วันพุธที่ 3 เมษายน พ.ศ. 2556

"นายกฯยิ่งลักษณ์" หวังศาลรัฐธรรมนูญ จะชี้ทางออกให้ประเทศ


น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่กลุ่ม 40 ส.ว.ยื่นให้ศาลรัฐธรรมนูญตีความ เพื่อให้ระงับการพิจารณาแก้ไขรัฐธรรมนูญในมาตรา 68 และ 237 ว่า ต้องเรียนว่า ตนหวังว่าศาลรัฐธรรมนูญจะมีการชี้ทางออกให้กับประเทศด้วย เพราะว่าวันนี้เรื่องข้อกฎหมายต่างๆ จะเห็นว่าหลายประเทศมีการปรับปรุงเปลี่ยนแปลงกฎหมาย การทำงานไปก็ต้องมีการปรับปรุง และเชื่อว่าการทำให้กฎหมายนั้นเป็นประชาธิปไตยมีความยุติธรรมและเป็นไปตามหลักนิติธรรม ซึ่งเป็นสิ่งจำเป็นในการที่จะสร้างความเชื่อมั่น อย่างไรก็ตาม แนวทางออกในการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ก็หวังว่าจะมีทางออก เพราะว่าการแก้ไขโดยแนวทางที่จะมีการสภาร่างรัฐธรรมนูญ (ส.ส.ร.) ก็ไปไม่ได้ ก็มาแก้รายมาตราแล้ว ก็หวังว่าทางออกจะมีให้กับประเทศ อันนี้ก็หวังไว้อย่างนั้น

ผู้สื่อข่าวถามว่า ถ้ามีการวินิจฉัยระงับการพิจารณาชั่วคราว จะทำให้เกิดปัญหาหรือไม่ น.ส.ยิ่งลักษณ์กล่าวว่า จริงๆ ก็อยากขอว่า ในส่วนของรัฐสภาน่าจะนำเอาปัญหาที่ทาง ส.ว.ที่มีการติดตามเรื่องสิทธิพิทักษ์รัฐธรรมนูญเอามาหารือกันในสภา เพื่อที่จะพูดคุยกันและหาทางออก มากกว่าการที่ใช้ข้อกฎหมายแล้วทางออกของประเทศเดินไม่ได้ เพราะวันนี้ทุกคนก็จะเห็นว่า ทุกอย่างมันไม่สามารถที่จะเดินก้าวข้างหน้าได้ ขณะที่เราจะเตรียมตัวสู่ประชาคมอาเซียน ในหลายประเทศกลุ่มประเทศเพื่อนบ้านก็มีการปรับปรุงเปลี่ยนแปลงข้อกฎหมายทั้งนั้น และมีทางออกได้ แต่วันนี้ประเทศไทยเชื่อว่า ทุกฝ่ายจะร่วมกันหาทางออกให้กับประเทศ

เมื่อถามว่า ฝ่ายที่ออกมาคัดค้านมองกันว่า การแก้ไขแบบรายมาตราครั้งนี้ จะนำไปสู่การแก้ไขทั้งฉบับ น.ส.ยิ่งลักษณ์กล่าวว่า ทุกอย่างมีกลไกอยู่แล้ว และทุกขั้นตอนมีสิทธิในการที่จะทักท้วงพูดคุยกัน เชื่อว่าเราอยู่ในสังคมที่พูดกันได้ สังคมประเทศไทยน่าจะมีเวทีในการพูด ในส่วนของการที่บอกว่าจะไปแก้ทั้งฉบับนั้น วันนี้ก็เห็นอยู่แล้วว่าเรื่องของ ส.ส.ร.ก็ยังไปไม่ได้เลย เราจะไปได้ถึงขนาดนั้นหรือไม่ ตนก็มองอย่างนั้น ซึ่งในข้อกังวลก็น่าจะไปพูดคุยกันในชั้นของรัฐสภาหรือกรรมาธิการได้ ในการป้องกันข้อกังวลต่างๆ แต่ว่าสิ่งที่ควรจะเริ่มคือ คงต้องมองว่ากระบวนการต่างๆ ต้องให้ความยุติธรรมทั้งสองฝ่าย ทั้งฝ่ายผู้กล่าวหาและผู้ถูกกล่าวหา ซึ่งเป็นสิทธิของประชาชนที่จะทำตามภายใต้กรอบรัฐธรรมนูญ

ไม่มีความคิดเห็น: