วันอังคารที่ 20 กันยายน พ.ศ. 2554

จับตอแหลหม่อมเอ๋อ!! "คุณชายขันน็อตกล้องตัวที่ 10000 เมื่อ 30มิ.ย.54"







จับโกหกหน้าด้านๆ เมื่อมีการปฏิเสธจาก มรว.สุขุมพันธ์ บริพัตร ว่ากล้อง CCTV ของกทม.นั้น อยู่ระหว่างการดำเนินการติดตั้ง และเจ้าหน้าที่ติดป้ายบอกผิดนั้น ทีมงานได้ย้อนดูข่าวเก่าเมื่อวันที่ ๓๐ มิ.ย.๕๔ ที่ผ่านมาปรากฏว่า ผู้ว่าฯ กทม.ได้ขันน็อตกล้อง CCTV ตัวที่ี 10000 เรียบร้อยแล้วที่ลานสยามดิสคัฟเวอรี่ นั่นหมายถึงว่า กรุงเทพต้องมีกล้องครบแล้ว 10000 ตัว ดังมีรายละเอียดข่าวย้อนหลังจากเมเนเจอร์ออนไลน์ดังนี้


" วันนี้ (30 มิ.ย. ) ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) เป็นประธานในการเพื่อขันนอตติดตั้งกล้องโทรทัศน์วงจรปิด (CCTV) เพื่อการจราจรและความปลอดภัย ตัวที่ 10,000 ณ บริเวณลานวิคตอรี่ พอยท์ อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ พร้อมทดสอบการทำงานของกล้องผ่านจอโทรทัศน์ โดยมีคณะผู้บริหาร กทม.สื่อมวลชนและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมงาน



กทม.ดำเนินงานติดตั้งกล้อง CCTV (Closed Circuit Television) เพื่อเป็นเครื่องมือสอดส่อง เฝ้าระวัง และลดภัยให้สังคมแบบครบวงจร ช่วยลดจุดบอด ปลอดจุดเสี่ยง เพิ่มความปลอดภัย สร้างความอุ่นใจให้คนกรุงเทพฯและบ้านเมือง โดยมีพื้นที่ติดตั้งครอบคลุมจุดเสี่ยงภัย สถานศึกษา 700 แห่ง ชุมชน ตลาด และสถานที่อันตราย 600 แห่ง โรงพยาบาล และสถานที่สำคัญทั่วกรุงเทพฯ 160 แห่ง รวมจำนวน 10,000 ตัว



ผู้ว่าฯ กทม.กล่าวด้วยว่า หลังจากนี้กทม.จะเร่งดำเนินการติดตั้งกล้อง CCTV เพื่อลดจุดเสี่ยงในพื้นที่ต่างๆ ทั่วกรุงเทพฯ เพิ่มเป็น 20,000 ตัวภายในปี 2555 ครอบคลุมจุดเปลี่ยนถ่ายการเดินทาง สถานศึกษา ชุมชน ตลาด สถานที่อันตราย โรงพยาบาล ศูนย์สาธารณสุข สถานที่ราชการ และอื่นๆ พร้อมบูรณาการกับกล้องวงจรปิดของภาคเอกชนและหน่วยงานอื่นๆ กว่า 200,000 ตัว เพื่อเป็นเครือข่ายเฝ้าระวังอันตราย โดยเชื่อมโยงสัญญาณภาพไปยังศูนย์อำนวยการเขต 50 เขต สถานีตำรวจนครบาลในพื้นที่ ผ่านเครือข่ายใยแก้วนำแสง แล้วส่งต่อข้อมูลไปยังศูนย์ควบคุมบริหารจุดเสี่ยงและระบบความปลอดภัย ณ ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร ซึ่งสามารถเชื่อมต่อสัญญาณกับหน่วยงานภายในกรุงเทพมหานครและหน่วยงานภายนอก ที่เกี่ยวข้อง อาทิ กองบัญชาการตำรวจนครบาล กองอำนวยการร่วมพิเศษเฉพาะกิจ



ทั้งนี้ กล้อง CCTV ที่ ติดตั้งไว้ตามจุดต่างๆ สามารถบันทึกข้อมูลความผิดปกติและนำมาตรวจสอบเหตุการณ์ย้อนหลัง ไม่ว่าจะเป็นคดีอาชญากรรมและเหตุการณ์รุนแรงที่เกิดขึ้นบ่อยครั้งในพื้นที่ เสี่ยงภัยและแหล่งชุมชน โดยล่าสุด เหตุการณ์สะเทือนขวัญขณะรถพุ่งชน พ.ต.พญ. หทัยพร อิ่มวิทยา หรือหมอมุก เมื่อวันที่ 11 มิ.ย.ที่ผ่านมา ถูกบันทึกไว้วินาทีต่อวินาทีด้วยกล้องโทรทัศน์วงจรปิด CCTV ที่ กรุงเทพมหานครติดตั้งไว้ตามจุดต่างๆ ทั่วกรุงเทพฯ เช่นเดียวกับกรณีชิงทรัพย์ ทำร้ายร่างกาย อุบัติเหตุ และเหตุการณ์ทางการเมือง รวมกว่า 650 เหตุการณ์ที่กล้อง CCTV จับภาพไว้ได้ และนำไปสู่การคลี่คลายคดีในที่สุด ภาพจากกล้อง CCTV จึง กลายเป็นหลักฐานสำคัญ ที่ทำให้เจ้าหน้าที่สามารถคลี่คลายคดีสำเร็จโดยเร็ว ต่างจากเมื่อก่อนที่ต้องใช้เวลาสอบสวนและหาพยานหลักฐานเป็นเวลานาน "


ไม่มีความคิดเห็น: