กำหนดนัด 24 กันยายนนี้ แกนนำคนเสื้อแดงจะยกพลไปเตะฟุตบอลนัดกระชับมิตร ระหว่างทีม "เรด พีซ (Red Peace)" ของคนเสื้อแดงกับ "ทีมสภาผู้แทนราษฎร" กัมพูชา ที่สนามกีฬาแห่งชาติ โอลิมปิกสเตเดียม กรุงพนมเปญ
รายชื่อนักเตะที่หลุดออกมาเรียกน้ำย่อยคอการเมืองกันบ้างแล้ว โดยฝ่ายกัมพูชา ในฐานะ "ทีมเหย้า" นำโดย "ฮุน เซน" นายกรัฐมนตรีกัมพูชา โดยมีนักเตะคนสำคัญอย่าง "พล.ท.ฮุน มาเนต" รอง ผบ.ทบ.กัมพูชา บุตรชายคนโตของสมเด็จฯฮุน เซน
ฝั่งทีมเยือน "เรด พีซ" แว่วมาว่า วางตัว "พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร" อดีตนายกฯ เป็น "ศูนย์หน้า" ขณะที่ "จตุพร พรหมพันธุ์-ณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ" เป็นตัวทำเกม "แดนกลาง" และอาจจะสอดแทรก "กี้ร์" อริสมันต์ พงศ์เรืองรอง ลงเสริมเกมรุก
ส่วนแกนนำเสื้อแดง, ส.ส.เพื่อไทย รวมไปถึง "รัฐมนตรี" อีกหลายคน ก็ประสานร่วมทีมไปเสริมทัพด้วยอีกนับสิบ
วันนี้ทุกอย่างเตรียมพร้อม 100% ยังเหลือเพียง "ศาล" ว่าจะอนุญาตให้ "แกนนำเสื้อแดง" ที่เป็น "ผู้ต้องหาคดีก่อการร้าย" และบางคนเป็น "จำเลย" ในคดีหมิ่นเบื้องสูง ให้เดินทางออกนอกประเทศได้หรือไม่?
ล่าสุด "ทนายความเสื้อแดง" ยื่นคำร้องต่อศาลขอลดเงื่อนไขการประกันตัว "3 แกนนำเสื้อแดง" ไปแล้ว แต่ศาลยังไม่อนุญาต เลยต้องงัดมุขใหม่ ขอยื่นคำร้องเป็น "รายบุคคล" และเป็นรายกรณีอีกครั้ง
แกนนำเสื้อแดง ยืนยันว่าเป้าหมายการฟาดแข้งนัดประวัติศาสตร์ "เรด พีซ" ปะทะ "ออลสตาร์สภาเขมร" ครั้งนี้ เพื่อกระชับความสัมพันธ์ระหว่าง "ไทย-กัมพูชา" ที่เกิดปัญหากระทบกระทั่งกันมาตลอด ถึงขั้นขนกำลังพลและอาวุธหนักมาถล่มกันจนเสียเลือดเสียเนื้อมาแล้ว
ครั้งนี้จึงเป็นการตอกย้ำความสัมพันธ์อันดี ระหว่าง "คนเสื้อแดง+รัฐบาลพรรคเพื่อไทย" กับ "สมเด็จฯฮุน เซน" แบบชิดใกล้ ที่เหนือกว่า "พรรคประชาธิปัตย์" หลายขุม
แต่ที่สำคัญกว่าคือ ได้แอ๊กชั่น!
ต้องยอมรับว่า กว่า 2 เดือน หลังเสร็จศึกเลือกตั้ง 3 กรกฎาคม "คนเสื้อแดง" ซึ่งถูก "แกนนำพรรคเพื่อไทย" วางไว้ในสถานะ "กันชน" ให้กับ "รัฐบาลยิ่งลักษณ์ ชินวัตร" ยังไม่มีโอกาสขยับเขยื้อนใดๆ แสดงพลังใดๆ
กระทั่งล่าสุดสถานการณ์การเมืองที่ "กดดัน" รัฐบาลอย่างหนักจากฝ่ายตรงข้ามและเครือข่าย ตั้งแต่ประเด็นการแก้ไขรัฐธรรมนูญ 2550 การโยกย้ายข้าราชการ ไปจนถึงความพยายามที่จะรื้อเรื่องการนิรโทษกรรมให้กับ "พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร" อดีตนายกฯ
เป็นความเคลื่อนไหวจากหลายองคาพยพ แต่ "หน้าเดิมๆ" ที่ยืนอยู่ฝั่งตรงข้าม และล้มรัฐบาล พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร รัฐบาลนายสมัคร สุนทรเวช และรัฐบาลนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ มาแล้ว
ทำให้ "แกนนำพรรคเพื่อไทย" และ "คนเสื้อแดง" พรั่นพรึงใจ กอปรกับปฏิกิริยาของ "ผู้นำเหล่าทัพ" ที่พร้อมใจกันตบเท้าไปร่วมงาน "ต้อนรับนายกฯ" ในงานแถลง "ยุทธศาสตร์ชาติ-ยุทธศาสตร์ทหาร" ที่นายกฯยิ่งลักษณ์ เป็นประธาน แล้วปล่อยให้ "พล.อ.ยุทธศักดิ์ ศศิประภา" รมว.กลาโหม รับหน้าเพียงลำพัง
กลายเป็นอากัปกิริยาของ "ฝ่ายตรงข้าม" ที่ทำให้ "พรรคเพื่อไทย" จำเป็นจะต้องแสดงแสนยานุภาพ เพื่อเป็นการตอบโต้ฝ่ายตรงข้าม ผ่านกิจกรรมของ "คนเสื้อแดง"
และดูเหมือนความเคลื่อนไหวของ "คนเสื้อแดง" ครั้งแรก ในรอบ 2 เดือน หลังเสร็จสิ้นการเลือกตั้งก็คือการประกาศจัดทัพระดมพลลงเตะฟุตบอลกระชับมิตรกับ "ทีมสภาผู้แทนราษฎร" ของกัมพูชา
แม้เบื้องหน้า "แกนนำเสื้อแดง" จะประกาศว่าต้องการเดินทางไปเฉพาะแกนนำ ในรูปแบบ "ฉิ่งฉับทัวร์" เตะเสร็จแล้วกลับ แต่เบื้องหลังพูดกันว่า "มวลชนคนเสื้อแดง" ระดมพลกันอย่างคึกคัก แห่กันเป็นคาราวานมุ่งสู่กรุงพนมเปญกะกันว่าเอาให้เสื้อแดงพรึบเต็มความจุสนามโอลิมปิกสเตเดียมเลยทีเดียว
เพื่อยกระดับให้ บอลกระชับมิตร "เรด พีซ VS ทีมสภาผู้แทนราษฎรกัมพูชา" เป็นกิจกรรมระดับชาติ ที่จะส่งสัญญาณไปถึง "ฝ่ายตรงข้าม" ทั้ง "ในประเทศ" และ "ต่างประเทศ" อย่างตรงไปตรงมา!
รายชื่อนักเตะที่หลุดออกมาเรียกน้ำย่อยคอการเมืองกันบ้างแล้ว โดยฝ่ายกัมพูชา ในฐานะ "ทีมเหย้า" นำโดย "ฮุน เซน" นายกรัฐมนตรีกัมพูชา โดยมีนักเตะคนสำคัญอย่าง "พล.ท.ฮุน มาเนต" รอง ผบ.ทบ.กัมพูชา บุตรชายคนโตของสมเด็จฯฮุน เซน
ฝั่งทีมเยือน "เรด พีซ" แว่วมาว่า วางตัว "พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร" อดีตนายกฯ เป็น "ศูนย์หน้า" ขณะที่ "จตุพร พรหมพันธุ์-ณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ" เป็นตัวทำเกม "แดนกลาง" และอาจจะสอดแทรก "กี้ร์" อริสมันต์ พงศ์เรืองรอง ลงเสริมเกมรุก
ส่วนแกนนำเสื้อแดง, ส.ส.เพื่อไทย รวมไปถึง "รัฐมนตรี" อีกหลายคน ก็ประสานร่วมทีมไปเสริมทัพด้วยอีกนับสิบ
วันนี้ทุกอย่างเตรียมพร้อม 100% ยังเหลือเพียง "ศาล" ว่าจะอนุญาตให้ "แกนนำเสื้อแดง" ที่เป็น "ผู้ต้องหาคดีก่อการร้าย" และบางคนเป็น "จำเลย" ในคดีหมิ่นเบื้องสูง ให้เดินทางออกนอกประเทศได้หรือไม่?
ล่าสุด "ทนายความเสื้อแดง" ยื่นคำร้องต่อศาลขอลดเงื่อนไขการประกันตัว "3 แกนนำเสื้อแดง" ไปแล้ว แต่ศาลยังไม่อนุญาต เลยต้องงัดมุขใหม่ ขอยื่นคำร้องเป็น "รายบุคคล" และเป็นรายกรณีอีกครั้ง
แกนนำเสื้อแดง ยืนยันว่าเป้าหมายการฟาดแข้งนัดประวัติศาสตร์ "เรด พีซ" ปะทะ "ออลสตาร์สภาเขมร" ครั้งนี้ เพื่อกระชับความสัมพันธ์ระหว่าง "ไทย-กัมพูชา" ที่เกิดปัญหากระทบกระทั่งกันมาตลอด ถึงขั้นขนกำลังพลและอาวุธหนักมาถล่มกันจนเสียเลือดเสียเนื้อมาแล้ว
ครั้งนี้จึงเป็นการตอกย้ำความสัมพันธ์อันดี ระหว่าง "คนเสื้อแดง+รัฐบาลพรรคเพื่อไทย" กับ "สมเด็จฯฮุน เซน" แบบชิดใกล้ ที่เหนือกว่า "พรรคประชาธิปัตย์" หลายขุม
แต่ที่สำคัญกว่าคือ ได้แอ๊กชั่น!
ต้องยอมรับว่า กว่า 2 เดือน หลังเสร็จศึกเลือกตั้ง 3 กรกฎาคม "คนเสื้อแดง" ซึ่งถูก "แกนนำพรรคเพื่อไทย" วางไว้ในสถานะ "กันชน" ให้กับ "รัฐบาลยิ่งลักษณ์ ชินวัตร" ยังไม่มีโอกาสขยับเขยื้อนใดๆ แสดงพลังใดๆ
กระทั่งล่าสุดสถานการณ์การเมืองที่ "กดดัน" รัฐบาลอย่างหนักจากฝ่ายตรงข้ามและเครือข่าย ตั้งแต่ประเด็นการแก้ไขรัฐธรรมนูญ 2550 การโยกย้ายข้าราชการ ไปจนถึงความพยายามที่จะรื้อเรื่องการนิรโทษกรรมให้กับ "พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร" อดีตนายกฯ
เป็นความเคลื่อนไหวจากหลายองคาพยพ แต่ "หน้าเดิมๆ" ที่ยืนอยู่ฝั่งตรงข้าม และล้มรัฐบาล พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร รัฐบาลนายสมัคร สุนทรเวช และรัฐบาลนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ มาแล้ว
ทำให้ "แกนนำพรรคเพื่อไทย" และ "คนเสื้อแดง" พรั่นพรึงใจ กอปรกับปฏิกิริยาของ "ผู้นำเหล่าทัพ" ที่พร้อมใจกันตบเท้าไปร่วมงาน "ต้อนรับนายกฯ" ในงานแถลง "ยุทธศาสตร์ชาติ-ยุทธศาสตร์ทหาร" ที่นายกฯยิ่งลักษณ์ เป็นประธาน แล้วปล่อยให้ "พล.อ.ยุทธศักดิ์ ศศิประภา" รมว.กลาโหม รับหน้าเพียงลำพัง
กลายเป็นอากัปกิริยาของ "ฝ่ายตรงข้าม" ที่ทำให้ "พรรคเพื่อไทย" จำเป็นจะต้องแสดงแสนยานุภาพ เพื่อเป็นการตอบโต้ฝ่ายตรงข้าม ผ่านกิจกรรมของ "คนเสื้อแดง"
และดูเหมือนความเคลื่อนไหวของ "คนเสื้อแดง" ครั้งแรก ในรอบ 2 เดือน หลังเสร็จสิ้นการเลือกตั้งก็คือการประกาศจัดทัพระดมพลลงเตะฟุตบอลกระชับมิตรกับ "ทีมสภาผู้แทนราษฎร" ของกัมพูชา
แม้เบื้องหน้า "แกนนำเสื้อแดง" จะประกาศว่าต้องการเดินทางไปเฉพาะแกนนำ ในรูปแบบ "ฉิ่งฉับทัวร์" เตะเสร็จแล้วกลับ แต่เบื้องหลังพูดกันว่า "มวลชนคนเสื้อแดง" ระดมพลกันอย่างคึกคัก แห่กันเป็นคาราวานมุ่งสู่กรุงพนมเปญกะกันว่าเอาให้เสื้อแดงพรึบเต็มความจุสนามโอลิมปิกสเตเดียมเลยทีเดียว
เพื่อยกระดับให้ บอลกระชับมิตร "เรด พีซ VS ทีมสภาผู้แทนราษฎรกัมพูชา" เป็นกิจกรรมระดับชาติ ที่จะส่งสัญญาณไปถึง "ฝ่ายตรงข้าม" ทั้ง "ในประเทศ" และ "ต่างประเทศ" อย่างตรงไปตรงมา!
ล่าสุด พตท.ดร.ทักษิณ ยังปฏิเสธ ไม่เข้าร่วมการเตะบอลนัดนี้แต่ต้องรอดูกำหนดการต่อไป เพราะหลังจากออกจากกัมพูชา ดร.ทักษิณจะไปมาเลเซีย บรูไน พม่า และอาจย้อนกลับมากัมพูชาก็เป็นไปได้
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น