาธิปัตย์ ดังนั้นถือว่านั่นคือรัฐบาลโจร และ รธน.ปี 50 ประชาชนก็รับรู้ว่าไม่ได้เป็น รธน.ที่ใช้ไม่ได้ เพราะมาจาก คมช. ดังนั้นการต่อสู้ทุกครั้งคือ หนึ่งรัฐบาลโจรไม่รับ และเมื่อรธน.โจรออก พรก.มาก็เป็น พรก.โจรอีกนั่นแหละ ดังนั้นตนถือว่าเป็นประชาชนคนหนึ่ง ซึ่งการมาชมุนมไม่ว่าจะอยู่ราชมังคลา หรือที่สีแยกราชประสงค์ ประชาชนมาด้วยสองมือเปล่า ดังนั้นไม่รับผิดตามพรก.ฉบับดังกล่าว

“ถ้าพี่อยู่เมืองไทยก็จะต้องถูกขังเหมือนกับเพื่อน ๆ จะได้รับการประกันตัวหรือไม่ก็ไม่รู้ ดังนั้นจึงถือว่าพี่ไม่รับความผิด และไม่ยอมติดคุก ก็เลยหนีไป แต่พี่ก็ไม่อยากใช้คำว่าหนี เพียงแต่อยากจะใช้คำว่านปช.พลัดถิ่น พี่ออกมาก็อยู่ในหลายแห่ง อยู่เป็นที่ไม่ได้ เพราะรัฐบาลสามารถรังแกประชาชนได้ทุกทาง โดยเฉพาะจะไปอยู่ประเทศไหนก็สร้างความเดือดร้อนให้เขา อย่างเช่นได้ข่าวว่ามาอยู่เขมร ก็รังแก ด่าทอทำร้ายประเทศเพื่อนบ้าน ทั้ง ๆ ที่นโยบายต่างประเทศในโลกต่างเป็นมิตรประเทศ โดยเฉพาะเพื่อนประเทศบ้าน ที่เราเป็นเพื่อนบ้านที่ดีต่อกัน ซึ่งก่อนหน้านั้นไม่ได้มีเรื่องราวอะไร นอกจากเกิดพันธมิตร ก็สร้างสถานการณ์ไม่ลงลอยกับประเทศเพื่อน เช่น เรียกร้องเอาเขาพระวิหารคืน ซึ่งความจริงเราเสียไปตั้งแต่ปี 2505 ฉะนั้นพี่ก็เลยอยู่ไม่เป็นที่ บางครั้งก็อยู่ตามแนวตะเข็บชายแดน หรือ บางทีก็ชายไปอยู่ฝั่งไทยบ้าง ฝั่งกัมพูชาบ้าง หรือบางทีก็หนีไปต่างประเทศบ้าง และวันนี้ก็จะต้องเรียนรู้ว่า คนเสื้อแดงไม่ได้มีอยู่เฉพาะประเทศไทย แต่มีทุกทวีปทั่วโลก ” นางดารณี ระบุ

นางดารณี กล่าวอีกว่า พี่เห็นใจคนไทยทั้งประเทศ หากไปประเทศไหนได้ก็ไปหาคนเสื้อแดงด้วยกัน และเจอะเจอกันและพูดถึงแนวทางประชาธิปไตยกันเท่านั้น ซึ่งมีหลายคนที่ถูกออกหมายจับ และจับกันถึงสองระลอก ระลอกแรกสิบกว่าคน และรอบสองพี่โดนคนแรกเลย ซึ่งรู้สึกงงขึ้นเวทีได้แต่ร้องเพลงเห็นใจประชาชน และพูดถึงประชาธิปไตยเป็นอย่างไร และอาจจะพูดถึงความผิดผลาดของรัฐบาล ความผิดพลาดของฝ่ายเผด็จการที่บ้านเมืองไปด้วยดี และอยู่ดี ๆ ก็ทำการรัฐประหาร ยึดอำนาจ แต่มันไม่ใช่ปฏิวัติ เพราะการปฏิวัติจะต้องเปลี่ยนระบอบไปอีกระบอบหนึ่ง หรือเปลี่ยนอย่างไปอีกอย่างหนึ่ง

ฉะนั้นประเทศไทยไม่เคยเกิดการปฏิวัติ แต่เป็นการทำรัฐประหาร ยึดอำนาจ และปฏิรูปสิ่งที่เลวให้มันเลวมากขึ้น ฝ่ายที่เห็นด้วยกับฝ่ายอามตยาธิปไตยวันนี้ ก็รู้ว่าประเทศเป็นระบอบการปกครองที่เผด็จการ ตนและประชาชน ขอยืนยันว่า เสื้อแดง หรือ สีแดง คือสัญญลักษณ์ของคำว่าประชาธิปไตยที่จะสู้เพื่อประชาธิปไตย สีแดงเป็นสีหนึ่งในธงชาติไทย ที่ประกอบด้วย สีขาว สีแดง และ สีน้ำเงิน ดังนั้นเมื่อเรามีสีแดงที่หมายถึงประชาชน สีขาวหมายถึงศาสนาที่ทุกศาสนาอยู่ร่วมกันโดยปกติสุข และโอบล้อมอยู่สีน้ำเงินคือสถาบัน ฉะนั้นทุกอย่างจะต้องอยู่กันอย่างดี มันถึงจะอยู่ได้ครบเป็นสีทั้งสามสีบนธงขาติ ดังนั้นเราคือประชาชนที่รักประเทศชาติ ดังนั้นพี่โดนแบบนี้จึงไม่ยอม

" พี่ยอมรับว่าเจอพี่กี้อริสมันต์ พงษ์เรืองรอง และเพื่อน ๆ ที่ถูกหมายจับ ซึ่งส่วนใหญ่จะเจอกันนาน ๆ ครั้ง ส่วนใหญ่จะเจอทาอินเตอร์เน็ต แต่ก่อนไม่เคยเล่นอินเตอร์เน็ท แต่มาวันนี้จะต้องเรียนรู้ และติดต่อกับเพื่อน ๆ ทางอินเตอร์เน็ทกัน ทั้งนี้สิ่งที่เกิดขึ้นเราไม่ได้มีการตัดพ้อกันเลย ไม่ว่าเราจะอยู่ในต่างประเทศ หรือ แกนนำที่ถูกจับกุมคุมขังถึง 9 เดือน เพียงแต่เราเห็นใจ และติดต่อกับญาติพี่น้อง

วันนี้คนที่ติดคุกอยู่เป็นนักโทษการเมือง แต่การจับกุมคุมขังข้อหาแต่ใช้วาทะกรรมบอกว่าไม่มีนักโทษการเมือง มีแต่นักโทษอาญา ทั้งนี้ไปเอามาตราอะไรมารังแกประชาชนอีกข้างหนึ่งที่คิดต่างกัน ประเทศที่เจริญแล้วเขาไม่ทำกัน ทั้งนี้ตนยืนยันว่าพี่จะกลับประเทศไทยอย่างแน่นอน และขอบอกว่าจะกลับประเทศไทยเร็ว ๆ นี้อย่างแน่นอน ฝากเพื่อนสื่อไปเลยว่า พี่จะกลับเมืองไทยเพื่อไปต่อสู้ให้ได้ประชาธิปไตยให้ได้ วันหนึ่งประเทศไทยจะเป็นประชาธิปไตยที่เต็มใบ และจะกลับไปเร็ว ๆ นี้

การกลับไปครั้งนี้จะต้องมีการปรองดองกัน และคืนอำนาจให้กับประชาชน และการเลือกตั้งที่ผ่านมา เราก็ได้พรรคการเมืองของฝ่ายประชาชนแล้ว แม้ว่าพรรคการเมืองวันนี้จะมีหน้าที่ แต่อำนาจยังไม่มี เพราะยังอยู่ในรัฐธรรมนูญโจร ปี 50 เชื่อคนไทยทั้งประเทศต้องการให้ประเทศไทยเป็นประชาธิปไตย เพราะว่ามันยิ่งกว่าถอยหลังลงคลอง ตนคิดว่าอีกไม่เกิน 3 - 5 ปี ประเทศกัมพูชาก็จะไล่ทันประเทศเราแล้ว ส่วนประเทศเวียดนามนำประเทศไทยไปแล้ว” นางดารณี ระบุ

นางดารณี บอกด้วยว่า อยากบอกว่าหลายสิ่งหลายอย่างที่เกิดขึ้นในประเทศ เกิดจากการบริหารที่ไม่รักประเทศ ขณะนี้มีหลายประเทศดึงนักท่องเที่ยวไปหมดแล้ว ประเทศไทยอย่าช้า ขอให้ประชาชนมองประเทศอย่างยุติธรรม คนเสื้อแดงไม่ใช่ชั่วร้าย และไม่จริงที่คนเสื้อแดงเผาบ้านเผาเมืองตามที่ถูกกล่าวหา เพราะที่ผ่านไปฝ่ายรัฐมีการล้อมประชาชนไปทั่วหลายพื้นที่ ใครจะไปเผา หากเขาไม่เผาเองสร้างสถานการณ์ และใส่ร้ายคนไทยด้วยกันเอง

อย่างไรก็ตาม หลังจากที่ออกนอกประเทศตนก็ไม่ค่อยได้ติดต่อกับครอบครัวสักเท่าไหร่ สามีมาเยี่ยมสามครั้ง และลูก ๆ ก็มาเยี่ยมบ้าง แต่ก็ไม่ได้มีความสุข ต้องร้องไห้เพราะไม่เคยได้อยู่ในสภาพอย่างนี้ แต่ชีวิตที่เหลืออยู่คือเพื่อประชาธิปไตย และเพื่อสังคมให้ดีขึ้น อยากให้อำนาจอธิปไตยเป็นของปวงชนชาวไทย และขอให้ประชาชนมีสิทธิเสรีภาพที่สมบูรณ์ ขอให้ประชาชนมีความเสมอภาค ทั้งทางกฎหมาย และทางโอกาส คนไทยบางครั้งกฎหมายให้ความเสมอภาค คือ เราอยู่ภายใต้กฎหมายตรงนั้น ในบางเรื่อง เช่น กฎหมายการศึกษา แต่ประชาชนก็ไม่ได้ตามนั้น

ดังนั้นขอให้อำนาจเป็นของปวงชนชาวไทย ขอให้ประชาชนมีสิทธิเสรีภาพอย่างสมบูรณ์​ มีความสามารถทางกฎหมาย และโอกาส และขอให้หลักกฎหมายของประเทศไทยอย่าตีความเหมือนศรีธนนชัย คนทั้งโลกจะได้รู้ว่าหลักกฎหมายของประเทศไทยจะต้องศักดิ์สิทธิ์ และข้อสุดท้ยขอให้การบริหารประเทศมาจากการเลือกตั้งจากประชาชน วันนี้ประชาชนไม่ได้โง่ หรือไปคิดแทนได้ ประชาชนไม่ใช่ควาย ประชาชนคิดเห็นได้ โดยเฉพาะอย่าด่าประชาชน ว่าเป็นคนโง่ซื้อเสียง แต่แค่สามสิบบาทรักษาทุกโรค หรือวันก่อนซื้อเสียงด้วยปลาทูเข่งหนึ่ง หรือ ซื้อเสียงด้วยนาฬิกาเรือนหนึ่ง หรือ ข้าวถุงหนึ่ง วันนี้บอกว่าสามสิบบาทรักษาทุกโรค หรือ รักษาฟรี ประชาชนได้รัฐบาลที่ดูแลประชาชนอย่างทั่วถึง ประชาชนจะได้เงินมากกว่าการซื้อเสียงที่เป็นร้อย ห้าร้อย หรือ เป็นพันเสียอีก ซึ่งจะทำให้เกิดการพัฒนาของประชาชนทางความคิดสู่ประชาชนธิปไตย อย่าคิดแทนประชาชนว่าประชาชนโง่ และสามารถซื้อเสียงได้ตลอด

เมื่อถามถึงชีวิตไฮโซหมดไปหลังจากต้องหลบหนีออกนอกประเทศ และต้องมาอยู่ตามแนวชายแดน นางดารณี กล่าวว่า ชีวิตมันเปลี่ยนทุกอย่าง เช่น อยู่ใน กทม. ก็จะมีบัตรเชิญไปร่วมงานสังคม หรือ งานกุศล ซึ่งถามว่าได้ประโยชน์หรือไม่ ซึ่งตอบได้ว่ามี แต่วันนี้ประเทศชาติ มันจัดงานแบบนี้ไม่ได้แล้ว จะต้องไปจัดงานน้ำท่วม ดังนั้นจะต้องช่วยประชาชนอย่างยั่งยืน จะต้องได้รัฐบาลที่เข้าไปช่วยเหลือประชาชนอย่างแท้จริง เมื่อมาอยู่แบบนี้ชีวิตก็จะต้องไปคนละรูปแบบ คืออยู่คนเดียว ทำทุกอย่างคนเดียว หาข้าวกินคนเดียว ซักผ้าเอง ซึ่งทำได้ทุกอย่างเอง

" เรากินข้าวมื้อละแสนกับกินข้าวกะเพราไก่ไข่ดาวก็เหมือนกัน เพราะวันรุ่งขึ้นก็ถ่ายออกมาเหมือนกัน ตนไม่ได้เป็นคนดื่ม การดื่มไวน์ขวดละแสน หรือกินน้ำเปล่า เมื่อเข้าท้องไปแล้วกลั่นออกมาก็เป็นปัสสาวะเหมือนกัน ไม่ใช่ว่ากินข้าวมื้อละแสนแล้วเก็บไว้ได้สามวัน มันทำไม่ได้ ทุกอย่างเป็นสัจจะธรรม การที่จะมีมากมีน้อยหรือเกิดครั้งเดียวก็ตายครั้งเดียว แต่วันนี้ภูมิใจที่ตายแล้วไม่เสียชาติเกิด ทั้งนี้หากย้อนกลับไปได้ก็จะเป็นพี่ดาแบบนี้ พี่ดาเป็นอย่างนี้มานานแล้ว เคยเดินขบวนไล่คณะบดีคณะสถาปัตย์ตั้งแต่อยู่จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยปีหนึ่ง และปีสาม ก็ไล่คณะบดีคณะเภสัช เพราะมีการไปสร้างอาณาจักรของคนมีอำนาจ และสิบสี่ตุลา ก็เดินขบวนกับเขา และหกตุลาก็เดินขบวนตลอด

เมื่อถามว่า สังคมมองว่าเป็นเป็นฆาตกรเผาบ้านเผาเมือง นางดารณี กล่าวว่า พี่เชื่อว่าความจริงเป็นสิ่งไม่ตาย ทำดีได้ดี ทำชั่วได้ชั่ว ประเทศไทยจะต้องเปลี่ยน เมื่อคำพังเพยบอกว่าค่าของคนต้องอยู่ที่ผลของงาน ไม่ใช่ค่าของคนอยู่ที่คนของใคร แล้วมือใครยาวสาวได้สาวเอามันไม่ใช่ จะต้องให้โอกาสประชาชนอย่างเสรี แล้วใครจะได้มากน้อยก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง ใครจะมาบอกว่าตนเผาบ้านเผาเมือง หรือจะบอกว่า อริสมันต์ ตนอยากถามว่า ใครเคยเห็นแกนนำถืออาวุธปืนหรือไม่ ซึ่งก็ไม่มี อย่างน้อยที่สุดวันที่เราได้ประกันทุกคนที่ติดตารางเก้าเดือนเศษ และตำรวจเองก็ออกมาบอกตลอดว่าไม่เคยเจออาวุธจากกลุ่มคนเสื้อแดง ดังนั้นขอความเป็นธรรมให้กับกลุ่มคนเสื้อแดงด้วย ตนไม่เสียใจไม่ว่าใครจะมากล่าวร้ายอะไร เห็นหรือไม่ว่าเอาคลิปเสียดาตอปิโดมาออกยูทรูป และช่องสิบเอง อย่าลืมว่าจะต้องขอโทษเพื่อให้ประชาชนได้รับรู้รับทราบ เอาคลิปเสียงดาตอปิโด และเอาภาพของพี่ไปใส่

ขอขอบคุณ นสพ.คมชัดลึก

ไม่มีความคิดเห็น: