วันพฤหัสบดีที่ 23 มิถุนายน พ.ศ. 2554

คำต่อคำการปราศรัยของ "สุเทพ เทือกสุบรรณ"


คำต่อคำการปราศรัยของ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ

ณ เวทีราชประสงค์ 23 มิถุนายน 54

กราบสวัสดีพ่อแม่พี่น้อง ผู้รักชาติ รักประชาธิปไตยที่เคารพรักทุกท่านครับ วันนี้พรรคประชาธิปัตย์ ได้ตัดสินใจที่จะมาพูดจากปราศรัยกับพี่น้องที่ราชประสงค์แห่งนี้ เพื่อที่จะได้กราบเรียนความจริงเพื่อเป็นการประกอบการตัดสินใจของพี่น้องใน วันที่จะเลือกตั้ง คือวันที่ 3 กรกฎาคม เรื่องที่ผมจะพูดจาต่อไปนี้นั้น ผมขอให้คำมั่นสัญญากับพี่น้องทั้งหลายว่าผมจะพูดเฉพาะที่เป็นเรื่องจริง และเป็นเรื่องที่ควรพูดเท่านั้น ผมไม่มีเจตนาที่จะพูดจาเพื่อให้เกิดความเข้าใจที่ไม่ดีต่อกัน เกิดความเกลียดชังกัน เกิดความไม่พอใจกัน

เจตนารมย์ของผมในวันนี้ ผมมุ่งหวังที่จะให้พี่น้องประชาชน ได้ทราบความจริง สาเหตุที่ผมจำเป็นต้องมาพูดกับพี่น้องประชาชนในวันนี้ก็เพราะว่า ในขณะนี้ได้มีขบวนการของบุคคลไปออกทำการใส่ร้ายป้ายสี ท่านนายกฯ อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อย่างเป็นระบบ ทำการโฆษณาชวนเชื่อผ่านสื่อมวลชน ในเครือข่ายของเขา ทั้งที่เป็นวิทยุ ทั้งที่เป็นทีวี ทั้งที่เป็นสิ่งพิมพ์ นอกจากนั้น ยังได้ทำการโฆษณาผ่านเครือข่ายอิเล็กทรอนิกส์ต่าง ๆ จัดคนออกไปแจกใบปลิว จัดคนออกไปพูดจาปลุกระดมในหมู่บ้าน ในตำบลต่าง ๆ ในชนบท

ที่พี่น้องได้เห็นตามข่าวสื่อมวลชนทุกวันก็คือว่า เมื่อเวลาที่ท่านนายกฯ อภิสิทธิ์ หรือท่านชวน หลีกภัย หรือแม้กระทั่งตัวกระผมเอง ออกไปหาเสียงให้กับพี่น้องประชาชนในพื้นที่ต่าง ๆ จะมีคนชูป้าย บอกว่า นายกฯ อภิสิทธิ์เป็นฆาตกร นายกอภิสิทธิ์ สั่งฆ่าประชาชน

พี่น้องที่เคารพรักทั้งหลาย ผมจึงถือเป็นภาระหน้าที่ที่จะมากราบเรียนข้อเท็จจริงกับพี่น้องประชาชน เพราะผมถือเป็นความรับผิดชอบของผม ในฐานะที่เป็นรองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง ผมไม่อยากเห็นพี่น้องประชาชนคนไทยเข้าใจผิด ผมไม่อยากเห็นพี่น้องประชาชนได้รับข้อมูลที่ไม่ถูกต้อง ผมไม่อยากให้พี่น้องประชาชนแม้แต่คนเดียวกลุ่มเดียวโกรธ หรือเกลียดท่านอภิสิทธิ์ เพราะข้อมูลอันเป็นเท็จ ที่เขาส่งจงใจใส่ใคล้ป้ายสีท่านนายกฯ

พี่น้องที่เคารพครับ นอกจากทำตามวิธีการที่ผมได้กราบเรียนแล้ว เมื่อวันที่ 18 มิถุนายนนี่เองครับ นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ได้เขียนในเฟสบุคกล่าวหาท่านนายกฯ อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ว่า เป็นคนบงการสังหารหมู่ประชาชน ไม่รับผิดชอบต่อการตายของประชาชน นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ เขียนในเฟสบุควันเดียวกันว่า เมื่อวันที่ 19 พฤษภาคม 2553 ท่านนายกฯ อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เปลี่ยนวันที่ 19 ซึ่งเป็นวันเจรจา ให้กลายเป็นวันสังหารหมู่ แล้วกล่าวหาว่านายกฯ อภิสิทธิ์ เป็นนายกรัฐมนตรีที่ทำให้คนตายมากที่สุด ในประวัติศาสตร์การต่อสู้ทางการเมือง

พี่น้องครับ ผมรู้ว่าพี่น้องผู้ที่ทราบความจริง ติดตามความจริงทั้งหลาย ต้องรู้สึกเหมือนผม ไม่ยุติธรรมเลยสำหรับท่านนายกฯ อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ผมจึงขออนุญาตกราบเรียนกับพี่น้องประชาชน ที่มาชุมนุมกันอยู่ที่บริเวณใกล้กับสถานที่ที่เขากล่าวอ้าง คือราชประสงค์แห่งนี้ว่า

เมื่อวันที่ 19 พฤษภาคม 2553 ไม่มีคนตายเลยแม้แต่คนเดียวที่ราชประสงค์

ไม่มีการสังหารหมู่ที่สี่แยกราชประสงค์

ไม่มีการปราบปราบ ...ที่สี่แยกราชประสงค์ในวันนั้น

พี่น้องที่เคารพครับ ผมยืนยัน ยืนยันกับพี่น้องทั้งหลาย และผมขออนุญาตนำพี่น้องไปพบกับหลักฐานกับความเป็นจริง ผมเรียนกับพี่น้องที่เคารพครับ ในเหตุการณ์ที่มีการชุมนุมของคนเสื้อแดง ติดต่อกันเป็นเวลา 68 วัน ตั้งแต่วันที่ 12 มีนาคม จนถึงวันที่ 19 พฤษภาคม มีคนตายจริง ๆ

คนที่ตายนั้น ตายในหลายเหตุการณ์ด้วยกัน เหตุการณ์แรกที่มีคนตาย คือเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นบนถนนราชดำเนิน เมื่อวันที่ 10 เมษายน 2553 วันที่ 10 เมษายน 2553 มีคนตายวันเดียวที่ถนนราชดำเนินเป็นจำนวนทั้งสิ้น 26 คน เป็นทหาร 5 คน เป็นพลเรือนไทย 20 คน เป็นผู้สื่อข่าวชาวญี่ปุ่น 1 คน 26 ศพที่ตายนี้ ไม่ได้ตายที่ราชประสงค์ ตายที่ราชดำเนิน คนที่ทำให้เขาตายคือ “คนเสื้อดำ”

คลุมหัวเป็นไอ้โม่ง ใส่เสื้อดำ พี่น้องครับ คนเสื้อดำที่พี่น้องจะเห็นในภาพต่อไปนี้ เดินทางมายังสถานที่ชุมนุมปะปนอยู่ในกลุ่มคนเสื้อแดง แล้วปฏิบัติการณ์เข่นฆ่า สังหาร ฆ่าทั้งเจ้าหน้าที่ทหาร ฆ่าทั้งประชาชนผู้บริสุทธิ์ ฆ่าและทำร้ายทั้ง 2 ฝ่าย เพื่อยั่วยุให้แต่ละฝ่ายโกรธแค้นซึ่งกันและกัน แล้วก็ลุกฮือ เข้าห้ำหั่นกันจนกลายเป็นสงครามกลางเมือง ตามแผนที่เขาวางไว้

