วันที่ 30 เมษายน 2556 (go6TV) ณัฐวุฒิ โวปาฐกถานายกฯ
คือบทสรุปการเมืองไทย ซัด อภิสิทธิ์ ใจแคบความคิดยิ่งแคบ หลังพยายามโยงเข้าทักษิณ
เป็นประเด็นการเมือง
หลังการประชุมคณะรัฐมนตรีเมื่อช่วงบ่ายที่ผ่านมา นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ
รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ ได้ให้สัมภาษณ์ตอนหนึ่งถึงกระแสข่าวการปาฐกถาของน.ส.ยิ่งลักษณ์
ชินวัตร นายกรัฐมนตรี
ระหว่างการเข้าร่วมประชุมประชาคมประชาธิปไตยที่ประเทสมองโกเลีย ที่ถูกฝั่งตรงข้ามทางการเมืองหยิบมาวิพากวิจารณ์อย่างหนักอยู่ในขณะนี้ว่า
การพูดของ นายกฯ
ที่มองโกเลียถือเป็นการสรุปทางการเมืองไทยอย่างแหลมคม และทรงพลัง
เพราะนอกจากจะอธิบายความจริงจากความขัดแย้งต่อมิตรประเทศในเวทีโลกแล้ว
ยังถือเป็นการส่งสัญญาณบอกฝ่าย
ให้หันมาพิจารณาความจริงว่าสาเหตุการขัดแย้งเกิดจากอะไร
และอยากบอกกล่าวผู้ที่มีอำนาจมีบารมี
และองค์กรอิสระต่างๆว่า ประเทศไทยไม่ได้อยู่เพียงลำพังในเวทีโลก แต่เราอยู่ในระบบสังคมที่ระบอบประชาธิปไตยเป็นระบอบการปกครองที่ได้รับการยอมรับสูงสุด
และเวลานี้เมื่อเรามีปัญหาประชาธิปไตยก็เท่ากับความน่าเชื่อถือของประเทศไทยก็จะถูกกระเทือนไปด้วย
โดยสิ่งที่นายกฯ ทำมาตลอดระยะเวลา 2
ปีที่ผ่านมาก็คือพาประเทศออกจากวิกฤติความขัดแย้ง เพื่อยกระดับความน่าเชื่อถือ
สร้างความเชื่อมั่นในสายตานานาชาติ ซึ่งตนอยากให้หลายฝ่ายร่วมมือกัน
ส่วนการที่นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์
พยายามโยงว่าการปาฐกถาดังกล่าวเป็นการพูดเพื่อช่วยเหลือ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นั้น
คิดว่านายอภิสิทธิ์น่าจะเปิดความคิดให้กว้างกว่านี้
ใจว่าแคบแล้วความคิดยิ่งแคบกว่านั้นเข้าไปอีก เรื่องของพ.ต.ท.ทักษิณ
ทั้งโลกเข้าใจดี ว่านี่คือนายกฯที่ถูกรัฐประหารจะต่างกับนายกฯที่จัดตั้งในค่ายทหาร
ที่สั่งการให้มีกำลังออกมาทำให้ประชาชนบาดเจ็บล้มตายจำนวนมาก
และหลังจากที่นายอภิสิทธิ์
พ้นตำแหน่งก็ไม่เห็นจะมีมิตรประเทศไหนให้การต้อนรับดีแบบพ.ต.ท.ทักษิณเลย
เพราะฉะนั้นคิดว่าถ้าข้ามผลประโยชน์ทางการเมืองของตัวเองกันบ้างน่าจะเห็นหนทางที่จะคลี่คายความขัดแย้งได้
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น