แนวร่วม นปช. ที่บาดเจ็บจากเหตุปะทะ 10 เมษายน 2553 เสียชีวิตด้วยโรคมะเร็งเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา วันนี้ (5ก.ย.54) แกนนำ นปช. ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย และคนเสื้อแดง ร่วมพิธีฌาปนกิจศพอย่างคับคั่ง พร้อมย้ำว่า ผู้กระทำผิดจะต้องได้รับการลงโทษตามกฎหมาย
เหตุปะทะระหว่างทหารกับมวลชนคนเสื้อแดง บริเวณอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย เมื่อวันที่ 10 เมษายน 2553 ทำให้นายพรหมมินทร์ เก็มกาแมน ผู้ชุมนุมคนเสื้อแดง ถูกแก๊สน้ำตายิงใส่ และถูกก้อนหินปาใส่บริเวณใบหน้าอย่างแรง
พี่สาวของนายพรหมมินทร์ บอกว่าบาดแผลในครั้งนั้น ทำให้เกิดอาการติดเชื้อ เพราะไม่ได้รับการรักษาอย่างถูกวิธีจากแพทย์ เนื่องจากนายพรหมมินทร์กลัวว่าจะถูกจับกุม จึงไม่ไปรักษาที่โรงพยาบาล ส่วนสารเคมีในแก๊สน้ำตา ก็อาจเป็นสาเหตุให้เกิดโรคมะเร็งจนเสียชีวิต เมื่อวันที่ 2 กันยายน ที่ผ่านมาเงินก้อนเดียวที่ พรหมมินทร์ เคยได้รับ คือเงินช่วยเหลือ 20,000 บาท โดยไม่ทราบต้นสังกัด ในขณะที่ญาติพี่น้องย้ำว่าไม่ต้องการเรียกร้องเงินชดเชย แต่อยากให้กระบวนการยุติธรรม นำผู้กระทำผิดมาลงโทษตามกฎหมาย
นายพรหมมินทร์ เก็มกาแมน อายุ 42ปี เป็นคนกรุงเทพฯโดยกำเนิด เป็นลูกคนสุดท้องในจำนวนพี่น้อง 14 คน มีอาชีพนวดแบบโบราณและจับเส้น เริ่มเข้าร่วมการชุมนุมเรียกร้องประชาธิปไตย หลังเหตุการณ์รัฐประหาร 2549 เนื่องจากเห็นว่าการใช้กำลังยึดอำนาจจากรัฐบาล พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร เป็นสิ่งที่ไม่ถูกต้อง เพราะไม่ใช่แนวทางประชาธิปไตย และเห็นว่าทหารไม่เคารพเสียงส่วนใหญ่ของประชาชน
ขณะที่ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ซึ่งเคยเป็นแกนนำ นปช. กล่าวในงานฌาปนกิจศพนายพรหมมินทร์ว่า ความสูญเสียของมวลชนคนเสื้อจะได้รับการเยียวยาอย่างเหมาะสม พร้อมแสดงความมั่นใจว่า ผู้ที่กระทำผิดจะได้รับการลงโทษตามกฎหมาย
ขณะที่ พล.ต.อ.ประชา พรหมนอก รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม เปิดเผยว่า กระทรวงยุติธรรม ได้จัดทำแผนเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ทางการเมือง หลังประกาศใช้รัฐธรรมนูญ 2540 รวมทั้งผู้ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ความไม่สงบในจังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยตั้งงบประมาณไว้ 8,000 ล้านบาท พร้อมเสนอให้รัฐบาลจัดตั้งคณะกรรมการเยียวยาฟื้นฟู โดยมีกระทรวงยุติธรรมร่วมเป็นกรรมการด้วย ซึ่งการเยียวยาจะต้องเกิดขึ้นอย่างแน่ เพราะรัฐบาลได้แถลงนโยบายไว้แล้ว
Produced by VoiceTV
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น