วันพฤหัสบดีที่ 30 มิถุนายน พ.ศ. 2554
เปิดเครือข่ายนายทุน "เปรม ติณสูลานนท์" ก่อนวันหย่อนบัตร
การปรากฏชื่อ นายคะแนน สุภา ผู้รับเหมาใหญ่ จ.เชียงใหม่ ลงขันธุรกิจกับ นายทองไทร บูรพชัยศรี ผู้ประกอบการค้าเครื่องจักรกลและอสังหาริมทรัพย์รายใหญ่ แม้เป็นคอนเนกชั่นปกติทางธุรกิจ หากมองในลักษณะเครือข่าย ก็นับว่าน่าสนใจ
เพราะประการหนึ่ง นายคะแนน จ.เชียงใหม่ นอกจากเป็นเจ้าของ บริษัท เชียงใหม่คอนสตรัคชั่น จำกัดยังเป็นพ่อ พ่อตา นายเนวิน ชิดชอบ คีย์แมนพรรคภูมิใจไทย
ประการที่สองนายทองไทร บูรพชัยศรี เป็นเครือญาตินายอนุชาบูรพชัยศรีอดีต ส.ส.กรุงเทพฯ พรรคประชาธิปัตย์
ประการที่สาม นายทองไทร เป็นกรรมการมูลนิธิพิทักษ์อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ ซึ่งมูลนิธิแห่งนี้มี “ลูกป๋า” พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ องคมนตรีเป็นประธานกรรมการ
และเมื่อกล่าวถึงมูลนิธิพิทักษ์อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ ก็ขอให้ไปย้อนไปดูการออกมาเคลื่อนไหวของกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) หรือกลุ่มคนเสื้อแดงในช่วงเดือนมีนาคม 2553 ที่มูลนิธิพิทักษ์อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ถูกโยงเข้าไปเกี่ยวข้องด้วย
วันที่7 มีนาคม2553 นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ปูดข้อมูลว่าพล.อ.นพ พิณสายแก้วกรรมการมูลนิธิรัฐบุรุษใกล้ชิดพล.อ.เปรมและมีสถานะเป็นที่ปรึกษา บริษัทไทยเบฟเวอเรจ เป็นโซ่ข้อกลางเชื่อมการดำเนินธุรกรรมระหว่างบริษัทไทยเบฟฯ กับรัฐบุรุษ มูลนิธิรัฐบุรุษได้นำที่ดินในต.โนนหมากเค็งอ.วัฒนานครจ.สระแก้วจำนวน 247 ไร่จาก 1,550 ไร่ที่ได้รับบริจาคจากบริษัท เอ็มเอ็มซีสิทธิผลไปขายให้ นายอภิเชษฐ์ พิณสายแก้ว บุตรชาย พล.อ.นพ ถือว่าเป็นการขายให้คนกันเองและประธานองคมนตรีได้รับผลประโยชน์จากการซื้อขายที่ดินด้วยหรือไม่?
ครั้งนั้น พล.อ.พงษ์เทพเทศประทีปเลขาธิการมูลนิธิรัฐบุรุษออกมายอมรับว่า มูลนิธิขายที่ดินที่ได้รับบริจาคจากนางกัลยาณีพรรณเชษฐ์ ประธานบริษัท เอ็มเอ็มซี สิทธิผล (นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ปัจจุบันเป็นผู้สมัครบัญชีรายชื่อ อันดับ 9 พรรคเพื่อไทย บอกว่า นางกัลยาณีเป็น 1 ในกลุ่มทุนที่ใช้นามว่า “คณะ 11) จำนวน247 ไร่จาก1,550 ไร่ในราคาไร่ละ12,000 บาทให้แก่พล.อ.นพเมื่อปี2549 และได้นำเงินรายได้นำเข้ามูลนิธิรัฐบุรุษทั้งหมด
แต่พล.อ.พงษ์ เทพปฏิเสธว่า “ป๋าเปรม”ไม่ได้เป็นคณะกรรมการในมูลนิธิรัฐบุรุษเพียงแต่ยังมีชื่อพล.อ.เปรม เป็นเจ้าของ เพราะฉะนั้น พล.เปรมจึงไม่มีส่วนได้เสีย การออกมาเปิดโปงของนายณัฐวุฒิเป็นการโจมตีแบบไร้เหตุผลเพื่อทำให้ พล.อ.เปรมเสียหาย
ถ้าจำกันได้ ในช่วงเวลาใก้ลเคียงกัน นอกจากประเด็นที่ดินมูลนิธิรัฐบุรุษพล.อ.เปรมยังถูกโจมตีกรณีการรับเช็คจากนางกัลยาณี พรรณเชษฐ์ ประธานบริษัท เอ็มเอ็มซี สิทธิผล และกรณีการนั่งเป็นประธานที่ปรึกษากิตติมศักดิ์ให้กับธนาคารกรุงเทพของคนตระกูลโสภณพนิช เจ้าของสนามกอล์ฟสอยดาวไฮแลนด์ อ.โป่งน้ำร้อน จ.จันทบุรี ซึ่งมีปัญหาถูกกล่าวหาว่าบุกรุกป่าสงวนแห่งชาติ
ถ้ามองในลักษณะเครือข่ายก็จะพบว่า ผู้บริจาคเงินให้พรรคภูมิใจไทย คือ บริษัท เชียงใหม่ คอนสตรัคชั่น จำกัด
ผู้บริจาคเงินรายใหญ่ให้พรรคประชาธิปัตย์ เมื่อเดือนเมษายน 2554 ที่ผ่านมา คือ ตระกูลโสภณพนิช ธนาคารกรุงเทพ และบริษัทในเครือข่ายไทยเบฟเวอเรจ
สถานการณ์แย่งชิงอำนาจรัฐระหว่าง 2 ขั้วที่สุดเข้มข้นในขณะนี้จนถึงหลังเลือกตั้ง 3 กรกฎาคม 2554 หากมีการกล่าวหาว่าเกี่ยวพันกับ“มือที่มองไม่เห็น”
ไม่มีใครการันตีว่า “ป๋า”จะโดนถล่มน่วมอีกหรือไม่
หลังจากเพิ่งเดินทางไปใช้สิทธิเลือกตั้งล่วงหน้าที่บ้านเกิด จ.สงขลาเมื่อ 26 มิถุนายนที่ผ่านมา
ขอขอบคุณ คม ชัด ลึก
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น