วันศุกร์ที่ 10 มิถุนายน พ.ศ. 2554

อดีตพรรคชาติไทยเผย "ฝืนไม่ได้-เหมือนโดนปืนจ่อหัวให้ยอมร่วมมาร์ค"


เมื่อวันที่ 10 มิ.ย. นายเอกพจน์ ปานแย้ม อดีตกรรมการบริหารพรรคชาติไทย กล่าวถึงกรณีนายชุมพล ศิลปอาชา หัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา ระบุว่าถ้าไม่ถูกบีบบังคับก็คงไม่ร่วมรัฐบาลกับพรรคประชาธิปัตย์ว่า เป็นเรื่องจริง ในขณะนั้นตนเป็นวิปรัฐบาล พยายามทำหน้าที่เพื่อให้การดำเนินการเป็นไปตามระบบรัฐสภา แต่ถูกสกัดกั้นตลอด ทั้งการทำหน้าที่ของตนและของพรรคโดยถูกมองว่าเป็นการไปสนับสนุนอีกฝ่าย แม้หลายคนจะเตือนว่าถ้าพรรคยังคงร่วมรัฐบาลต่อไปก็จะถูกยุบพรรคแน่ แต่ทั้งนายบรรหาร ศิลปอาชา หัวหน้าพรรคชาติไทยในขณะนั้น และสมาชิกพรรคไม่มีใครเชื่อ เพราะเราเชื่อว่ากระบวนการยุติธรรม แต่ท้ายที่สุดพรรคก็ถูกยุบ พวกเราเจ็บปวดมาก โดยเฉพาะนายบรรหาร

อดีต กก.บห. พรรคชาติไทย เปิดเผยอีกว่า การที่ตัดสิทธิผู้ที่ไม่ได้เกี่ยวข้องด้วยมันเป็นความอัปยศสิ้นดี และยิ่งเจ็บปวดมากขึ้นอีก เพราะหลังจากนั้นสมาชิกที่เหลือต้องเข้าไปร่วมรัฐบาลกับพรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งก็รู้ว่าหลายคนในพรรคประชาธิปัตย์มีพฤติกรรมเกี่ยวข้องกับกลุ่มผู้ชุมนุมของกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย โดยนายวราวุธ ศิลปอาชา บุตรชายนายบรรหารพูดกันตนเป็นนัยว่า “ต้องทำใจ เราคงฝืนไม่ได้ มันเหมือนเราถูกเอาปืนจ่อหัวให้จำยอม ถ้าไม่ทำอาจจะหนักกว่าถูกตัดสิทธิ” ทำให้ตนเข้าใจว่าเราคงไม่มีทางเลือกจริง ๆ และนี่คือสิ่งที่เรายังเคลือบแคลงสงสัยอยู่ทุกวันนี้

ไม่มีความคิดเห็น: