นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และคณะ ได้เดินทางออกจากท่าอากาศยานทหาร กองบิน 6 ไปยังท่าอากาศยานวัดไต สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว เพื่อเยือนอย่างเป็นทางการ |
วันนี้ เวลา 13.00 น. นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และคณะประกอบด้วยบุคคลสำคัญ อาทิ นายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ นายพิชัย นริพทะพันธุ์รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ปลัดกระทรวงการต่างประเทศ รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง และโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ได้เดินทางออกจากท่าอากาศยานทหาร กองบิน 6 ไปยังท่าอากาศยานวัดไต สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว เพื่อเยือนอย่างเป็นทางการ โดยมีรัฐมนตรีเกียรติยศ รัฐมนตรีรองหัวหน้าห้องว่าการรัฐบาลลาว รองเจ้าครองนครหลวงเวียงจันทน์ และเจ้าหน้าที่ระดับสูงของโลก รอให้การต้อนรับ นายกรัฐมนตรีและคณะเดินทางต่อไปยังสำนักนายกรัฐมนตรีลาว เพื่อเข้าร่วมพิธีต้อนรับอย่างเป็นทางการ โดยนายทองสิง ทำมะวง นายกรัฐมนตรีลาวเชิญนายกรัฐมนตรีขึ้นแท่นรับความเคารพ โดยมีสุภาพสตรีลาวมอบช่อดอกไม้ ก่อนการตรวจแถวทหารเกียรติยศ จากนั้น เวลา 14.45 น. นายกรัฐมนตรีได้เข้าหารือข้อราชการกับนายทองสิง ทำมะวง นายกรัฐมนตรีสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว โดยภายหลังการหารือ นายกรัฐมนตรีได้เป็นประธานในพิธีมอบเงินช่วยเหลือแก่ผู้ประสบอุทกภัยในลาว เป็นจำนวน 2.5 ล้านบาทและพิธีมอบเงินโครงการโรงเรียนเพื่อนมิตรประจำปี 2554 จำนวนอีก 2 ล้านบาท ก่อนเดินทางไปยังที่ทำการสภาแห่งชาติลาว เพื่อพบหารือกับ นางปานี ยาท่อตู้ ประธานสภาแห่งชาติ และเดินทางไปยังสำนักงานประธานประเทศ เพื่อเยี่ยมคารวะ พลโท จูมมาลี ไซยะสอน ประธานประเทศลาว และร่วมพิธีวางพวงมาลาที่อนุสาวรีย์นักรบนิรนามและเดินทางไปสักการะพระธาตุหลวง โดยทั้งไทยและลาว จะเน้นความสัมพันธ์แบบมองไปข้างหน้า เพื่อร่วมกันเป็นส่วนหนึ่งของประชาคมอาเซียน ซึ่งนายกรัฐมนตรีได้ยืนยันถึงความต่อเนื่องของนโยบายและความมุ่งมั่นของรัฐบาลที่จะส่งเสริมและเพิ่มพูนความสัมพันธ์และความร่วมมือกับลาว ซึ่งไทยเองถือว่า “ความมั่งคั่งของลาว คือ ความมั่งคั่งของไทย โดยไทยจะสนับสนุนกลไกความร่วมมือไทย-ลาวที่มีอยู่ อาทิ คณะกรรมาธิการร่วมว่าด้วยความร่วมมือ (JC) ไทย-ลาว ทั้งนี้ ลาวประสงค์ให้ไทยสนับสนุนการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานที่จำเป็น ซึ่งนายกรัฐมนตรีเห็นถึงความสำคัญ เนื่องจาก ไทย-ลาว เป็นจุดเชื่อมต่อสำคัญที่สามารถช่วยขับเคลื่อนการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจในภูมิภาคนี้ ซึ่งไทยจะให้ความช่วยเหลือด้านความร่วมมือเพื่อการพัฒนาและการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน นอกจากนี้ ทั้งสองฝ่ายยังเห็นพ้องที่จะร่วมกันแก้ไขปัญหาต่างๆบริเวณชายแดน อาทิ การค้ายาเสพติด และการลักลอบขนสินค้าข้ามแดน นอกจากนี้ ยังมีการหารือในประเด็นความร่วมมืออื่นๆ อาทิ การส่งเสริมความร่วมมือระหว่างภาคประชาชน และการส่งเสริมให้เอกชนไทยเข้าไปลงทุนในลาวมากขึ้น ซึ่งรัฐบาลเองมีนโยบายส่งเสริมให้ภาคเอกชนไทยมีความรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม เพื่อผลประโยชน์ที่ยั่งยืนของทั้งสองประเทศ โดยความร่วมมือด้านพลังงาน นายกรัฐมนตรีได้ยืนยันถึงความร่วมมือด้านการรับซื้อไฟฟ้าจากลาว จำนวน 7,000 เมกะวัตต์ ตามบันทึกความเข้าใจที่ได้มีการลงนามไปแล้ว พร้อมกันนี้ นายกรัฐมนตรีได้แสดงความเสียใจที่ลาวประสบภัยธรรมชาติอย่างต่อเนื่อง ซึ่งในการเยือนครั้งนี้ รัฐบาลไทยได้มอบเงินช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยแก่รัฐบาลลาวจำนวน 2.5 ล้านบาท และได้ถือโอกาสนี้เชิญนายกรัฐมนตรีทองสิง ทำมะวง เยือนไทย เพื่อกระชับความสัมพันธ์ให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้นอีกด้วย ในเวลาต่อมา นายกรัฐมนตรีได้เข้าร่วมงานเลี้ยงอาหารค่ำที่นายกรัฐมนตรีลาวจัดขึ้นเพื่อเป็นเกียรติแก่นายกรัฐมนตรี ณ โรงแรมลาวพลาซ่า ก่อนเดินทางกลับถึงประเทศไทยถึงท่าอากาศยานทหาร กองบิน 6 เวลา 20.50 น. ในวันเดียวกัน |
วันเสาร์ที่ 17 กันยายน พ.ศ. 2554
"นายกฯยิ่งลักษณ์" ย้ำ "ลาว" มองอนาคตเพื่อพัฒนา เจริญก้าวหน้าด้วยกัน
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น