วันจันทร์ที่ 20 มิถุนายน พ.ศ. 2554

คลิปข่าว 3 มิติแฉทหารเลว ขับรถชน "หมอมุก" เจตนาฆ่า


จากกรณีที่เมื่อคืนวันที่ 19 มิ.ย. ที่ผ่านมา รายการข่าว 3 มิติ ซึ่งออกอากาศทางสถานีโทรทัศน์ไทยทีวีสีช่อง 3 ในเวลาประมาณ 22.30 น. ได้นำเสนอเหตุการณ์กรณีที่ พ.ต.พญ. หทัยพร อิ่มวิทยา หรือ หมอมุก แพทย์ประจำ รพ.พระมงกุฎ ถูกรถยนต์คันหนึ่งขับพุ่งชนบริเวณ ถ.เศรษฐศิริ หน้าคลินิกเสาวรส ซึ่งเป็นหน้าบ้านและเป็นคลินิกของหมอมุกเอง เมื่อ 21.00 น. ของคืนวันที่ 11 มิถุนายน ที่ผ่านมา ทำให้หมอมุกได้รับบาดเจ็บสาหัส และมีเลือดคั่งในสมองและยังไม่รู้สึกตัวจนกระทั่งปัจจุบัน โดยทางมารดาของหมอมุก ซึ่งเป็นอดีตอาจารย์ในโรงพยาบาลศิริราช และบรรดาเพื่อน ๆ ของหมอมุก ได้เข้าร้องเรียนต่อรายการข่าว 3 มิติ เพื่ออยากให้เป็นสื่อกลางในการร้องความเป็นธรรมให้กับหมอมุกในครั้งนี้


ล่าสุดอาการของหมอมุก ยังไม่ดีขึ้น และเตรียมผ่าตัดสมองเป็นครั้งที่สอง ส่วนเรื่องคดีความยังไม่คืบหน้า และไม่มีการติดต่อจากรถคันดังกล่าว ซึ่งจากกาารให้ข้อมูล แจ้งว่า รถยนต์คู่กรณีที่ขับรถเข้าพุ่งชน พ.ต.พญ. หทัยพร เป็นรถของทหารสังกัดกองทัพบก


จากการสอบสวนพยานผู้เห็นเหตุการณ์ระบุว่า เวลาประมาณ 21.00 น. ของวันที่ 11 มิถุนายน หมอมุก และคุณแม่ขับรถกลับมาถึงบ้าน ซึ่งเป็นที่ทำการของคลินิกเสาวรสของตนเอง และพบว่า มีรถยนต์จอดขวางอยู่ ซึ่งคาดว่าน่าจะเป็นรถที่ขับมารับประทานอาหารที่ร้านอาหารสามเสนวิลล่าในละแวกนั้น หมอมุกและแม่จึงได้จดเลขทะเบียนและให้ทางร้านช่วยประกาศเพื่อให้เจ้าของรถไปเลื่อนรถให้อย่างที่ทำทุกครั้ง จากนั้นก็มีผู้ชายคนหนึ่ง ซึ่งคนแถวนั้นทราบดีว่าเป็นทหาร เดินออกจากร้านเพื่อมาเลื่อนรถ แต่ปรากฎว่า รถของหมอมุกจอดซ้อนอยู่จึงทำให้รถดังกล่าวต้องเข็นรถคันหน้าเพื่อขับรถออกด้วยความโมโห ซึ่งตอนนั้นหมอมุกกำลังไปเข้าห้องน้ำจ้าของรถจึงลงมาเขียนข้อความต่อว่าด้วยถ้อยคำหยาบคายบนกระจก


เมื่อเข็นรถคันหน้าเพื่อให้รถของตัวเองขับออกไปได้แล้ว ทหารคนดังกล่าวก็ได้ขับรถออกไปอย่างรวดเร็ว และจอดรอหมอมุกที่ฝั่งตรงข้าม เมื่อหมอมุกเดินออกมา ก็วกกลับรถด้วยความเร็วสูง และขับพุ่งชนหมอมุกเข้าอย่างจัง จนตัวหมอมุกกระเด็นไปไกลว่า 30 เมตร ศีรษะกระแทกพื้น โดยมีที่ปัดน้ำฝน 2 ข้างของรถคันดังกล่าว หลุดติดไปที่ข้างตัว และรถคันดังกล่าวก็จะถอยรถทับอีกแต่คนแถวนั้นมาช่วยไว้ เจ้าของรถจึงขับหลบหนีไป แต่มีพลเมืองดีจดเลขทะเบียนใส่มือแม่พร้อมเป็นพยาน


สำหรับคดีดังกล่าว ทางญาติของหมอมุกได้เข้าแจ้งความดำเนินคดีไว้ที่ สน.พญาไท แต่นับจากวันเกิดเหตุจนถึงปัจจุบัน คดีความยังไม่คืบหน้า ทางญาติของหมอมุกจึงได้ค้นหาประวัติของรถดังกล่าวด้วยตัวเอง พบว่า รถคันนั้นเป็นของ กรมยุทธบริการ กองบัญชาการทหารสูงสุด ซึ่งมีพลเอกนอกราชการเป็นเจ้าของรถ และได้ให้ลูกชายซึ่งเป็นทหารยศพันโท สังกัดกองทัพบก ไว้ใช้เป็นการส่วนตัว แต่ยังไม่มีการเรียกรถคันดังกล่าวมาดำเนินคดี ทั้ง ๆ ที่รู้หมายเลขทะเบียน และรู้ชื่อของคนขับแล้ว ทางญาติจึงเกรงว่า คู่กรณีอาจจะย้อมสีรถ ทำลายหลักฐาน หรือเปลี่ยนชื่อผู้ครอบครองรถให้คนอื่นมารับผิดแทน ทั้งนี้บรรดาเพื่อนของหมอมุก จึงอยากร้องเรียนไปยังกองทัพบก เข้ามาตรวจสอบคดีนี้ ร่วมกับตำรวจเพื่อนำผู้ต้องหามาดำเนินคดี

สำหรับประวัติของ พต.พญ.หทัยพร อิ่มวิทยา หรือ หมอมุก เป็นทหารสังกัดกองทัพบก บิดาของหมอมุกเป็นทหารยศพันโทที่เสียชีวิตในสมรภูมิรบ เมื่อ 30 ปีที่แล้ว ส่วนมารดาของ หมอมุก เป็นอาจารย์แพทย์ที่โรงพยาบาลศิริราช หมอมุกจึงตัดสินใจประกอบอาชีพเป็น แพทย์สังกัดทหารเพื่อดำเนินตามรอยตามบิดาและมารดา ทั้งนี้ หมอมุกได้ประจำการที่ โรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า และเป็นแพทย์ในโครงการของสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิตติ์พระบรมราชินีนาถ โดยสังกัดอยู่ที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้

หมอมุก เป็นแพทย์ปัจจุบัน ที่เชี่ยวชาญในด้านการฝั่งเข็มเป็นอย่างมาก และก่อนที่หมอมุกจะถูกรถชนได้ทำเรื่องขอไปสังกัดที่ 3 ชายแดนภาคใต้อีกครั้ง

ไม่มีความคิดเห็น: