โดยคำร้องสรุปว่า เนื่องจากคดีนี้ศาลได้มีคำสั่งอนุญาตให้ปล่อยตัวชั่วคราวพวกจำเลยในระหว่างการพิจารณา โดยได้กำหนดเงื่อนไขห้ามพวกจำเลยเดินทางออกนอกราชอาณาจักรเว้นแต่จะได้รับอนุญาตจากศาลเป็นหนึ่งเงื่อนไขของคำสั่งปล่อยตัวชั่วคราวและจำเลยได้ปฏิบัติตามคำสั่งอย่างเคร่งครัด และปัจจุบันพวกจำเลยทได้รับการลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร และได้รับแต่งตั้ง ตามคำสั่งกระทรวงมหาดไทยที่ 407/2554 ให้เป็นผู้ช่วยเลขานุการัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย
ตามที่รัฐบาลไทยโดยนายกรัฐมนตรี รัฐมนตรีกระทรวงต่างๆ และคณะสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร นำโดยนายจตุพร พหรมพันธุ์ จำเลยที่ 2 สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรฝ่ายรัฐบาลจะเดินทางไปเยือนประเทศกัมพูชา และเข้าพบนายกรัฐมนตรีประเทศกัมพูชา เพื่อเชื่อมความสัมพันธ์ระหว่าง 2 ประเทศ พร้อมกันนี้ได้จัดให้มีการแข่งขันฟุตบอลกระชับความสัมพันธ์ระหว่างสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรกลุ่มคนเสื้อแดงกับรัฐบาลกัมพูชา ณ กรุงพนมเปญ ประกอบกับจะได้หารือหรือขอความช่วยเหลือคดี 2 คนไทย คือนายวีระ สมความคิด และน.ส.ราตรี พิพัฒนาไพบูรณ์ แกนนำเครือข่ายคนไทยหัวใจรักชาติที่ถูกจำคุกอยู่ที่เรือนจำประเทศกัมพูชา ซึ่งพวกจำเลยมีภารกิจตามหน้าที่เป็นผู้ประสานงาน เพื่อเตรียมความพร้อมต่าง ๆ ตามกำหนดงานที่จะมีขึ้นระหว่างวันที่ 23-25 ก.ย.54 จึงขอศาลมีคำสั่งอนุญาตให้เดินทางไปยังประเทศกัมพูชาระหว่างวันที่ 15-19 ก.ย.54 ทั้งนี้ ขอวางเงินสดเพื่อเป็นประกันต่อศาลคนละ 600,000 บาท โดยขอให้ศาลมีคำสั่งอนุญาตแจ้งให้สำนักงานตรวจคนเข้าเมืองและกองหนังสือเดินทางกระทรวงการต่างประเทศ เพื่อความสะดวกรวดเร็วจำเลยขอรับหนังสือแจ้งคำสั่งศาลไปสั่งส่งให้กับสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองและกองหนังสือเดินทางกระทรวงการต่างประเทศด้วยตนเอง
ด้านทนายความ นปช.กล่าวว่า การเดินทางไปกัมพูชาของพวกจำเลยในครั้งนี้เป็นการทำหน้าที่ตามคำสั่งรัฐบาลในการประสานงานจัดแข่งขันฟุตบอลกระชับมิตร เพื่อเชื่อมสัมพันธไมตรีระหว่างสองประเทศ รวมทั้งประสานงานในการช่วยเหลือคนไทยที่ถูกคุมขังในเรือนจำกัมพูชา ไม่ได้มีวาระเพื่อพบกับ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี แต่อย่างใด
ขณะที่ นายณัฐวุฒิกล่าวว่า สาเหตุที่ต้องเดินทางไปประสานงานล่วงหน้าเนื่องจากภายหลังจากมีแนวคิดจัดแข่งฟุตบอลนัดกระชับมิตร ทำให้หลายฝ่ายให้ความสนใจจนการเตรียมงานเริ่มใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ ตนจึงต้องเดินทางไปประสานงานล่วงงานให้เป็นไปอย่างราบรื่น
“หน้าที่หลักของเราคือการทำเรื่องมวลชนสัมพันธ์ ถ้าประชาชนทั้ง 2 ประเทศมีความเข้าใจอันดีต่อกัน ผลประโยชน์โดยรวมก็จะเกิดขึ้นกับทั้งสองประเทศไทย ซึ่งแนวคิดการจัดแข่งฟุตบอลไม่ได้หยุดแค่ประเทศกัมพูชาเท่านั้น แต่อาจจะขยายไปยังประเทศเพื่อนบ้านอื่นๆ รวมถึงรัฐบาลอาจมีแนวคิดในการพัฒนาประเทศร่วมกันเพื่อแลกเปลี่ยนทรัพยากร และการลงทุนกับภาคเอกชน ซึ่งเป็นเรื่องดีและทุกฝ่ายได้ประโยชน์ร่วมกัน”
เมื่อถามว่าการเดินทางไปเตะฟุตบอลจะทำให้พรรคประชาธิปัตย์นำมาโจมตีว่ารัฐบาลไม่ทำงานหรือไม่ นายณัฐวุฒิกล่าวว่า แม้พวกตนจะทำงานหรือไม่ก็จะถูกพรรคประชาธิปัตย์โจมตีอยู่ดี แต่คิดว่าการขออนุญาตเดินทางไปเตะฟุตบอลอย่างถูกต้องและเปิดเผย ก็ดีกว่าการส่ง ส.ส.ของตัวเองเดินรุกล้ำเข้าไปพื้นที่ประเทศเพื่อนบ้าน จนขณะนี้คนไทย 2 คนยังถูกจำคุกอยู่โดยที่พรรคประชาธิปัตย์ช่วยเหลือไม่ได้ ซึ่งคิดว่าเรื่องนี้ประชาชนมีวิจารณญาณ เพราะปลายทางการทำงานของรัฐบาลคือสันติภาพ แต่ปลายทางการทำงานของพรรคประชาธิปัตย์คือสงคราม
ต่อมาเมื่อเวลา 14.30 น. นายวิญญัตเปิดเผยว่า ศาลได้อนุญาตให้นายวีระกานต์ ,นายยศวริศ นายณัฐวุฒิ เดินทางไปเขมร ตามคำร้องขอ
ด้าน นพ.เหวง โตจิราการ ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคเพื่อไทย ในวันนี้ยื่นหลักฐานขอประกันตัวชั่วคราวไม่ครบ ซึ่งเตรียมจะยื่นคำร้องขอต่อศาลอีกครั้งในวันพรุ่งนี้ (15 ก.ย.)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น