เมื่อ 14 มิ.ย. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผบ.ทบ. อัดเทปรายการสัมภาษณ์พิเศษ ชี้แจงบทบาทของกองทัพต่อสถานการณ์ในปัจจุบัน เพื่อนำออกอากาศทางสถานีโทรทัศน์กองทัพบกช่อง 5 และช่อง 7 โดยระบุตอนหนึ่งว่า ทหารสนับสนุนการเลือกตั้งตามระบอบประชาธิปไตยอย่างเต็มที่ สิ่งที่ตนห่วงคือเรื่องสื่อ บางทีประชาชนถูกชักจูงไป โดยกลุ่มคนบางประเภทที่ไม่ปรารถนาดี และตอบสนองกลับมาทำให้กองทัพมีปัญหากับประชาชน
พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า วันนี้ต้องไม่มีฝักไม่มีฝ่ายแล้ว ไม่ใช่ว่าเป็นทหารแล้วมีอำนาจบาตรใหญ่มาห้ามสื่อ คิดว่ากกต.ต้องดูแล ซึ่งบางครั้งไม่เป็นธรรมกับตนและกองทัพ ตนเคยได้รับโทรศัพท์จากต่างประเทศตำหนิว่าปกป้องดินแดนไม่ดี ทำร้ายประชาชน ซึ่งตนพยายามอธิบาย แต่ไม่เข้าใจ เพราะฟังมาจาก 2 สื่อดังกล่าว ตนว่า นี่อันตราย จะปล่อยให้มีสื่ออย่างนี้ต่อไปหรือไม่ ตนรู้ว่าถ้าพูดอย่างนี้ต้องมีคนมาโจมตีแน่นอน แต่ไม่เป็นไร ตนยอมอยู่แล้ว ซึ่ง 6 เดือนนี้กับก่อนหน้านี้มันคนละเรื่อง แต่ทั้งหมดยืนหยัดด้วยกฎหมาย ผิดหรือถูกก็มาต่อสู้ตามกระบวนการตามกฎหมาย แต่จะบอกว่ากลไกไม่ถูก ไม่ได้ เพราะต้องเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม ใครผิด ใครถูกสู้กันไป ละเมิดไม่ได้ ขอร้องประชาชนเรื่องการรักษากฎกติกาของบ้านเมือง
ในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา ในฐานะเราเป็นเจ้าหน้าที่ เราเสียใจที่มีประชาชนผู้บริสุทธิ์และเจ้าหน้าที่เสียชีวิต ไม่ควรเกิดแม้แต่คนเดียว ซึ่งไม่ควรเกิดขึ้นได้อีกแล้ว ต้องว่ากันตามกฎหมายว่าใครผิดหรือถูก โยนกันไปกันมาไม่ได้ การแก้ปัญหาชาติบ้านเมืองด้วยการเลือกตั้งเป็นสิ่งสำคัญ และต้องเลือกคนดี ที่ผ่านมาเราเสียใจ และจะพยายามไม่ให้เกิดขึ้นอีก
หลายตอนได้มีการพูดถึงกรณี ม.112 ว่ามีกลุ่มคนมากขึ้นตามเว็บไซท์ และเฟรซบุ๊ค และเอ่ยชื่อพาดพิงไปถึง อ.ใจ อึ้งภากรณ์ และ อ.จักรภพ เพ็ญแข และคนในต่างประเทศ ปลุกปั่นยุยง กล่าวใส่ร้ายหมิ่นสถาบันพระมหากษัตริย์ ซึ่งต้องขอความเป็นธรรมให้ สถาบันฯ
กรณีสื่อ 2 ค่าย (หมายถึง เอเอสทีวี และ พีเพิลแชแนล) เป็นสื่ออันตรายที่จะต้องหยุด ไม่ควรเผยแพร่อีกต่อไป
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น