"ภารกิจสุดท้ายในตำแหน่ง ผบ.ตร." ของวิเชียร พจน์โพธิ์ศรี

พล.ต.อ.วิเชียร พจน์โพธิ์ศรี ผบ.ตร. พร้อมด้วย พล.ต.ท.วรพงษ์ ชิวปรีชา ผู้ช่วยผบ.ตร. และ พล.ต.ท.ไพฑูรย์ ชูชัยยะ ผบช.ศชต. เดินทางเข้าตรวจเยี่ยมกำลังพล สภ.ยี่งอ จ.นราธิวาส โดย พล.ต.อ.วิเชียร กล่าวขอบคุณตำรวจทุกนายที่เสียสละปฏิบัติหน้าที่บำบัดทุกข์บำรุงสุขของประชาชนในพื้นที่เป็นอย่างดี โดยเฉพาะตลอดระยะเวลาที่ดำรงตำแหน่ง ผบ.ตร. ทำให้เหตุการณ์ความรุนแรงในพื้นที่ลดน้อยลงเป็นลำดับ รวมทั้งผลการปฏิบัติในเชิงรุกของตำรวจ ที่บูรณาการร่วมกับทหารและฝ่ายปกครอง

จากนั้น พล.ต.อ.วิเชียร ให้สัมภาษณ์ถึงการโยกไปเป็นเลขาธิการสมช. ว่า ไม่ว่าจะดำรงตำแหน่งอะไร และอยู่ที่ไหนก็ตาม ก็สามารถที่จะทำหน้าที่เพื่อประเทศชาติและประชาชนได้เช่นกัน เมื่อถูกถามว่าน้อยใจบ้างไหมที่ถูกย้าย ผบ.ตร.กล่าวว่า ไม่ เพราะตอนนี้ยังไม่มีอะไรเกิดขึ้น

"ผบ.ตร.เป็นตำแหน่งที่ขึ้นอยู่กับการเมืองเป็นสำคัญ อยู่ได้ 1 ปีไม่เกิน 2 ปี ก็ต้องไป ผมเองรับตำแหน่งเมื่อวันที่ 7 ก.ย. 2553 ทำงานด้วยความเสียสละ ทำหน้าที่ให้ดีที่สุด แต่ไม่ใช่เพื่ออยู่นาน หรือกอดเก้าอี้ เพราะรู้ธรรมชาติอยู่แล้วว่าตำแหน่งนี้เปลี่ยนแปลงบ่อย ถ้าไม่มีอะไรผิดพลาด คาดว่าน่าจะมีการเปลี่ยนแปลงภายในสัปดาห์หน้า" พล.ต.อ. วิเชียร กล่าว

ผบ.ตร.กล่าวต่อว่า สิ่งที่จะทำต่อไป สำหรับผบ.ตร.คนใหม่ คือเรื่องการบริหารจัดการที่เป็นระบบ เช่น เรื่องที่ตนเองทำใกล้จะเสร็จแล้ว คือเรื่องระบบของพนักงานสอบ สวน ค่าตอบแทนของพนักงานสอบสวน จะทำให้แล้วเสร็จภายใน 1-2 วันนี้ ก่อนจะเสนอเป็นระเบียบ หรือกฎกระทรวง จะเป็นระบบที่มั่นคงยั่งยืน ไม่ยึดติดกับตัวบุคคล นอกจากนี้ ก็มีเรื่องของระบบการจัดการเลือกตั้งที่ได้ทำไว้ เรื่องอัตราเงินค่าตอบแทนตำรวจชั้นประทวนที่เพิ่มขึ้นเป็น 33,000 บาท เรื่องระบบนับวันทวีคูณตำรวจภาคใต้ เป็นผลงานที่ชัดเจนที่ได้ทำมาให้เป็นระบบ เมื่อเป็นระบบแล้วใครจะไปจะมาก็ไม่มีปัญหาก็ฝากให้ผบ.ตร.คนใหม่ให้ทำอย่างเป็นระบบ