วันเสาร์ที่ 11 มิถุนายน พ.ศ. 2554

คลิป ปชป.ปราศัยลั่น "อยากจะรังแกผมก็รังแกไป"



ม.นอทร์กรุงเทพ.-10 มิ.ย. --เมื่อเวลา 18.15 น. นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ เดินทางมายังศูนย์กีฬาในร่ม มหาวิทยาลัยนอร์ทกรุงเทพ วิทยาเขตสะพานใหม่ เพื่อปราศัยและแนะนำตัว 5 ผู้สมัครส.ส. กทม. โซนเหนือของกทม.ได้แก่ นายแทนคุณ จิตต์อิสระ ผู้สมัครเขตดอนเมือง นายวิทเยนทร์ มุตตามระ ผู้สมัครเขตบางเขน นายก้องศักดิ์ ยอดมณี ผู้สมัครเขตสายไหม นายสกลธี ภัททิยกุล ผู้สมัครเขตหลักสี่ รวมทั้งยังมีผู้สมัครส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อพรรคประชาธิปัตย์ร่วมเดินทางมาด้วย อาทิ นายกรณ์ จาติกวณิช นายกษิต ภิรมย์ นายชวนนท์ อินทรโกมาลย์สุต นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ นายอภิรักษ์ โกษะโยธิน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าการปราศรัยในวันนี้เป็นการถือฤกษ์วันที่ 10 มิ.ย. ซึ่งเป็นวันที่ตรงกับเบอร์ของพรรคประชาธิปัตย์ และเป็นเวทีใหญ่ครั้งแรกในกทม. และเป็นการเลือกปราศรัยในร่มโดยมีการอ้างว่าเนื่องจากกลัวฝนตก อย่างไรก็ตามในวันนี้มีประชาชนมานั่งฟังประมาณ 1,500 คน

นายอภิสิทธิ์ ปราศรัยตอนหนึ่งว่า ตลอดเวลาในการทำงานตนต้องเผชิญกับกลุ่มคนที่พยายามสร้างกระแสและข่าว แต่ตนไม่เคยย่อท้อเพราะมีพี่น้องจำนวนมากที่บอกกับตนว่า ตนต้องเดินหน้าต่อไปเพราะสิ่งที่ตนคิดและทำไม่เคยมีเรื่องใดนอกเหนือจากประโยชน์ของประชาชน สิ่งที่ตนเคยพูดเอาไว้เมื่อ 3 ปีก่อน ได้ทำแล้วทั้งหมด ทั้งเรียนฟรี 15 ปี เบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ ประกันรายได้เกษตรกร ขณะที่พรรคเพื่อไทยมีแนวคิดต่างกับพรรคประชาธิปัตย์ชัดเจน เขาบอกว่าถ้าได้เป็นรัฐบาลจะยกเลิกโครงการประกันรายได้ ขณะที่จะแจกแล็ปท็อปนักเรียนแต่จะยกเลิกนโยบายอื่นๆ ดังนั้นความแตกต่างระหว่าง 2 พรรคชัดเจน เลือกเบอร์ 10 เดินหน้านโยบายที่ว่า เลือกเบอร์ 1 หลายโครงการถูกรื้อ และไปเดินหน้าที่ไม่เป็นจริง วันนี้การตัดสินใจเลือกเบอร์ 1 หรือเบอร์ 10 กำลังเป็นการตัดสินใจว่าเราจะให้ความสำคัญกับใคร พรรคประชาธิปัตย์ชัดเจนรู้ว่าปัญหาพี่น้องคือปากท้องและยาเสพติด ส่วนพรรคเพื่อไทยบอกว่าสิ่งแรกที่จะทำคือนิรโทษกรรมโดยอ้างว่าจะทำให้เป็นการสร้างความปรองดอง ที่จะให้เขาล้างความผิด ชัดเจนว่าแค่เอาประเด็นนี้ขึ้นมาบ้านเมืองก็จะวุ่นวาย

“ ความแตกต่างคือพรรคประชาธิปัตย์จะเดินหน้าทำงานเพื่อบ้านเมือง ไม่ใช่แก้ปัญหาให้กับนักการเมืองอย่างเดียว ผมยุบสภาเพราะต้องการคืนอำนาจให้กับประชาชน เพื่อให้ใช้อำนาจนั้นเพื่อประชาชนทั่วประเทศ พรรคประชาธิปัตย์ยืนยันว่าเลือกพวกเรา อำนาจอยู่กับประชาชนเต็ม 4 ปี ผมทำงานมา 2 ปีกว่า หลายเรื่องพี่น้องก็ไม่พอใจ ผมยอมรับคำติติงและจะมุ่งหน้าแก้ไข แต่ไม่ว่าพี่น้องจะพอใจหรือไม่ ยืนยันได้ว่า 2 ปีกว่าที่ผ่านมา ผมไม่เคยโกง ทุ่มเททำงานเต็มที่ ทำงานด้วยความอดทน ” นายอภิสิทธิ์ กล่าว
นายอภิสิทธิ์ กล่าวอีกตอนหนึ่งว่า ตนยอมรับที่จะพูดคุยกับคนที่มีความคิดเห็นแตกต่าง เมื่อกลางวันตนไปหาเสียงที่จตุจักรยังมีคนถามว่ามีคนยกป้ายด่า ตามก่อกวนการหาเสียง ทำไมยังทนอยู่ได้ ตนตอบว่าคนที่จะเป็นผู้นำรัฐบาลต้องมีความอดทน คนที่จะเดินหน้าปรองดองได้จริง ต้องยอมรับความเห็นต่าง

“ไม่เป็นไรครับ ถ้าอยากจะรังแกผมก็รังแกไป เพราะวันที่ 3 ก.ค. คนส่วนใหญ่ของประเทศจะลงโทษคนที่รังแกคนที่ตั้งใจทำงาน ใช่ไหมครับ เพราะประเทศนี้ไม่ได้เป็นของคนกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง หรือสีใดสีหนึ่ง เป็นของคนไทยทุกคนทุกสี ผมไม่เชื่อว่าพี่น้องส่วนใหญ่จะยอมให้สีใดสีหนึ่ง ใช้เสียงดัง ใช้การข่มขู่คุกคามมายึดบ้านเมืองไป เราไม่ยอม เพราะต้องทำให้ประเทศนี้เป็นของคนไทยทุกคน พี่น้องอดทนเถอะครับ เหลืออีก 20 กว่าวัน อดทนเหมือนกับที่ผมจะอดทน ใครกลั่นแกล้ง รังแก สร้างกระแสอย่างไร ผมมั่นใจว่าพี่น้องคนไทย คือคนที่รักความถูกต้อง ต้องการเห็นบ้านเมืองปกครองด้วยกฎหมาย ต้องการเห็นนักการเมืองยึดประโยชน์ของประชาชน ไม่ใช่ประโยชน์ของพวกพ้องหรือครอบครัวตัวเอง ขอให้กาเบอร์ 10 ทั้งสองใบ ” หัวหน้าปชป.กล่าว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าระหว่างที่นายอภิสิทธิ์กำลังกล่าวปราศรัยอยู่นั้น ปรากฏว่าด้านล่างของเวที ประชาชนที่เข้ารับฟังการปราศรัยกลับทยอยเดินออกอยู่ตลอดเวลา กระทั่งเหลือบางตาเมื่อนายอภิสิทธิ์ปราศรัยจบ อย่างไรก็ตามภายหลังการปราศัยเสร็จสิ้นได้มีการเปิดเพลงสรรเสริญพระบารมี ซึ่งทุกคนได้ร่วมกันยืนตรงเคารพ และสิ้นสุดเพลงก็เป็นอันจบการปราศัยใหญ่ในกทม.โซนเหนือของพรรคประชาธิปัตย์


ไม่มีความคิดเห็น: