วันที่ 1 เมษายน 2556 (go6TV) –
เว็บไซด์ insidethaigov
เผยแพร่ข่าวเกี่ยวกับ พ.ท.ท.ทักษิณ ชินวัตร ได้รับเชิญให้เป็นแขกเกรียติยศปาฐกถาที่ประชุม
ACD ปลุกเอเชียร่วมสร้างเส้นทางสายไหมยุคใหม่
โดยมีเนื้อหาข่าวดังนี้
พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี
ได้รับเชิญจากนายเอมอมาลี ราห์มอน ประธานาธิบดีแห่งสาธารณรัฐทาจิกิสถาน
เป็นแขกเกียรติยศปาฐกถาในพิธีเปิดการประชุมระดับรัฐมนตรีกรอบความร่วมมืออาเซีย (ACD)
ครั้งที่
11 ณ เมืองดูชานเบ สาธารณรัฐทาจิกิสถาน เมื่อวันที่ 29 มีนาคม 2556
โดย พ.ต.ท.ทักษิณ ปาฐกถาตอนหนึ่งว่า
รู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้รับเชิญมาร่วมการประชุม ACD
ครั้งที่
11 ที่จัดขึ้นเป็นครั้งแรก ณ สาธารณรัฐทาจิกิสถาน
ประเทศซึ่งเปี่ยมล้นไปด้วยแหล่งอารยธรรมและศิลปวัฒนธรรมอันเลอค่า
และขอขอบคุณรัฐบาลแห่งสาธารณรัฐทาจิกิสถานที่ให้เกียรติเชิญมาปาฐกถาในวันนี้
ซึ่งในโอกาสที่ได้กลับมาเมืองดูชานเบ ในครั้งนี้ทำให้อดหวนคิดถึงอดีตไม่ได้
โดยเมื่อวันที่ 9 กันยายน 2549 เป็นวันที่ผมเดินทางมาเยี่ยมเยียน
สาธารณรัฐทาจิกิสถานอย่างเป็นทางการประเทศสุดท้าย ขณะดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีแห่งราชอาณาจักรไทย
ซึ่งสิบวันหลังจากนั้นก็เกิดการรัฐประหารขึ้นในประเทศไทยขณะที่ผมยังปฏิบัติราชการในต่างประเทศ
ACD ถือกำเนิดที่ประเทศไทย
ในเดือนมิถุนายน 2545 ซึ่งในครั้งนั้นมีประเทศผู้ร่วมก่อตั้ง ACD
18
ประเทศมาร่วมประชุมด้วยกัน
ทำให้บรรยากาศอบอุ่นมากสำหรับความตั้งใจในการที่จะรวมตัวเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน
หากมองย้อนกลับไปเกือบ 10 ปีก่อน ที่เป็นช่วงเวลาที่ท้าทาย
เพื่อผลักดันให้เกิดความร่วมมือกันในภูมิภาคแห่งนี้ ซึ่งไม่เคยปรากฏมาก่อน
ในเวลานั้นประเทศต่างๆ ในทวีปอื่นเริ่มมีการรวมตัวกันเป็นกลุ่มแล้ว แต่ประเทศในทวีปเอเชียยังไม่ได้คิดถึงการรวมตัว
โชคดีที่ว่ากลุ่มประเทศอาเซียนมีการรวมศูนย์กันอยู่แล้ว
ประกอบกับการยอมรับและได้รับการสนับสนุนจากมิตรประเทศในแถบเอเชียตะวันออก
เอเชียใต้ และเอเชียตะวันออกกลาง
ทำให้เอเชียของเราสามารถหลอมรวมเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันได้จากทุกมุมทวีป
จากเหนือจรดใต้ จากตะวันออกจรดตะวันตก และนั่น จึงก่อเกิด ACD
ขึ้นมา
นับตั้งแต่วันที่มีความหมายนั้นเป็นต้นมา
ผมยินดีที่จะบอกว่าองค์กรของพวกเราเติบโตขึ้นด้วยความมั่นคงและทรงพลัง
นับตั้งแต่ปี 2545 มีประเทศสมาชิกเพิ่มขึ้นเป็นเท่าตัว โดยในเวลานี้มีประเทศสมาชิกแล้ว
32 ประเทศ ซึ่งได้แก่ประเทศสมาชิกจากโซนเอเชียตะวันออกกลางและเอเชียใต้
ซึ่งเป็นการรวมตัวกันเป็นกลุ่มที่มีขนาดครอบคลุมไปทั้งทวีป
ซึ่งการรวมตัวเป็นกลุ่มประเทศ อย่าง ACD
มีความจำเป็น
สำหรับภูมิภาคของเรา และผมเชื่อว่ามีความสำคัญไม่มากก็น้อยจึงขออนุญาตนำมาพูดซ้ำอีกครั้งในวันนี้
ทวีปเอเชีย มีประชากรมากกว่าสี่พันล้านคน
นับเป็น 60% จากจำนวนประชากรทั้งโลก มีตลาดการค้าขายที่ใหญ่
มหึมาและเป็นแหล่งรวมทรัพยากรมนุษย์อันมีค่า ที่นี่คือที่ที่มีดินแดนกว้างใหญ่
ขนาดราว 30% ของเปลือกโลก และที่นี่มีความหลากหลายของทรัพยากรธรรมชาติปริมาณมหาศาล
และยังเป็นดินแดนที่เศรษฐกิจเติบโตสูงที่สุดในโลก
เป็นภูมิภาคหลักที่ผลักดันความเจริญของโลกในตลอดหลายสิบปีมานี้
ปริมาณการส่งสินค้าของออกของภูมิภาคนี้ยังคงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องตลอดหลายสิบปีมานี้
และปัจจุบันมูลค่าการค้าขายของเอเชียมีปริมาณ 30% ของการค้าขายทั้งโลก
ในระยะเริ่มต้นของการก่อตั้ง ACD
เอเชียมีทุนสำรอง
สะสมรวมกันประมาณหนึ่งล้านล้านเหรียญสหรัฐ
หรือประมาณครึ่งหนึ่งของทุนแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ
แต่วันนี้เปอร์เซ็นต์ของจำนวนดังกล่าวสูงขึ้นอย่างน่าประหลาดใจ
ไม่เพียงแต่ขนาดของเศรษฐกิจในเอเชียที่มีการขยายตัวอย่างมาก
แต่การขยายตัวยังรวมไปถึงการขยายตัวในมิติอื่นๆ เช่น ศาสนาและศิลปวัฒนธรรม
เอเชียเป็นแหล่งกำเนิดของศาสนาสำคัญ รวมไปถึงมีสิ่งมหัศจรรย์ของโลกโบราณ
สิ่งมหัศจรรย์ของโลกยุคใหม่หลายสิ่ง และเอเชียก็ยังเป็นหนึ่งในดินแดนที่เป็นต้นกำเนิดของอารยธรรมโบราณนับย้อนหลังได้หลายพันปี
หากมองข้ามฉากหลังของความมั่งคั่ง
เราก็ต้องยอมรับว่าในอีกหลายๆ พื้นที่ในเอเชีย ประชากรของเรายังคงมีฐานะยากจนอยู่
และมันรบกวนความรู้สึกของผมที่ว่าจำนวนประชากรที่ยากจนนั้นมีอยู่จำนวนมากและไม่ได้รับการเอาใจใส่
แม้ว่าเรามีการแลกเปลี่ยนอารยธรรมระหว่างกันและกันมาตั้งแต่โบราณกาล
แต่เอเชียก็ยังคงแข่งขันระหว่างกัน
และหลายครั้งที่พาให้ประเทศพัวพันกับความขัดแย้งระหว่างกัน
ซึ่งน่าเสียดายเพราะเราน่าจะทำให้เกิดความพยายามที่จะร่วมมือกัน
และนำพาความเข้มแข็งมาสู่ภูมิภาคนี้
ด้วยเหตุผลดังกล่าวข้างต้น
ผมเล็งเห็นว่าการรวมตัวเป็นกลุ่มลักษณะนี้จะช่วยทำให้เกิดการเจรจาต่อรองและร่วมมือระหว่างกัน
เป็นเครื่องมือในการเปลี่ยนแปลงความขัดแย้ง
ความแตกต่างไปสู่ผลประโยชน์ที่ต่างฝ่ายต่างยอมรับได้
ซึ่งจะเป็นหนทางสร้างความเข้มแข็งในหมู่ประเทศสมาชิกและขยายฐานพันธมิตรต่อไปยังภูมิภาคอื่น
ท่านผู้มีเกียรติทั้งหลาย
ผมมีความภาคภูมิใจที่ได้เห็นการเติบโตก้าวหน้าและการเพิ่มจำนวนประเทศสมาชิกใน ACD ตลอดระยะเวลาที่ผมดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีของประเทศไทย
อย่างไรก็ตามหลังจากที่พ้นตำแหน่งในปี 2549 ผมพบว่ามีความกระตือรือร้นลดลงและมีประเทศสมาชิกมาเพิ่มใหม่เพียง
2 ประเทศ ดังนั้นในวันนี้จึงขอให้พวกท่านทั้งหลายหันมาฟื้นฟู ACD
ให้เป็นพลวัตใหม่ให้กับทุกชีวิต
ในช่วงเวลานี้ จะเห็นว่าประเทศหลายๆ
ประเทศในภูมิภาคอื่นของโลกประสบปัญหาด้านเศรษฐกิจและการเงินอย่างหนัก
แต่เอเชียของเรายังคงมีความแข็งแกร่งและมีเสถียรภาพดีอยู่มาก
ดังที่เห็นว่าการขยายตัวของเศรษฐกิจโลกเป็นผลมาจากการขยายตัวของเศรษฐกิจจากเอเชีย
แต่ถึงแม้ว่าการขยายตัวในภูมิภาคนี้ของเรายังเป็นไปด้วยดีอยู่
ก็ยิ่งควรที่จะรวมกลุ่มกัน เพราะช่วยกันเสริมสร้างความแข็งแกร่งระหว่างกัน จะได้เป็นการเพิ่มโอกาสในการแข่งขันต่อภูมิภาคอื่นด้วย
พวกเราส่วนใหญ่ล้วนเป็นผู้ผลิตสินค้าหลักให้กับผู้บริโภคในภูมิภาคอื่น
แต่ก็ต้องยอมรับว่าเรายังอ่อนด้อยเรื่องการสร้างมูลค่าเพิ่มในสินค้าที่ส่งออก
ดังนั้นแทนที่เราจะต้องมาแข่งขันตัดราคากันเอง การรวมตัวเป็น ACD
จะช่วยทำให้ลดการแข่งขันและลดความขัดแย้งในหมู่ประเทศสมาชิกได้
เอกอัครราชทูต ผู้มีเกียรติ
สุภาพสตรีและสุภาพบุรุษทุกท่าน
สองพันปีก่อน
บรรพบุรุษของพวกเราได้ทำการค้าขายตามเส้นทางโบราณอันเลื่องชื่อ เส้นทางสายไหม
บนถนนแห่งประวัติศาสตร์ที่มีความยาวกว่า 8,000 กิโลเมตรสายนี้
เริ่มต้นจากประเทศสาธารณรัฐประชาชนจีนทอดผ่านบางส่วนของสาธารณรัฐทาจิกิสถาน
ไปสู่ตะวันออกกลาง เมดิเตอร์เรเนียน ยุโรป และแอฟริกา
เส้นทางการค้านานาประเทศสายนี้เป็นถนนสำคัญของการแลกเปลี่ยนสินค้า
ความรู้และเทคโนโลยี รวมไปถึงศาสนา ปรัชญาและศิลปวัฒนธรรม
การที่เรามีโอกาสพูดคุยเชื่อมโยงกันในภูมิภาคในวันนี้
เปรียบได้กับว่าพวกเรากำลังสร้างเส้นทางสายไหมยุคใหม่ โดยการเชื่อมโยงประเทศสมาชิก
ACDแล้วโยงต่อไปยังภูมิภาคอื่น
ผ่านระบบถนน ระบบทางรถไฟ การเดินเรือและการเดินทางทางอากาศ
ซึ่งถือเป็นฮาร์ดแวร์หลัก อย่างไรก็ตาม ก็ต้องไม่ละเลย ซอฟต์แวร์
ซึ่งมีความสำคัญระดับเดียวกัน คำว่าซอฟต์แวร์ก็หมายถึง วัฒนธรรม ศาสนา
อารยธรรมที่สืบเนื่องมาอย่างยาวนานของหมู่ประเทศสมาชิก
ซึ่งทั้งสององค์ประกอบนี้จะช่วยสร้างให้เราได้เส้นไหมที่สุดพิเศษ
ที่มีความยืดหยุ่นสูง สง่าและประเมินค่าได้ยาก
และขอถือโอกาสนี้เรียนเชิญทุกท่านร่วมเดินทางบนเส้นทางสายไหมยุคใหม่
ร่วมกันเป็นส่วนหนึ่งบนถนนแห่งความเกียรติยศ ยิ่งใหญ่ และเจริญรุ่งโรจน์ตลอดไป
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น