พี่น้องที่เคารพครับ ชายชุดดำที่ว่านี้ครับ นำเอาอาวุธสงคราม ซึ่งมีทั้งเครื่องยิงระเบิด M79 มีทั้งปืนอาก้า มีทั้งปืน M16 มีทั้งระเบิดขว้าง บางคนเดินมา บางคนนั่งรถมอเตอร์ไซด์มา พี่น้องประชาชนดูภาพนี้สิครับ นั่งรถมอเตอร์ไซด์ ถืออาวุธสงคราม เดินถืออาวุธสงคราม ปะปนเข้ามาในหมู่ผู้ชุมนุม ไม่มีอะไรดีกว่าเอาของจริงมาให้พี่น้องดู บางคนมารถตู้ครับ บางคนมารถนั่ง ซึ่งเป็นรถเก๋ง จัดขนกันมาอย่างดี

พี่น้องครับ ในวันนั้น มีพยานยืนยันว่า รถยนต์ฮอนด้า ซีอาร์วี สีบรอนซ์เทา ได้ขนคนชุดดำ พร้อมด้วยอาวุธสงคราม เข้ามาปฏิบัติการในพื้นที่ราชดำเนินเมื่อวันที่ 10 เมษายน ต่อมาหลังเกิดเหตุครับ เจ้าหน้าที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ ได้ติดตามจับกุมได้ทั้งรถยนต์ ฮอนด้า คันดังกล่าว ซึ่งมีเลขทะเบียนตรงตามที่พยานระบุ แล้วพี่น้องทราบไม๊ครับ ตามไปจับกุมผู้ต้องหาได้ที่บ้าน ได้อาวุธสงคราม มีปืนอาก้า 5 กระบอก กระสุน 247 นัด มีปืน M16 1 กระบอก กระสุน 480 นัด มีปืนคาร์บิน 1 กระบอก กระสุน 115 นัดพร้อมด้วยอาวุธอื่น จับได้ที่ซอยอ่อนนุช 17 สวนหลวง กทม. ได้ผู้ต้องหาพร้อมของกลาง ทั้ง 3 คน กำลังดำเนินคดีอยู่ในศาล ในขณะนี้

จากที่พี่น้องเห็นภาพถ่ายเมื่อสักครู่ ที่ฉายให้เห็นคนชุดดำนั่งซ้อนท้ายมอเตอร์ไซด์ ถือปืน เคลื่อนผ่านไปในหมู่ผู้ชุมนุมเสื้อแดง มุ่งหน้าไปหาแนวทหาร แล้วพี่น้องก็จะเห็นรถตู้สีขาว ซึ่งบรรทุกชายชุดดำ เข้ามาทำการเข่นฆ่าเจ้าหน้าที่และประชาชน ซึ่งมีผู้สื่อข่าวเขาถ่ายเอาไว้ได้ ถ่ายไว้ได้ตั้งแต่ตอนที่เข้ามาแล้วถ่ายได้ตอนที่ขนกลับออกไปเมื่อปฏิบัติ การณ์เสร็จเรียบร้อยโดยกล้อง CCTV ของกทม. ก็จับได้ สอดคล้องกัน

พี่น้องที่เคารพครับ ผมเรียนตรงนี้เพื่อที่จะเรียนกับพี่น้องว่า ในพื้นที่ที่เป็นที่ชุมนุมของคนเสื้อแดงนั้น ทุกด้าน จะมีด่านที่เป็นการ์ดของคนเสื้อแดง ตรวจตรากวดขัน เข้มแข็ง คนนอกเข้าได้เลย เจ้าหน้าที่ยิ่งไม่ต้องพูดถึง ไม่มีสิทธิ์เข้าไปได้เลย เข้าใกล้บริเวณที่เขาชุมนุมก็ไม่ได้ เจ้าหน้าที่ทหารไปพักอยู่ที่สนามม้านางเลิ้ง ไปพักอยู่ที่วัดโสมมนัส ไปพักที่วัดแคนางเลิ้ง ถูกเขาไล่ออกจากพื้นที่ กลับกรม กลับกองไปหมดก่อนหน้านั้นแล้ว แล้วทำไมคนชุดดำจึงผ่านได้ทุกด่าน ทำไมคนชุดดำถึงถืออาวุธสงคราม เดินออกไป ฝ่าเข้าไปในฝูงชน จนไปถึงแนวทหารไม่มีใครทักท้วง ไม่มีใครตกใจ ไม่มีใครขัดขางเลย

พี่น้องที่เคารพครับ มีพยาน ยืนยันในภายหลังแล้วถ้าพี่น้องดูภาพนี้นะครับ เอาไปขยายให้ดี จะเห็นในภาพข้างหลัง ที่สวมโม่ง แต่เสื้อที่วงกลมนั้นครับ บอกว่าเป็นการ์ด นปช.

พี่น้องครับ การปฏิบัติการณ์ของคนชุดดำเหล่านี้ ในวันนั้น ที่ใช้ปืน M79 ยิงใส่กลุ่มนายทหาร เป็นเหตุให้พลเอก ร่มเกล้า ธุวธรรม และผู้ใต้บังคับบัญชารวม 5 คน เสียชีวิตในวันนั้น บาดเจ็บสาหัส อีกจำนวนมาก นายทหารทั้งยศ พันเอก พันโท พันตรี นายร้อย นายสิบ พลทหาร เจ็บกัน 2 – 300 คน ครับวันนี้ยังอยู่โรงพยาบาลครับ ชื่อ ส.อ.ปฏิมา ขุนพิมล มาจากกองพล 9 ยังนอนอยู่ที่รพ.พระมงกุฏ จนวันนี้ ยังไม่รู้สึกตัวเพราะถูกสะเก็ดระเบิดที่ศีรษะ

พี่น้องที่เคารพครับ คนที่เสียชีวิตนี้ มีครอบครัว มีญาติมีพี่น้องเหมือนกับพวกเราทั้งหลาย เขาเสียชีวิตเพราะไปปฏิบัติหน้าที่หวังที่จะให้เกิดความสงบสุข ให้เกิดความสงบเรียบร้อยในบ้านเมือง ผมก็เสียใจกับคนเหล่านี้

พี่น้องที่เคารพครับ ไม่ได้เพียงแต่เสียใจ กับคนที่เป็นเจ้าหน้าที่ทหาร ที่เสียชีวิตหรอกครับ แม้แต่ประชาชนผู้บริสุทธิ์ทั้งหลายที่เสียชีวิตในวันนั้น ผมอยากจะให้พวกเราได้เห็นภาพแล้วจะได้เข้าใจ

พี่น้องครับ นี่เป็นตอนที่ทหารถูกยิงด้วยเครื่องยิงระเบิด แล้วก็ผู้สื่อข่าวเขาถ่ายเอาไว้ได้แต่ว่ามีบางตอนที่สลดใจกว่านั้นพี่น้อง ครับคือตอนที่มีคนชุดดำเป็นมือปืนซุ่มยิงจากบนตึก แล้วใช้กล้องเลเซอร์ช่วยในการเล็งเป้ายิงใส่พี่น้องประชาชน ยิงทั้งจากบนตึกแล้วยิงจากแนวราบ ที่ผมเศร้าสลดใจและพี่น้องประชาชนชาวไทยต้องเศร้าสลดใจไปด้วยก็คือว่า เขายิงประชาชนที่มาชุมนุมครับ

พี่น้องครับ แน่นอนครับการเสียชีวิตของพี่น้องประชาชนทั้ง 20 คนรวมทั้งผู้สื่อข่าวชาวญี่ปุ่น 1 คนนั้นยังจะต้องสอบสวนกันต่อไป แต่ผมอยากจะให้พี่น้องได้ดูภาพนี้ ภาพของพี่น้องประชาชนคนหนึ่งชื่อนายวสันต์ครับ ถูกยิงเสียชีวิตในวันนั้น ถ้าพี่น้องดูภาพนี้ให้ดีนะครับ ในภาพนี้ครับทหารจะอยู่ทางซ้ายมือของจอภาพ คนเสื้อแดงก็ฮือกันไปจะไปต่อต้านทหาร มีนายวสันต์นี่ครับถือธงเดินสวนย้อนกลับหันหลังให้ทหาร หันหน้ไปทางอื่นซึ่งอยู่ตรงกันข้ามกับทหารแล้วเขาถูกยิงหงายท้องครับ ไม่ได้ยิงมาจากทิศทางของทหาร

พี่น้องครับเจ้าหน้าที่รายงานผมสันนิษฐานว่ายิงมาโดยมือปืนซุ่มยิงคนชุดดำ เพราะผลของการชันสูตรพลิกศพพบว่า วิถีกระสุนที่พุ่งเข้าสู่ศีรษะของนายวสันต์นั้น มาทางด้านหน้า แล้วเป็นกระสุนความเร็วสูง พี่น้องที่เคารพครับประชาชน 20 คนและนักข่าวญี่ปุ่นอีก 1 คนที่เสียชีวิตเมื่อวันที่ 10 เมษายน เสียชีวิตในลักษณะนี้ คนที่อยู่ในที่ชุมนุมยืนยันได้ว่าคนชุดดำเป็นคนยิง พี่น้องดูคลิปตอนนี้ซิครับ(เปิดคลิป)

พี่น้องที่เคารพครับผมเอาให้ดูเฉพาะบางส่วน สั้นๆ แต่ยืนยันกับพี่น้องครับ ในสำนวนสอบสวนของกรมสอบสวนคดีพิเศษมีพยานให้การอย่างนี้ชัดเจนเลยครับ ว่าที่บอกว่าไม่รู้ไม่เห็นนั่น ทั้งรู้ทั้งเห็นและร่วมวางแผนด้วยกันทั้งสิ้น

พี่น้องครับผมไม่ได้มากล่าวหาไม่ได้มาปรักปรำเขา เพราะเขาเหล่านั้นจะต้องไปสู่คดีในศาลยุติธรรมในวันข้างหน้า เพราะคนที่เป็นผู้บงการทั้งหลายได้เป็นผู้ต้องหารศาลรับฟ้องอยู่แล้วในขณะ นี้

พี่น้องที่เคารพครับที่ผมเสียใจมากไปกว่านั้นก็คือว่าศพของพี่น้องประชาชน บางรายที่เสียชีวิตในวันนั้น ถูกไปแย่งชิงมาจากโรงพยาบาลแล้วเอามาแห่ แห่เพื่อให้คนโกรธเคือง แห่เพื่อมาปลุกระดมมวลชนให้โกรธแค้น ให้ลุกฮือขึ้นมาก่อสถานการณ์ให้รุนแรงยิงขึ้น พี่น้องครับ ที่ผมอยากจะเรียนกับพี่น้องก็คือว่าคนชุดดำบางพวกปฎิบัติการณ์เข่นฆ่าทหาร เข่นฆ่าประชาชนเสร็จแล้วขึ้นรถหนีออกไปจากพื้นที่ แต่มีคนชุดดำบางพวกครับถอดหัวไอ้โม่งออกแล้วกลายเป็นการ์ดนปช.นำประชาชนไป ย้อนกลับแย่งชิงปล้นเอาอาวุธของทหาร ทั้งปืนเอ็ม16 ทั้งปืนอาก้า ทั้งปืนลูกซอง แล้วเอามากองแสดงบนเวที หลังจากนั้นขโมยพากันไปหมด แล้วอาวุธเหล่านี้ล่ะครับ ที่เอามาใช้ก่อการร้ายในช่วงระยะเวลาหลังจากวันที่ 10 เมษายนเป็นต้นมา

พี่น้องที่เคารพครับ ผมอยากจะกราบเรียนกับพี่น้องตรงนี้นะครับ ด้วยหัวใจของผม ผมเชื่อว่าพี่น้องประชาชนคนเสื้อแดงที่มาชุมนุมนะครับ เป็นประชาชนบริสุทธิ์ เขาถูกแกนนำชักชวนมา ตอนแรกๆก็มาบอกว่าขอให้ไปช่วยทักษิณหน่อย ทักษิณถูกรังแก แต่พอมาอยู่กับเขานานๆเข้า เขาพูดจายุยงทุกวัน ปลุกระดมทุกวัน พูดติดต่อกันทุกวันทุกอาทิตย์ทุกเดือน เป็นปี สองสามปี ทัศนะคติความคิดของพี่น้องเหล่านั้นก็เปลี่ยนไป ยิ่งพอมีเหตุการณ์ที่คนตายก็แน่นอนครับย่อมกระทบกระเทือนจิตใจของคนที่เป็น ญาติ คนในครอบครัว พอแกนนำไปโฆษณาชวนเชื่อ ยุยงว่าคนที่ตายนั้น เพราะท่านนายกฯอภิสิทธิ์เป็นคนสั่งฆ่า นายกฯอภิสิทธิ์เป็นผู้สั่งทหารฆ่าประชาชน พี่น้องประชาชนชุดแดงเหล่านั้นก็โกรธเคือง ก็ออกอาละวาด ผมเรียนกับพี่น้องประชาชนเลยครับ ว่าตลอดเวลาที่เกิดวิกฤตการณ์รุนแรงจลาจลวุ่นวาย ฆ่ากันตายเผาบ้านเผาเมือง 68 วันนั้นพวกผมทุกคนที่ทำงานอยู่ในฝ่ายรัฐบาลเสียใจทุกวัน เสียใจอย่างที่สุดที่เห็นคนตาย เราพยายามหลีกเลี่ยงด้วยมาตรการต่างๆ ผ่อนหนักผ่อนเบา อดทนอดกลั้น เพื่อไม่ให้มีคนเจ็บ เพื่อไม่ให้มีคนตาย

พี่น้องครับ คนอย่างผมนี่ครับเป็นกำนันมาแล้วครับ อยู่ในพื้นที่ที่เขาเคยสู้รบเป็นคอมมิวนิสต์เมื่อปี 2522 ครับ วันที่ผมไปประชุมสภาผู้แทนราษฎรเมื่อ 7 เมษายน 2553 คุณอริสมันต์เอาคนเสื้อแดงไปปิดล้อมรัฐสภา บุกขึ้นไปในที่ประชุมจะจับตัวผม ผมยังยอมหนีเลยครับ ปีนบันไดสภาหนี ขึ้นเฮลิคอปเตอร์หนี ผมเป็นส.ส.คนเดียวครับที่นั่งรถยนต์ไปประชุมแล้วนั่งเฮลิคอปเตอร์กลับในวัน นั้น เราก็กล้ำกลืนครับพี่น้องครับ ไม่ต้องการให้เกิดเหตุนองเลือด พอมีเหตุพี่น้องประชาชนตายตั้ง 90 กว่าคนเสียใจกันทุกคน

พี่น้องครับเราก็เป็นปุถุชนคนธรรมดาเหมือนกับคนอื่น พี่น้องประชาชนคนไทยทั้งหลายดูทีวีวันนั้นต้องเสียใจกันทุกคน พวกผมที่เป็นผู้รับผิดชอบเหตุการณ์ยิ่งเสียใจมากกว่า ผมไม่กล้ามองหน้านายกรัฐมนตรีนะครับ เข้าใจเลย ผมเรียนกับพี่น้องได้ครับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในวันที่ 10 เมษายน ถ้าผมถามนายกรัฐมนตรีแม้แต่คำเดียวผมต้องได้คำตอบ ไม่กล้าถาม ผมรู้ว่าในหัวใจนายกรัฐมนตรีคิดอะไร ผมกลัวนายกรัฐมนตรีลาออก ผมกลัวนายกรัฐมนตรีตัดสินใจยุบสภา เพราะผมเห็นหน้านายกรัฐมนตรี ผมเห็นความปวดร้าวในสายตาของนายกรัฐมนตรี

พี่น้องครับถ้านายกรัฐมนตรียุบสภาวันนั้น ถ้านายกรัฐมนตรีลาออกวันนั้นบ้านเมืองไทยจะยุ่งเหยิงยับเยินขนาดไหน ผมถึงเห็นธาตุแท้ของท่านนายกรัฐมนตรี ผมถึงเห็นภาวะความเป็นผู้นำของนายกรัฐมนตรีอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ กล้ำกลืน อดทน ให้คนประณามว่าเป็นนายกฯมือเปื้อนเลือด อดกลั้น อดทน ประคับประคองแก้ไขสถานการณ์ เพื่อให้บ้านเมืองอยู่รอด พี่น้องหลับตานึกดูซิครับ แม้ว่าท่านนายกรัฐมนตรียุบสภาหรือลาออก คนหัวรุนแรงอย่างนายจตุพร นายณัฐวุฒิมันจะยอมเลิกหรือไม่ แล้วบ้านเมืองไม่ยับเยินกันหรืออย่างไร

พี่น้องครับผมเชื่อโดยไม่ได้ถามนายกรัฐมนตรีว่าที่ท่านต้องกล้ำกลืนความเจ็บ ปวดความร้าวราน คนเป็นนายกรัฐมนตรีเพื่อพาชาติให้รอดวิกฤตนั้น เพราะท่านวิเคราะห์ออกว่า แม้ท่านจะยอมกับพวกมาเรียกร้องชุมนุม แล้วยอมคำเรียกร้องของแกนนำ แต่ตราบใดที่แกนนำพวกนั้นยังไม่ได้สิ่งที่เขาต้องการเขาไม่มีวันเลิก สิ่งที่เขาต้องการก็คือว่า นายของเขาคือคุณทักษิณจะต้องไม่ติดคุก สิ่งที่เขาต้องการคือว่านายของเขาจะต้องได้เงิน 46,000 ล้านบาทคืนกลับทุกบาททุกสตางค์ สิ่งที่เขาต้องการก็คือว่าพวกเขาต้องกลับมามีอำนาจรัฐเหมือนเดิม

พี่น้องที่เคารพครับท่านนายกฯอภิสิทธิ์ได้เพียรพยายามหาทางออก พาประเทศฝ่าวิกฤต ไม่เคยมีนายกรัฐมนตรีคนไหนในประเทศที่ลงทุนไปนั่งเจรจากับแกนนำของพวกหัว รุนแรง ท่านนายกรัฐมนตรีนำท่านกอร์ปศักดิ์ สภาวสุ นำท่านชำนิ ศักดิเศรษฐ์ ไปนั่งเจรจากับจตุพร กับวีระ กับหมอเหวง ไม่ได้ไปเจรจากันลับๆ เจรจาต่อหน้าสื่อมวลชน ต่อหน้าประชาชน ถ่ายทอดโทรทัศน์ 2 วันเต็มๆ แล้วพี่น้องก็เห็นว่าคนเหล่านั้นได้ปฎิเสธข้อเสนอของท่านนายกรัฐมนตรีอย่าง ไม่มีเยื่อใย คนที่ลุกขึ้นเป็นคนปฎิเสธก็คือคุณจตุพรนี่ล่ะครับ บอกว่าไม่เจรจาต่อไป

พี่น้องที่เคารพครับผมเห็นความอดทนของท่านนายกฯอภิสิทธิ์ ผมเห็นความเพียรพยายามของท่านนายกฯอภิสิทธิ์ เขาไม่เจรจาด้วยก็พยายามคิดอ่านหาทางให้เหตุการณ์ร้ายนี่ยุติให้ได้ วันที่ 3 พฤษภาคม 2553 พี่น้องต้องจำได้ ท่านนายกฯอภิสิทธิ์เป็นคนนำเสนอแผนปรองดอง พวกผมตกตะลึงเลยครับ ท่านคิดทั้งคืนท่านไม่ได้หลับได้นอน แล้วก็ลุกขึ้น บอกว่าเราเสนอแผนปรองดองให้เขา ในแผนปรองดองที่เสนอวันนั้นยอมทุกอย่างครับ เพื่อให้บ้านเมืองคืนกลับสู่ความสงบ ยอมแม้แต่จะต้องยุบสภาเพื่อให้มีการเลือกตั้งใหม่ ตามที่ฝ่ายเขาเรียกร้อง

พี่น้องที่เคารพครับ นายกฯเพียงแต่ขอเวลา 6 เดือนให้ทุกคนทุกฝ่ายในประเทศนี้สงบสติอารมณ์แล้วไปจัดเตรียมกฎเกณฑ์กติกา เพื่อรองรับการเลือกตั้ง เพื่อให้การเลือกตั้งเป็นไปด้วยความสงบด้วยความเรียบร้อยไม่มีอารมณ์ต่อกัน คนพวกนั้นตอนแรกทำท่าจะยอมรับแผนปรองดองของท่านนายกฯ ตั้งข้อแม้บอกว่าเขาจะรับแผนปรองดองของท่านนายกฯอภิสิทธิ์ก็ได้ แต่ว่าสุเทพต้องถูกดำเนินคดี

พี่น้องครับในภาพนี้คือภาพนี้คือภาพที่ผมเดินไปมอบตัวกับกรมสอบสวนคดีพิเศษ ผมไปทันที ผมไม่ต้องการให้ตัวเองเป็นเงื่อนไข ขวางแผนปรองดองของท่านนายกฯ ผมไปมอบตัวที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ ยอมรับข้อกล่าวหา รับทราบข้อกล่าวหา ยอมตัวเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม ในขณะนี้กระบวนการยุติธรรมที่จะสอบสวนผมตามข้อกล่าวหาของแกนนำเสื้อแดงยังคง ดำเนินอยู่ครับ แต่พี่น้องครับ แม้ผมจะไปมอบตัวแล้วตามที่เขาเรียกร้องเขาก็เปลี่ยนใจไม่รับแผนปรองดอง ไม่ยอมรับแนวทางประนีประนอมที่ท่านนายกฯอภิสิทธิ์หยิบยื่นให้ทุกอย่าง เท่านั้นไม่พอครับเขายกระดับการปฎิบัติการ เท่านั้นไม่พอครับเขายกระดับการปฎิบัติการให้มีความรุนแรงยิ่งขึ้น พี่น้องจะเห็นจะจำได้ว่าในเวลาต่อมามีคนเอาปืนเอ็ม 79 ไปยิงใส่สถานที่ราชการต่างๆไม่ว่าจะเป็นกระทรวงกลาโหม กระทรวงสาธารณสุข ทำเนียบรัฐบาล ธนาคาร สถานีรถไฟฟ้า โรงแรมดุสิตธานี ธนาคารกรุงเทพ ทั่วไปหมดเลยครับ คนกรุงเทพตกใจพี่น้องทั้งหลายเป็นพยานได้ว่าเสียงระเบิดที่ดังขึ้นมาทุกคืนๆ พี่น้องขวัญผวา เท่านั้นไม่พอครับเวลากลางวันเขายกพวกเขาไปบุกข่มขู่กกต.ยกไปข่มขู่ศาลรัฐ ธรรมนูญ ยกไปข่มขู่ปปช.เขาตั้งด่านเถื่อนตรวจค้นพี่น้องประชาชนที่สัญจรไปมา ข่มขู่ประชาชน เขาคุกคามเสรีภาพของพี่น้องประชาชน

พี่น้องครับ ที่สลดที่สุดสำหรับคนไทยทั้งประเทศ คือเขาบุกโรงพยาบาลจุฬา

นึกไม่ออกจริง ๆ ว่าเขาคิดได้อย่างไร เขาบุกรพ.จุฬา คุณหมอ พยาบาล ต้องอพยพคนไข้ไปโรงพยาบาลอื่น แม้แต่สมเด็จพระสังฆราช เราต้องอาราธนานิมนต์พระองค์ท่านไปโรงพยาบาลศิริราช เท่านั้นไม่พอพี่น้องครับ เขาบอกว่าเขายึด สี่แยกราชประสงค์ไปแล้ว 4 สายนี้ที่มีราชประสงค์ทั้ง 4 เส้นนี้อัมพาตหมดแล้ว เขาไม่หนำใจ เขาบอกว่าเขาจะไปยึดสีลม

พี่น้องต้องจำได้ คนที่สีลมก็ตกใจสิครับ เพราะว่า ราชประสงค์นี่เจ๊งไปหมดแล้ว เน่าไปหมดแล้ว ไม่ต้องค้าขายกันแล้ว ร้างไปหมด โรงแรมเหล่านี้ ร้านค้าเหล่านี้ จะไปย่านสีลม คนสีลมเขาก็รวมตัวกันมาต่อต้าน แล้วเกิดอะไรขึ้นครับ

คืนวันที่ 22 เมษายน เขายิง M79 จากบริเวณเต็นท์ของพวกเขาที่สวนลุมฯ ยิงเข้าไปใส่กลุ่มผู้ชุมนุมที่สีลม คืนเดียวยิง 5 หน มีคนเจ็บ 80 คน มีคนตายคนนึงครับ คนที่ตายวันนั้น ยังเป็นนางสาวอยู่เลยครับชื่อคุณ ธยนันท์ แถบทอง เป็นแม่ค้าขายเข้าแกงที่ซ.ศรีเวียง ผมจำไม่มีลืมเลยครับ

เขาไม่ได้ยุ่งเกี่ยวกับการต่อสู้ทางการเมืองเลย แล้วจริง ๆ ก็ไม่ได้อยู่ในฝ่ายกลุ่มคนสีลมครับ บังเอิญเดินผ่านมา เขายิงใส่สถานีรถไฟ BTS ก็เลยต้องรับเคราะห์เสียชีวิต

พี่น้องที่เคารพครับ เหตุการณ์อย่างนี้เป็นเหตุการณ์ในช่วงที่ 2 ต่อจากวันที่ 10 เม.ย. ที่ทำให้มีการเสียชีวิต เจ้าหน้าที่ตำรวจ มาปฏิบัติการรักษาความสงบเรียบร้อย อยู่แถวถนนพระราม 4 อยู่แถวหน้าตึกอื้อจื่อเหลียง โดน M79 เสียชีวิตไป 1 คน โดนปืน M16 เสียชีวิตไปอีก 1 คน ในคืนวันที่ 7 ต่อกับวันที่ 8 พ.ค. ประชาชนเดินอยู่บนฟุตบาท ธรรมดาครับ ยิงออกมาจากสวนลุมฯ ซึ่งเป็นที่ที่พวกเขายึดครองอยู่ เสียชีวิตทันทีไปอีก 1 คน

มาจนถึงวันที่ 13 พ.ค. ตอนหัวค่ำ เสธ.แดง ถูกยิงที่บริเวณใกล้รพ.จุฬา ฯ เรื่องเสธ.แดงถูกยิง เป็นอีกเรื่องหนึ่งที่ยังจะต้องเป็นเรื่องสงสัย วันก่อนนายจตุพร กล่าวหาว่าฝ่ายผมยิง ผมก็บอกว่า ผมสงสัยว่าฝ่ายคุณจตุพรนั่นแหละยิง

ที่ผมสงสัยก็คือว่า ผมเป็นผู้รักษากฎหมาย ผมต้องการให้บ้านเมืองสงบ ผมไม่มีเหตุผลที่ไปยิงเสธ.แดง แต่ผมเห็นเสธ.แดงออกมาให้สัมภาษณ์ก่อนหน้าถูกยิงไม่กี่วัน บอกว่าเมื่อคืนก่อน เกือบจะยิงกันแล้วที่หน้าเวที ระหว่างพวกจตุพร พวกอริสมันต์ กับพวกเขา แล้วเสธ.แดงเป็นคนบอกครับว่า เขาได้ต่อสายตรงพูดกับทักษิณ ชินวัตร ทักษิณ สั่งเขามาเลย ว่าถ้าพวกบนเวทีนี่ไม่สู้ ให้มันกลับบ้านไป เอาพวกหัวรุนแรงขึ้นไปเป็นกรรมการนำการต่อสู้ใหม่

ที่สำคัญพี่น้องครับ ตอนที่เสธ.แดงยิง ยิงขณะที่กำลังให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวต่างประเทศ คนที่วางแผนยิงต้องการให้ข่าวการยิงเสธ.แดง แพร่กระจายไปทั่วโลก เสียหายกับรัฐบาลของท่านนายกฯ อภิสิทธิ์ เสียหายกับประเทศไทย นี่เป็นเหตุผลที่ผมตั้งข้อสงสัย ผมยังไม่มีหลักฐานที่จะไปปรักปรำใคร แต่เมื่อเขากล่าวหาว่าทางฝ่ายผมเป็นคนยิง ผมก็ต้องความจริงกับพี่น้องว่า ผมก็มีความรู้สึกสงสัย เพียงแต่ว่าสวนทางกับพวกเขาเท่านั้นเอง

พี่น้องที่เคารพครับ เมื่อสถานการณ์มันเลวร้ายลงอย่างนั้น ผมในฐานะที่เป็นผู้อำนวยการ ศอฉ. ศูนย์อำนวยการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน จึงต้องสั่งการให้เจ้าหน้าที่ ผสมกัน ทั้งตำรวจ ทั้งทหาร ออกมาตั้งด่าน เพื่อที่ระงับ ยับยั้ง ไม่ให้เกิดเหตุร้ายต่อไป แล้วการที่จะมาตั้งด่านคราวนั้น ก็ระมัดระวังมากครับ พี่น้องครับ ไม่ให้เฉียดเข้ามาในบริเวณที่เขาชุมนุมอยู่ที่ราชประสงค์เลย

ด้านโน้นครับอยู่ที่ซ.ราชปรารภ พี่น้องนับดูซิครับ วัดดูจากราชประสงค์ ไปถึงราชปรารภเท่าไหร่ ด้านข้างหลังนี่ครับ ที่ถ.พระราม 4 ตรงบ่อนไก่ ตรงสวนลุม ด้านทิศนี้อยู่ที่ปทุมวันครับ เลยปทุมวันไปอีกครับ หน้าสนามกีฬา เพราะปทุมวันมีด่านของคนเสื้อแดงอยู่ ทางด้านนี้อยู่ที่เพลินจิตโน่นครับ ไม่ได้มายวนยั่ว ไม่ได้เข้ามาเฉียดกลายเขาเลยครับ แต่ว่าด่านนี้ตั้งเพื่อจุดประสงค์ 2 ประการ

1. ไม่ยอมให้ผู้ก่อการร้ายคนชุดดำที่แฝงตัวอยู่ในผู้ชุมนุม ออกไปเข่นฆ่าประชาชนข้างนอกอีกแล้วในเวลากลางคืน ตรวจค้นอาวุธทุกอย่าง เข้มงวด

2. สกัดกั้นไม่ให้เขาไปขนคนมาชุมนุมเพิ่มเพราะเราต้องการลดจำนวนผู้ชุมนุม ต้องการให้การชุมนุมนี้ค่อย ๆ เลิกกันไป

ด่านที่มาตั้งอยู่ทั้ง 4 ด้านนี้ครับพี่น้องครับ เข้ามาตั้งในตอนเช้าของวันที่ 14 พ.ค.2553 ตามแผนผัง Graphic ที่ยกให้พี่น้องอยู่ ไอ้สีแดงตัดกันนั่นเขายึดหมดครับ ถนน 4 สาย ด่านที่ผมให้เขามาตั้งนั้นเป็นจุดสีน้ำเงิน น้ำเงิน

พี่น้องที่เคารพครับ เกิดอะไรขึ้นครับ พอตกกลางคืนวันที่ 14 พ.ค. มีกองกำลังติดอาวุธใส่ชุดดำเข้าไปโจมตีด่านทางด้านพระราม 4 ทั้งที่บ่อนไก่ ทั้งที่สวนลุม แล้วก็เข้าโจมตี ด่านที่ถ.ราชปรารภ ทางประตูน้ำ รบกันทั้งคืนครับ ปะทะกันทั้งคืนมีผู้บาดเจ็บ มีผู้เสียชีวิต ทั้งคืนวันที่ 14 คืนวันที่ 15 คืนวันที่ 16 คืนวันที่ 17 4 คืน ตาย 42 คน

พี่น้องครับ พี่น้องลองนับตัวเลขดู วันที่ 10 เม.ย. ตายไป 26 ตั้งแต่ระหว่าง 11 เม.ย. มาจนถึง วันที่ 13 เม.ย. ตายอีก 7 วันที่ 14 เม.ย. มาถึงวันที่ 18 พ.ค. ตายไปอีก 42

แล้วตรงไหนล่ะครับที่บอกว่า 92 คนมาตายที่ราชประสงค์

มันมีตัวเลขอีกเท่าไหร่ละครับที่จะมาบอกว่า ทหารมาสลายฝูงชนที่นี่ แล้วทำให้คนตายตั้ง 92 คน

พี่น้องที่เคารพครับ โดยข้อเท็จจริง ผมกราบเรียนกับพี่น้องว่า ผมครับเป็นคนตัดสินใจร่วมกับคณะใน ศอฉ. เราขืนปล่อยให้สถานการณ์เป็นไปอย่างนั้น มีแต่ความสูญเสียป้องกันไม่ได้ การที่ฝ่ายเขายึดรพ.จุฬาไปได้นั้น คนเดือดร้อนมากเหลือเกิน การที่เขายึดเอาสวนลุมฯ ไว้เป็นที่ซ่องสุมกำลัง แล้วทำร้ายเจ้าหน้าที่ทำร้ายประชาชน เสียหายมากเหลือเกิน

เช้าวันที่ 19 จึงได้ส่งกำลังกระชับพื้นที่เราเรียกปฏิบัติการณ์คราวนั้นว่า ปฏิบัติการณ์กระชับพื้นที่ เพียงยึดรพ.จุฬาฯ คืน เพียงยึดสวนลุมฯ คืน ไม่ให้เป็นที่ซ่องสุมอีกต่อไปเท่านั้น

กำลังของเจ้าหน้าที่บีบเข้ามาเพียงด้านเดียวครับ พี่น้องครับ จากถ.พระราม 4 แล้วเข้ามาหยุดอยู่ที่ ถ.สารสิน หรือที่เราเรียกว่า ซ.สารสิน เท่านั้นเอง หยุดอยู่ตรงนั้นทั้งวัน เพราะว่าได้พื้นที่สวนลุมฯ คืนแล้ว ได้รพ.จุฬาฯ คืนแล้ว หยุดเท่านั้น

แต่พี่น้องทราบไม๊ครับ ตลอดเวลาที่เจ้าหน้าที่เคลื่อนตัวมาเพื่อยึดพื้นที่ให้ได้ถึงถ.สารสิน เขาใช้อาวุธสงครามทุกชนิด ยิงต่อสู้กับเจ้าหน้าที่ มีเจ้าหน้าที่ของเราบาดเจ็บ มีภาพเห็นชัดครับ เจ้าหน้าที่ของเราบาดเจ็บ ผู้สื่อข่าวก็ช่วยหามเจ้าหน้าที่ คนที่ไปด้วยก็ชุลมุนครับ ช่วยกัน

เจ้าหน้าที่ของเราหลุดออกจากรถที่กำบังได้นิดเดียว ยิงด้วย M79 เสียชีวิต กองอยู่ข้าง ๆ กับผู้สื่อข่าวชาวต่างประเทศ ในเหตุการณ์วันนั้นครับ มีเจ้าหน้าที่ทหารเสียชีวิต 1 คน มีผู้สื่อข่าวชาวอิตาลีเสียชีวิต 1 คน มีคนไทยถูกยิงเสียชีวิตที่หน้า รพ.จุฬาฯ 2 คน ปฏิบัติการณ์วันที่ 19 พ.ค. มีคนเสียชีวิต 4 คน เท่านั้นในการปฏิบัติการณ์

เขาเอาคนที่เสียชีวิตทั้ง 24 ชั่วโมงนั้น บวกใส่เข้าไปให้เราหมด ทหารยังไม่ทันเข้ามาถึงสวนลุมฯ เลยครับ 6 โมงเช้ายังไม่ถึงอนุสาวรีย์พระเจ้าอยู่หัวร.6 เลยครับ เห็นคนนอนตายอยู่แล้ว 2 คน ไม่ใส่เสื้อ หน้าเต้นท์ของพวกเขา เลือดแห้งหมดแล้วครับ ผู้สื่อข่าวก็ถ่ายรูปไว้ ซึ่งผมยืนยันว่า 2 ศพ นั้นไม่ใช่ฝีมือทหารแน่นอน

แล้วทั้งเหตุการณ์ทั้งหมดนี้ครับ ทั้งวันของวันที่ 19 ทหารไม่ได้มาถึง 4 แยกราชประสงค์เลย ตอนที่นายณัฐวุฒิ นายจตุพร ประกาศยอมยุติการชุมนุมนั้น ไม่มีทหารมายืนอยู่หน้าเวที หรือใกล้เวทีแม้แต่คนเดียวครับ

พี่น้องที่เคารพครับ มีคนตายในวันนั้น ตายตอนกลางคืน ตายตรงนี้ครับ ตายในห้างเซนทรัลนี่ครับ 1 คน คนที่เซน ทรัลก็ไม่รู้จัก ไม่ใช่พนักงานของห้าง ตายตอนที่ไฟไหม้ สำลักควันไฟตาย ไม่รู้วิ่งขึ้นไปทำไมบนนั้น ไม่รู้เป็นใคร แล้วก็มีคนเสียชีวิต ที่วัดปทุม 6 คน ซึ่งเสียชีวิตในตอนกลางคืน ประมาณ 2 – 3 ทุ่มแล้ว นายณัฐวุฒิ นายจตุพร กล่าวหาว่าทหารเป็นคนยิงให้ตาย

พี่น้องที่เคารพครับ 6 คนนั้นผมยืนยันได้ว่าสถาบันนิติเวชของตำรวจได้ตรวจเขม่าดินปืนพบว่า 2 คน ที่ตายนั้น มีเขม่าดินปืนอยู่ที่มือ จับอาวุธ ยิงปืนมาก่อน

พี่น้องที่เคารพ ตรงกับรายงานของเจ้าหน้าที่ ที่รายงานผมบอกว่า มีการปะทะกัน ที่แยกเฉลิมเผ่าในตอนค่ำ ตอนที่เจ้าหน้าที่พยายามที่จะคุ้มครองรถดับเพลิง เข้ามาทำการดับเพลิง

พี่น้องครับ เรื่องของคนที่เสียชีวิตที่วัดปทุม ก็จะมีเจ้าหน้าที่มีองค์กรกลาง มีคณะกรรมการของอ.คณิต ที่จะต้องสอบสวนต่อไปผมไม่เอามาพูดจาให้เป็นข้อถกเถียงกัน

ผมอยากจะเรียนกับพี่น้องโดยสรุปอย่างนี้ครับว่า การปฏิบัติการณ์กระชับวงล้อม ของเจ้าหน้าที่หรือกระชับพื้นที่ของเจ้าหน้าที่วันนั้นมีคนเสียชีวิตเพียง 4 คน และไม่มีผู้ชุมนุมคนไหนที่อยู่บริเวณหน้าเวทีชุมนุมที่สี่แยกราชประสงค์ตาย เลยแม้แต่คนเดียว

ผมยืนยันต่อหน้าพี่น้องที่เคารพรักทั้งหลาย ว่าไม่มีคนตายที่ราชประสงค์ ในวันที่ 19 พ.ค.ที่ผ่านมา ไอ้ที่แกล้งมาทำเป็นผีเมื่อวานบอกว่า คนตายที่นี่ ตายที่อื่นครับ

พี่น้องที่เคารพครับ เขายุติการชุมนุม เพราะว่าฐานกำลังคนเสื้อดำที่คุ้มครองเขาอยู่แตกแล้วที่สวนลุม เขาจึงตัดสินใจยุติการชุมนุม ผมดีใจกันได้ไม่เท่าไหร่หรอกครับ

เขาลงมือเผาบ้าน เผาเมืองเลย

เผาโรงหนังสยาม เผาเซนทรัลเวิล์ด เผาเซเว่น อิเลฟเว่น เผาธนาคารกรุงเทพฯ เผาสถานีโทรทัศน์ช่อง 3 เผาศาลากลางจังหวัด เผาทั่วไปเลยครับ พี่น้องครับ แล้วไม่ใช่เรื่องที่คนโกรธแค้น ผมเชื่อโดยความบริสุทธิ์ใจของผมครับพี่น้องครับ ว่าการเผาที่เกิดขึ้น เผาบ้านเผาเมืองคราวนั้น ไม่ใช่เพราะคนโกรธแค้นที่ยุติการชุมนุม แต่เป็นเรื่องที่พวกเขาได้ปลุกระดม ได้วางแผนกันมาไว้แล้ว พี่น้องลองดูคลิปเสียงนี้สิครับ

(เปิดคลิป)

พี่น้องที่เคารพครับ ผมเอาของจริงมาแสดงกับพี่น้อง มาเรียนกับพี่น้อง เพราะว่าเขาเคยกล่าวหาว่า ผมสั่งให้เจ้าหน้าที่ทหาร เผาสถานที่เหล่านี้เพื่อสร้างสถานการณ์ใส่ร้ายเขา

พี่น้องที่เคารพ การฆ่าเจ้าหน้าที่ก็ดี การฆ่าประชาชนก็ดี การใช้ปืน M79 ยิงใส่ที่ทำการของรัฐ ใส่ธนาคาร ใส่ร้านค้า ใส่สถานีรถไฟฟ้า รวมทั้งการเผาบ้านเผาเมืองทั้งหลาย

พี่น้องลองดูที่มือเขาสิครับ คนที่หยิบยางรถรถยนต์ที่จะไปเผาครับ ที่ข้อมือของเขาใส่สายรัดข้อมือที่เป็นสัญลักษณ์ของคนเสื้อแดงครับ

ข้างหลังนั่น “นายกวี ณ ลำปาง” ครับ เขียนไว้เลยครับ เสื้อ แล้วใส่ชุดดำคลุมหัวไอ้โม่ง นั่นครับ ข้อมือเหมือนกันหมด มันไม่ใช่คนของผมแน่นอนครับ ไม่มีทหารผมคนไหนแต่งตัวอย่างนี้ครับพี่น้องครับ

พี่น้องที่เคารพครับ เพราะเหตุที่เขาฆ่าทหาร เพราะเหตุที่เขาฆ่าประชาชนผู้สุทธิ์ เพราะเหตุที่เขาเผาบ้าน เผาเมือง คณะกรรมการคดีพิเศษ จึงได้มีมติ ให้กรมสอบสวนคดีพิเศษ รับคดีนี้ไปทำ เป็นคดีพิเศษ ตามกฎหมาย บูรณาการเอากำลังทั้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทั้งเจ้าหน้าที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ ทั้งอัยการ เข้ามาช่วยกัน สืบสวน สอบสวน ทำคดีนี้

แล้วผลของการสืบสวนสอบสวน ครับ พี่น้องครับ คดีพิเศษที่ 18 / 2553 เขาได้พยาน ได้หลักฐาน เห็นว่า มีคนที่จะต้องเป็นผู้ต้องหาทั้งหมด 26 คน

ชื่อที่ 1 คือ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร

ชื่อที่ 2 คือ วีระ มุสิกพงศ์

ชื่อที่ 3 คือ จตุพร พรหมพันธุ์

ชื่อที่ 4 คือ ณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ

ชื่อที่ 5 คือ นพ.เหวง โตจิราการ

พี่น้องครับ ชื่อหลัง ๆ ไม่อยากอ่านแล้ว แต่ผมอยากจะกราบเรียนกับพี่น้องที่เคารพรักทั้งหลายว่า รัฐบาลไม่ได้กลั่นแกล้งคนเหล่านี้ การดำเนินคดีนี่ เป็นไปโดยโปร่งใส แล้วก็เปิดโอกาสให้ผู้ต้องหาทุกคนได้ต่อสู้คดีด้วยความยุติธรรม ตรงไปตรงมา

ที่ต้องฟ้อง ที่ต้องดำเนินคดี เป็นเรื่องของเจ้าหน้าที่ ที่ดำเนินการตามกระบวนการยุติธรรม รัฐบาลไม่เข้าไปแทรกแซงเลย ผู้ต้องหาเหล่านั้น เมื่อพนักงานสอบสวนเห็นหลักฐานทุกอย่างสมควรฟ้อง ก็สั่งฟ้อง พอไปถึงอัยการ อัยการก็นำคดีไปฟ้องศาล ศาลพิจารณาแล้วเห็นพยานหลักฐานแล้ว เห็นสำนวนแล้ว ก็รับฟ้อง เขาขอประกันตัว ศาลให้ประกันตัวทุกคน แต่มีเงื่อนไขว่าประกันตัวไปแล้ว ต้องไม่ไปสร้างปัญหาให้กับบ้านเมือง มี 2 คน ปฏิบัติผิดเงื่อนไขที่ศาลที่กำหนด ศาลจึงถอนประกัน คือนายจตุพร พรหมพันธุ์ แล้วนายนิสิต สินธุไพร ตอนนี้ก็อยู่ในคุกอยู่ 2 คน

ผลของการสอบสวนคราวนี้พี่น้องครับ เอกสารที่ผมมีอยู่ในมือนี่ครับ ยืนยันว่ากองกำลังติดอาวุธ คนเสื้อดำที่เราเห็นในภาพนั้น มีตัวตนจริง ๆ นี่เป็นรูปถ่ายตอนที่เขากำลังฮึกเหิมกันอย่างเต็มที่ครับ แล้วมีพยานระบุชื่อ ระบุตัวได้ แล้วไปตรงกับภาพที่กำลังก่อการร้าย มีหลักฐานพยานระบุ จึงมาขอหมายศาล ออกหมายศาล แล้วจับตัวมาดำเนินคดี มีทั้งกลุ่มนักรบโรนิน กลุ่มเสื้อดำ กลุ่มสมิงดำ กลุ่มเชียงใหม่ 51 กลุ่มนักรบพระเจ้าตาก กลุ่มพระองค์ดำทั้งหลาย

พี่น้องครับ คนเหล่านี้เป็นจำเลย ร่วมกันกับจตุพร กับณัฐวุฒิ กับหมอเหวง กับทั้งหลายทั้งปวงที่ผมเอ่ยชื่อกับพี่น้องทั้งหลายแล้ว แต่ที่ผมอยากจะเรียนกับพี่น้องทั้งหลายครับ มีคนถามมากเหลือเกินว่า ไอ้ตอนที่เกิดเหตุอย่างนั้นน่ะ ใครเป็นคนยิง ใครเป็นคนฆ่า

พี่น้องครับ จากสำนวนการสอบสวนของเจ้าหน้าที่ ได้ตัวแล้วครับ มีคนชี้แล้วครับว่า คนที่ยิงปืน M79แล้วทำให้พล.อ.ร่มเกล้า และทหารเสียชีวิตนั้น คือนายสุกเสก พลตื้อ กับนายมงคล สาระพัน ครับ

คนที่ยิง RPG ใส่วัดพระแก้ว ชื่อ บัณฑิต สิทธิทุม จับได้พร้อมของกลาง รับสารภาพครับ

คนที่ยิง เฮลิคอปเตอร์ทหาร จับได้พร้อมอาวุธ ที่ผมบอกพี่น้องเมื่อสักครู่มี 3 คน รวมเป็นแก๊งเดียวกัน นางนฤมล นายสุรชัย นายชาตรี

คนที่ยิง M79 มากที่สุดในทีมของเขา อยู่ที่กลุ่มเชียงใหม่ 51 จับได้ครับ ชื่อนายวัลภพ พิธีพรหม สารภาพทุกคดีเลยครับ

พี่น้องที่เคารพครับ ผมกราบเรียนเรื่องนี้กับพี่น้องทั้งหลาย ไม่ต้องการที่จะเอามารื้อฟื้นให้มีความโกรธเกลียด ให้มีความชิงชังกัน ผมอยากจะเรียนกับพี่น้องครับ ผมต้องการร้องขอความยุติธรรมให้ท่านนายกฯ อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ผมขอความยุติธรรมให้กับทหาร และกองทัพของประชาชน

พี่น้องครับ ผมทน ให้เขาพูดอยู่ข้างเดียวมานานแล้ว ถ้าผมไม่ออกมาพูดวันนี้ จะมีคนเข้าใจนายกฯ อภิสิทธิ์ตามคำโฆษณาชวนเชื่อของเขามาก แล้วผมกลัวครับพี่น้อง ผมสารภาพกับพี่น้องว่า ผมกลัว กลัวว่า จะมีคนไม่เลือกนายกฯ อภสิทธิ์ เพราะนึกว่านายกฯ อภิสิทธิ์เป็นอย่างที่เขาโฆษณา

พี่น้องที่เคารพครับ ผมเป็นนักการเมืองอาชีพ เป็นนักการเมืองที่ผ่านการเลือกตั้งมา 10 กว่าสมัย อยู่ในพรรคประชาธิปัตย์มา 30 กว่าปี เรื่องการเลือกตั้งจะแพ้ชนะนี่ผมทำใจได้ พวกผมทุกคนทำใจได้ ผมเพียงแต่คาดหวัง วิงวอนว่า ให้พี่น้องประชาชนได้รับข้อมูลให้ครบถ้วนทุกด้าน แล้วพี่น้องใช้ดุลยพินิจ ถ้าพี่น้องประชาชนเห็นว่านายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ไม่เก่งพอ ไม่มีภาวะผู้นำ ไม่มีประสบการณ์แก้ปัญหาชาติไม่ได้ ไม่เลือก พวกผมรับได้

แต่ถ้าบอกว่าไม่เลือกนายกฯ อภิสิทธิ์เพราะนายกฯ อภิสิทธิ์ เป็นฆาตกร เป็นคนสั่งทหารฆ่าประชาชน ตามคำโฆษณาชวนเชื่อของพวกนั้น ผมร้องไห้ทุกวัน

ผมเรียนกับพี่น้องครับ นายกฯ อภิสิทธิ์ ไม่ได้ร่วมสั่งการใด ๆทั้งสิ้น ผมเป็นผู้อำนวยการ ศอฉ. ผมเป็นคนสั่งการทุกอย่าง แล้วผมรับผิดชอบ เขากล่าวหาว่า ทำให้คนตาย ผมไปมอบตัวแล้ว ผมเรียนกับพี่น้องครับ ผมพร้อมที่จะสู้คดีพิสูจน์ความถูก ความต้อง ผมไม่หนีไปต่างประเทศเหมือนทักษิณ

ผมไม่ทิ้งพี่น้องทั้งหลาย ผมไม่ทิ้งพี่น้องผมที่ร่วมกันแก้ปัญหามาตลอดเวลาทั้งปี 2552 ทั้ง 2553

ผมเรียนกับพี่น้องครับ ผมเป็นคนบ้านนอก ผมเป็นกำนันมาก่อน ก่อนที่จะมาเป็นนักการเมือง ผมเห็นปัญหาที่เกิดขึ้นในยุคที่ประเทศไทยมีสงครามสู้รบที่เรียกว่า คอมมิวนิสต์ วันนี้ผมเห็นเขาไปจัดตั้งหมู่บ้านเสื้อแดง ตำบลเสื้อแดง ชักธงแดง

ผมเศร้าครับพี่น้อง ผมนึกถึงหัวอก หัวใจ ที่คนที่อยู่ในหมู่บ้านในชนบทเหล่านั้น ไม่กล้าที่จะแสดงตัว นายชวนไป นายอภิสิทธิ์ไป จะยกมือทักทาย ยังไม่กล้ายกเลยครับ

ผมอยากจะขอพี่น้องที่เคารพรักทั้งหลาย ช่วยพูดจากับเขาเถอะครับ วิงวอนกับเขาเถอะครับ มาสู้กันตามกฎเกณฑ์ มาสู้กันตามกติกา ทรัพย์สิน เงินทอง คุณก็เยอะ สมุนบริวาร คุณก็เลี้ยงไว้มาก ทุกแผนกสื่อมวลชนของคุณก็เยอะ สร้างข่าวโหมกระแสกันทุกวัน

พวกผมก็สู้ยากอยู่แล้ว ไม่ต้องเอากำลังมวลชนจัดตั้งมาคุกคามพวกผม ไม่ต้องเอากองกำลังเสื้อดำ ติดอาวุธมาข่มขู่กันอีก ไม่มีนักประชาธิปไตยที่ไหนเขาทำกันอย่างนั้น เอาแค่มีพรรคการเมืองมาสู้กันก็พอแล้ว

พี่น้องครับ หลายเรื่องที่เขาพูดนั้น ผมสารภาพกับพี่น้องตรง ๆ ว่าผมไม่เชื่อเขา แต่เมื่อ 2 – 3 วันคุณยิ่งลักษณ์ได้ให้สัมภาษณ์ว่า คุณยิ่งลักษณ์ไม่สามารถควบคุมคนเสื้อแดงได้

ผมเชื่อครับ พี่น้องครับ ผมเชื่อว่าคุณยิ่งลักษณ์ ไม่สามารถควบคุมคนเสื้อแดงได้ เพราะเสื้อแดงที่พี่น้องเห็นนั้นมันเป็นเฉพาะยอดภูเขาน้ำแข็งครับ ที่อยู่ข้างหลังที่บงการอยู่นั้น เป็นพวกที่ยังมีอุดมการณ์เดิมที่ต้องการล้มล้างเปลี่ยนแปลงระบบการปกครองของ ประเทศนี้ เขาไม่เลิกหรอกครับ

ถ้าพรรคเพื่อไทยได้เป็นรัฐบาล เสื้อแดงพวกนี้แหละครับ ไม่ใช่ประชาชน มวลชนนะครับ เสื้อแดงที่เป็นแกนนำนี้แหละครับ ที่จะมาขี่คอพรรคเพื่อไทยผมเป็นห่วงครับ

สิ่งสุดท้าย ที่ผมขออนุญาตกราบเรียนกับพี่น้องครับ วันนี้มาถึงโค้งสุดท้ายแล้ว มีเวลาอีกหลายวันครับ ที่พี่น้องจะช่วยชาติ ช่วยประเทศไทยได้ ช่วยกรุณาสื่อสารไปถึงญาติเรา พี่น้องเราทั่วประเทศไทยด้วย ว่าในบัญชีรายชื่อผู้สมัครแบบสัดส่วนของพรรคเพื่อไทยนั้น มีผู้ต้องหาคดีก่อการร้ายอยู่ 22 คน

ถ้าใครเผลอไผลไปเลือก กากบาทให้บัญชีสัดส่วนของพรรคเพื่อไทย จตุพร พรหมพันธุ์ ได้เป็นส.ส. ณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ได้เป็น ส.ส. แล้วผู้ก่อการร้ายอีก 20 กว่าคนนั้นได้เป็น ส.ส. ถ้าเขาชนะพวกผม เผลอ ๆ จตุพร พรหมพันธุ์ ได้เป็นรัฐมนตรี

ผมทำใจเอาไว้แล้ว พี่น้องครับ ถ้าจตุพร พรหมพันธุ์ ได้เป็นรัฐมนตรี ว่าการกระทรวงมหาดไทย หรือเป็นนายกฯ ฝ่ายความมั่นคง

สงสัยผมติดคุกแน่ครับ พี่น้อง

พี่น้องประชาชนคนไทยอื่น ๆ ไม่ทราบจะต้องไปขุดรูอยู่กันอย่างไร พี่น้องครับ ถึงเวลาที่เราจะต้องช่วยเหลือบ้านเมืองแล้วครับ มีแต่พี่น้องเท่านั้นที่จะรักษาบ้านเมืองได้ต่อไปนี้

ท่านนายกฯ อภิสิทธิ์ และพวกผมได้ทำมาเต็มที่ สุดกำลังแล้วครับ 2 ปีกว่า ถ้าพี่น้องเห็นว่าบ้านเมืองนี้ไว้ใจนายกฯ อภิสิทธิ์ได้ เทใจให้นายกฯ อภิสิทธิ์ครับ เลือกเบอร์ 10 ทั้งสองใบ ขอบคุณครับ

**************************************************************************

ไม่มีความคิดเห็น: