โดย นายพานทองแท่้ โพสต์ข้อความดังนี้
ภารกิจ ลับลับ-ล่อล่อ กับเจมส์กรณ์007ตอน2
(รูปนี้จากนสพ.ผู้จัดการรายสัปดาห์เล่มล่าสุด ที่พูดถึงเหตุการณ์ ณ ฮ่องกง โดยใช้คำว่า "เป็นความบังเอิญอย่างร้ายกาจ ที่มีรูปถ่ายเป็นหลักฐาน" ครับ)
ผมเจออาสมศักดิ์ เทพสุทิน เมื่อวันก่อน คุยกันเรื่องวลีเด็ด(ชีพแมลงสาบ) ปรากฏทั้งอา-ทั้งหลานหัวเราะกันกลิ้ง น้ำหูน้ำตาไหลเลยครับ....gagagagaga
อาสมศักดิ์ฯบอกว่า ผมแค่พูดว่า "นักการเมืองฝ่ายตรงข้าม เจอทักษิณฯบ่อยกว่าผมอีก" แถมยังยืนยันว่า ตนเองไม่ได้ระบุถึงใครเลย และที่สำคัญสื่อก็ไม่ได้ติดใจซักถามด้วยว่า นักการเมืองฝ่ายตรงข้ามที่ว่านั้นมีใครมั่ง
เรื่องมาดังก็อีตอน อ.เสรีฯเกิดสงสัยขึ้นมา เลยโพสต์ในเฟสบุ๊คว่า ปชป.ต้องออกมาชี้แจงด่วนว่าข่าวนี้ "ชัวร์หรือมั่วนิ่ม" ปรากฏว่าพรรคประชาธิปัตย์เงียบกริบกันทั้งพรรคครับ ทีมโฆษกฯทั้งทีม หัวหน้าพรรคฯและคนอื่นๆที่เก๋าเกมการเมือง ต่างก็แบ๊ะๆแบ๊ะๆกันหมด อาศัยหลักการ "ไม่พูดก็ไม่มีใครเขาว่าเป็นใบ้" กับหลักการ "ไม่แกว่งปากหาเท้า" กันหมดทั้งพรรคฯ
แม้กระทั่ง รมต.คลังเงา "หล่อโย่ง" ตัวต้นเหตุ ยังไม่พูดเรื่องนี้เลยครับ เฉไฉไปเรื่องอื่น วินัยการเงินการคลัง, 2ล้านๆ, เศรษฐกิจมหภาค อะไรของเเกไปเรื่อย ทั้งๆที่ตามปกติไปทำอะไร ที่ไหน อย่างไร ทั้งอัพเดท ทั้งโชว์รูป โพสต์ข้อความกันอุตลุดไปหมด นี่ไปนั่งกินกาแฟเห็นๆกันอยู่ นั่งสบตากันอยู่2ชั่วโมง ห่างทักษิณฯ 20เมตรมีเพียงกระจกใสกั้น ผ่านมาร่วมเดือนไม่พูดสักแอะ
พอโดนจับได้คาหนังคาเขา มีรูปถ่ายเป็นหลักฐาน บอกแต่เพียงSMS รายงานหัวหน้าอภิสิทธิ์ฯแล้ว อ้าว!!...แล้วทำไมไม่บอกประชาชนละครับ จะปิดบังกันไปทำไม ครั้งก่อน สส.ปชป.พาคนไปติดคุกเขมร ก็โทรศัพท์พูด "อย่าบอกใครนะ หัวหน้าอภิสิทธิ์ฯรู้แค่คนเดียว" ปกปิดคนทั้งประเทศ แต่อภิสิทธิ์ฯรู้ทุกเรื่อง เอากะเค้าดิ! ลับๆล่อๆสไตล์007 คนพรรคฯนี้.....มันแปลกดีนะ!!
พรรคเก่าแก่น่าจะแก้นิสัยแบบนี้ครับ เรื่องจริงไม่เคยพูด เรื่องพูดไม่เคยจริง ดูอาจ้อน-อลงกรณ์ฯเป็นตัวอย่าง พูดความจริง สิ่งที่ประชาธิปัตย์ไม่เคยยอมรับแค่นั้น จะเป็นจะตายออกมาถล่มกันแทบทั้งพรรคฯ เรื่องได้พบ-ไม่ได้พบทักษิณฯ ตอบตามความจริงไปก็จบครับ ปล่อยเมียออกมาละเมอชี้แจงแทน แบบข้ามศพผัวศพเมียอะไรไปเรื่อย แบบนี้เรื่องยาวครับ ครั้งนี้ถ้าไม่เจอ "ไบก้อนโอ๊ค" ฉีดปื๊ดดด!! เข้าไปจนดิ้นพราดๆอย่างที่เป็นอยู่นี้ ป่านนี้ความจริงคงยังไม่ปรากฏ
ดีนะครับที่เหตุการณ์ครั้งนี้ เกิดขึ้นในต่างประเทศ มิฉะนั้นเจ้าของโรงแรมที่เกี่ยวข้อง อาจจะ โดนเช่นเดียวกับร้านเนื้อย่าง ที่ตอนเเรกยึกยักไม่ยอมให้ดูบิลว่าไพร่เต้นกิน เนื้อมัตซึสะกะ,โกเบ กับเปิดไวน์ราคาแพง แบบที่อำมาตย์โต๊ะข้างๆกินกันหรือเปล่า ได้ข่าวว่าหลังจากนั้น2วัน โดนสรรพากร เข้าไปตรวจสอบภาษีแบบเอาเป็นเอาตาย เห็นว่าก่อนกลับมีวลีเด็ดจาก2คนผัวเมียทิ้งท้ายไว้ด้วย
"เป็นเสื้อเเดงเหรอ ขอให้โชคดีก็เเล้วกัน"
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น