วันอาทิตย์ที่ 30 กันยายน พ.ศ. 2555

6 ปีรำลึก "แท็กซี่ ชน รถถัง" ลุงนวมทอง ไพรวัลย์


เมื่อ 6 ปีที่แล้ว "แท็กซี่ชนรถถัง" วันแห่งการต่อสู้เชิงสัญญาลักษณ์ เมื่อรถแท็กซี่ สัญลักษณ์สามัญชนผู้ให้บริการประชาชน ชนรถถังผู้ยึดอำนาจประชาชน 30 กันยายน พ.ศ. 2549

นายนวมทอง ไพรวัลย์ ซึ่งเป็นอดีตพนักงานการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย บางกรวย ได้ขับรถยนต์แท็กซี่ โตโยต้า โคโรลล่า สีม่วง ทะเบียน ทน 345 กรุงเทพมหานคร ของบริษัท สหกรณ์แหลมทองแท็กซี่ จำกัด พุ่งเข้าชนรถถังเบา M41A2 Walker Bulldog ป้ายทะเบียนตรากงจักร 71116 ของคณะปฏิรูปฯ และได้รับบาดเจ็บสาหัส

หลังจากนั้น พ.อ.อัคร ทิพโรจน์ รองโฆษก คปค. ได้ปรามาสลุงไว้ว่า "ไม่มีใครมีอุดมการณ์มากขนาดยอมพลีชีพได้"

1 เดือนต่อมา คืนวันที่ 31 ตุลาคม นายนวมทองผูกคอตายกับราวสะพานลอย บริเวณถนนวิภาวดีรังสิตฝั่งขาออก เยื้องกับที่ตั้งสำนักงานหนังสือพิมพ์ไทยรัฐ (บริษัท วัชรพล จำกัด) โดยในจดหมายลาตายระบุว่า ต้องการลบคำสบประมาทของ พันเอก อัคร ทิพโรจน์ รองโฆษก คปค.

ในคืนที่นายนวมทองแขวนคอตาย เขาตั้งใจสวมเสื้อยืดสีดำ สกรีนข้อความเป็นบทกวี ที่เคยใช้ในการต่อสู้เพื่อประชาธิปไตย ด้านหน้า เป็นบทกวีของรวี โดมพระจันทร์ และ ด้านหลัง เป็นบทกวีของกุหลาบ สายประดิษฐ์ ข้อความว่า

"อันประชา สามัคคี มีจัดตั้ง เป็นพลัง แกร่งกล้า มหาศาล แสนอาวุธ แสนศัตรู หมู่อันธพาล ไม่อาจต้าน แรงมหา ประชาชน"

ชาวเน็ต ผงะ เจอปาฏิหาริย์ "ผ้าพันคอ นปช." ไม่ไหม้ไฟ

30 กันยายน 2555 go6TV - ควันหลงหลังจากเหตุการณ์ "เสื้อเหลือง" บุกทำร้าย "เสื้อแดง" หน้ากองปราบฯ เมื่อช่วงต้นสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยที่กลุ่มคนเสื้อเหลืองอาศัยจังหวะชุลมุนคว้าผ้าพันคอเสื้อแดงมาเผาไฟทำลาย สุดท้าย เจอปาฏิหาริย์ "ผ้าพันคอ นปช." ไม่ไหม้ไฟ พร้อม ให้โชค มีเลข 3 ตีความจาก "สามเกลอ" พร้อมระบุ "เสื้อแดงตกน้ำไม่ไหล ตกไฟไม่ไหม้" เป็นอย่างไร ไปชมกัน (ต้นฉบับ โดย ปริญ รักษ์ไทย)

แฉสนั่นโลก! คลิปลับเผย "แม่โอบามา" เป็น "โสเภณี"?

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานเมื่อวันที่ 30 ก.ย. ว่า การเมืองสหรัฐมีอันต้องช็อกตะลึงครั้งใหญ่ หลังจากผู้ใช้สิทธิชาวอเมริกันจำนวนหลายล้านคนในรัฐที่มีกลุ่มผู้ใช้สิทธิที่คาดเดาได้ยาก หรือ"สวิงโหวต"ได้รับดีวีดีแนวเอกสารสารคดี อ้างว่า มารดาของประธานาธิบดีบารัก โอบามา แท้จริงเป็นผ้หญิงโสเภณี ขณะที่พรรคเดโมแครตแสดงปฎิกิริยาสุดโกรธแค้นกับการกระทำนี้


รายงานว่า ดีวีดีดังกล่าวมีชื่อว่า"ฝันจากพ่อที่แท้จริง"ผลิตโดยนายโจเอล กิลเบิร์ต นักวิจารณ์ขวาจัดผู้ต่อต้านนายโอบามามาตลอด อ้างว่า ผู้นำสหรัฐมีมารดาชื่อแอน ดันแฮม ซึ่งเป็นหญิงโสเภณี และมีบิดา เป็นชาวผิวดำชื่อแฟรงค์ มาร์เชลล์ เดวิส นักเคลื่อนไหวแห่งพรรคคอมมิวนิสต์ และพวกฝ่ายซ้าย ซึ่งทั้งสองได้แต่งงานกัน และพยายามปิดปังอดีตของโอบามา โดยดีวีดีดังกล่าวจำนวนกว่า 2 แสนแผ่น ถูกแจกจ่ายไปให้แก่ผู้ใช้สิทธิในรัฐเนวาด้า และนิวแฮมป์เชียร์ ขณะที่นักวิเคราะห์มองว่า การอ้างอันเหลือเชื่อเช่นนี้อาจกลายเป็นจุดพลิกผันต่อการสร้างทฤษฎีตั้งคำถามต่ออดีตของผู้นำสหรัฐอีกรอบ และอาจมีผลต่อผู้ใช้สิทธิในรัฐโอไฮโอ ซึ่งเป็นรัฐสวิงโหวตที่นายมิตต์ รอมนีย์ ผู้ท้าชิงแห่งพรรคเดโมแครต กำลังมีคะแนนตามหลัง และบางรายเชื่อว่า มันถูกผลิตโดยมีกลุ่มทรี ปาร์ตี้ ของพรรครีพับลิกันอยู่เบื้องหลัง

อย่างไรก็ตาม ดีวีดีดังกล่าวถูกมองว่าเป็นการเล่นการเมืองที่แสนจะสกปรก โดยแม้แต่นายบิล อาร์มิสเต็ด หัวหน้าพรรครีพับลิกัน ยังกล่าวว่า ซีดีเป็นเรื่องกุขึ้นอย่างแน่อน และชาวอเมริกันสามารถตัดสินใจได้ ขณะที่สมาชิกพรรคเดโมแครตโจมตีว่า ดีวีดีนี้ เป็นสิ่งต่ำช้าที่สุดที่ฝ่ายตรงข้ามจะกล่าวหาโอบามาได้ เพราะไม่มีหลักฐานใด ๆ และว่า ซีดีนี้ถูกสร้างขึ้นเพราะจุดประสงค์สองอย่าง คือ เหยียดผิว และทำเพื่อเงิน

"นิติราษฏร์" เสนอ "ล้างผลพวงรัฐประหาร เพื่อนำคนก่อกบฏมาลงโทษ"


วันนี้ที่หอประชุมศรีบูรพา มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ มีการจัดเวทีวิชาการนิติราษฎร์เสวนา 2 ปี นิติราษฎร์ 6 ปีรัฐประหาร โดยเป็นเวทีวิชาการที่จัดขึ้นเพื่อรำลึกการครบรอบ 6 ปี การรัฐประหาร 19 กันยายน 2549 โดยในงานมีกลุ่มประชาชนและกลุ่มคนเสื้อแดงมาร่วมฟังการบรรยายจนล้นออกมาจากหอประชุมศรีบูรพา

นายธีระ สุธีวรางกูร อาจารย์ประจำคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เป็นวิทยากรในหัวข้อ รัฐประหารกับระบอบรัฐธรรมนูญ โดยกล่าวว่า เมื่อมีการรัฐประหารแล้วอำนาจอธิปไตยควรจะไปอยู่ทีประชาชนหรือที่องค์พระมหากษัตริย์ ซึ่งจะเป็นหน้าที่ของคณะนิติราษฎร์ที่จะหาคำตอบนั้น นอกจากนี้ในสมัยก่อนเมื่อเกิดการรัฐประหารจะไม่มีนักกฎหมายคนไหนออกมาปกป้องหรือป้องกันไม่ให้เกิดการรัฐประะหารแต่หลังจากเกิดการรัฐประหารปี  2549 ก็มีกลุ่มนักกฎหมายบางกลุ่มออกมาตะโกนให้สังคมรู้ว่า ยังมีวิธีที่จะลบผลพวงและป้องกันไม่ให้เกิดรัฐประหารในอนาคตได้

นายวรเจตน์ ภาคีรัตน์ รองศาสตราจารย์ประจำคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์กล่าวว่า ถ้าสามารถทำให้ข้อเสนอของคณะนิติราษฎร์ในเรื่องการลบล้างผลพวงรัฐประหารเป็นจริงได้ ก็จะสามารถนำตัวผู้ก่อการรัฐประหารถูกดำเนินคดีในชั้นศาลได้ แต่ที่ยังไม่สามารถปรากฎเป็นจริงได้นั้นเพราะคณะนิติราษฎร์ไม่มีอำนาจทางการเมือง ดังนั้นสิ่งที่ควรช่วยกันก็คือ ประชาชนจะต้องเผยแพร่ข้อเสนอของคณะนิติราษฎร์ให้เผยแพร่ออกไปให้มากที่สุด เพื่อฝ่ายการเมืองจะนำไปปฎิบัติให้เกิดขึ้นจริงได้ แล้วแม้ข้อเสนอของนิติราษฎร์จะไม่สามารถเกิดขึ้นในช่วงเวลาอันใกล้ แต่ข้อเสนอก็ยังอยู่และถูกเผยแพร่้ไปแล้ว ดังนั้นถ้าเกิดมีการรัฐประหารในอนาคต ข้อเสนอของนิติราษฎร์จะถูกผลักดันให้เกิดขึ้นจริงได้อย่างแน่นอน

การรัฐประหาร 8 พฤศจิกายน 2490 เป็นต้นกำเนิดให้รัฐธรรมนูญไม่มีความเป็นสากล โดยเฉพาะรัฐธรรมนูญหลังการรัฐประหารในครั้งนั้นทำให้ความสัมพันธ์ระหว่างองค์กรทางการเมืองตามรัฐธรรมนูญกับสถานะของสถาบันพระมหากษัตริย์ไม่ถ่วงดุลหรือสอดคล้องกันตามหลักรัฐธรรมนูญสากลเหตุเพราะรัฐธรรมนูญฉบับถาวรปี   2492 มีการเพิ่มองคมนตรีขึ้นมาเป็นที่ปรึกษาพระมหากษัตริย์ กำหนดให้องคมนตรีเป็นผู้สำเร็จราชการ ห้ามมีการแก้่ไขกฎมณเฑียรบาล ซึ่งไม่มีรัฐธรรมนูญฉบับที่เป็นสากลให้อำนาจของสถาบันพระมหากษัตริย์มีอิสระต่ออำนาจของประชาชนขนาดนี้ ดังนั้นข้อเสนอของคณะนิติราษฎร์จึงเสนอให้ใช้กฎหมายรัฐธรรมนูญก่อนการรัฐประหารปี 2490 เป็นต้นแบบในการจัดร่างรัฐธรรมนูญโดยคณะนิติราษฎร์ เหตุเพราะช่วงปี 2475 ถึง 2490 สังคมไทยในช่วงนั้นมีการถ่วงดุลกันระหว่างองค์กรทางการเมืองกับสถานะของสถาบันนั้นมีความสอดคล้องกับหลักสากล

ส่วนนายปิยบุตร แสวกนกกุล อาจารย์ประจำคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์กล่าวว่า ไม่ว่าจะมีการรัฐประหารกี่ครั้ง อำนาจสูงสุดก็จะเป็นของประชาชน ไม่มีทางถอยเป็นก่อนปฎิวัติ 2475  อีกแล้ว แล้วแม้บางครั้งอำนาจของประชาชนจะถูกฉกฉวยเพราะอำนาจที่ไม่สอดคล้องกับประชาธิปไตยบ้าง อย่างไรเสียประชาชนก็จะทวงอำนาจที่เคยเป็นของตัวเองคืนมา

นอกจากนี้การเปลี่ยนแปลงการปกครอง 2475 ก็เป็นการช่วงชิงอำนาจสูงสุดของประเทศจากพระมหากษัตริย์ไปสู่ประชาชน โดยพระมหากษัตริย์ยินยอมที่จะให้อำนาจสูงสุดเป็นของประชาชนผ่านการลงพระปรมาภิไธยในรัฐธรรมนูญฉบับแรกของไทย

แต่ปัญหาสำคัญของสังคมไทยและกระบวรการยุติธรรมของไทยก็คือ นักกฎหมายยุคปัจจุบันกลับไม่ซึมซับแนวคิดหลังการเปลี่ยนแปลงการปกครอง 2475 จึงตีความกฎหมายไม่สอดคล้องกับระบอบประชาธิปไตย เกิดปัญหาสองมาตรฐาน ด้วยเหตุนี้เพื่อความศักดิ์สิทธิ์ของกระบวนการยุติธรรมของไทย ใช้หลักนิติรัฐนิติธรรมแบประชาธิปไตย นักกฎหมายจะต้องตีความกฎหมายตามแนวคิดการปกครองหลังการเปลี่ยนแปลงการปกครอง 2475 ไม่ใช่มีสำนึกทางกฎหมายว่าอำนาจสูงสุดมิใช่เป็นของประชาชน

ดร.ฐาปนันท์ นิพิฏฐกุล กล่าวถึงความชอบธรรมของประชาชนในการยืนยันถึงอำนาจอธิปไตย ว่า นักกฎหมายของฝ่ายประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ได้สร้างวาทกรรมที่ครอบงำสังคมไทยมาเป็นเวลานานคือ “อเนกนิกรสมโสรสมมติ” กล่าวคือ ให้ความสำคัญกับผู้ปกครองในการใช้อำนาจปกครองที่มาจากการเลือกตั้งหรือแต่งตั้ง ซึ่งมาจากคติทางพระพุทธศาสนาใช้มาตั้งแต่สมัย รัชกาลที่ 4 เป็นต้นมา แต่สิ่งที่ขาดหายไปคือ “กษัตริย์ถูกพร้อมใจให้เลือกเป็นผู้ปกครองเพราะทุกคนยินยอมพร้อมใจกันเลือกให้เป็นผู้ปกครอง” ซึ่งเป็นเงื่อนไขที่ “ผู้ปกครองเป็นผู้ถูกเลือกให้ขึ้นไปปกครอง” มิใช่ “ผู้ถูกปกครองยอมศิโรราบให้แก่ผู้ปกครอง”

ในประวัติศาสตร์ของไทยกลับไม่มีราษฎรเกี่ยวข้องในกระบวนการการเลือกผู้ปกครองอย่างแท้จริง นอกจากเหล่าชนชั้นสูงและขุนนางที่เป็น “นิกรสมมติ”แทน และคติ “อเนกนิกรสมโมสรสมมติ” กลับถูกนำไปสร้างคำอธิบายให้กับการปกครองเผด็จการที่ใช้คำอื่น ๆ ของไทยในเวลาต่อมา เช่น คติการปกครองแบบพ่อปกครองลูกที่แพร่หลายในช่วงหลัง พ.ศ.2500 ประชาชนมีหน้าที่เชื่อฟังผู้ปกครองแบบอำนาจไหลจากบนลงล่างด้วยเหตุผลต่าง ๆ เพื่อให้ประชาชนไทยยอมจำนนยังคงดำเนินต่อไป ดังนั้น ประชาชนต้องยืนหยัดอำนาจประชาธิปไตยของตนเอง เพราะประชาชนเป็นผู้ตั้งผู้ปกครอง

ASTV กระหายสงคราม!!! พันธมิตรฯทำลายสันติภาพไทย-กัมพูชา แล้วยังปากดี ขวาง "ยิ่งลักษณ์" สร้างสันติภาพจีน-ญี่ปุ่น

โฉมหน้า พิธีกร ASTV
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 28 กันยายนที่ผ่านมา ประทีป ชื่นอารมณ์ ทหารเสื้อเหลือง(นอกราชการ) และ ชัชวาลย์ ชาติสุทธิชัย ที่ ASTV อุปโลกว่าเป็นนักวิชาการ ได้ร่วมสนทนาออกอากาศทางสถานีโทรทัศน์ผ่านดาวเทียม ASTV วิพากษ์วิจารณ์ นายกฯยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ว่า "สะเออะ" ที่เสนอให้แสวงหาผลประโยชน์ในทะเลจีนใต้ร่วมกัน เพื่อสร้างสันติภาพในทะเลจีนใต้ระหว่างจีนและญี่ปุ่น  ทำให้ชาวเน็ตจำนวนมากต่างแสดงความไม่พอใจ การแสดงอาการ "ตีนไม่พาย เอาปากราน้ำ" ของ 2พิธีกรดังกล่าว

โดย ชาวเน็ตบางส่วน ระบุว่า ทั้ง 2 พิธีกรของ ASTV อย่า "สะเออะ" ไปขวางการสร้างสันติภาพของนายกฯยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เพราะ สันติภาพในทะเลจีนใต้มีผลกระทบกับประเทศในกลุ่มอาเซียนและประเทศไทยโดยตรง รวมทั้งปัญหาทางเศรษฐกิจไทยที่หมักหมมในช่วงรัฐบาลอภิสิทธิ์ ก็ได้รับการแก้ไขในช่วงที่รัฐบาล นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เข้ามาบริหารประเทศ ฉะนั้นประเทศในกลุ่มอาเซียนไม่เพียงแต่เฉพาะไทยเท่านั้น ควรหลีกเลี่ยง "สงคราม" ในทุกกรณี


กลุ่มพันธมิตรฯ หลอก "วีระ" ให้ไปติดคุกกัมพูชา
และคนทั้ง ASTV ต้องตักน้ำใส่กระโหลก ชะโงกดูเงาตนเองว่า นอกจากไปขวางสันติภาพจีน-ญี่ปุ่นแล้ว ASTV และ กลุ่มพันธมิตรฯ ยังทำลายสันติภาพไทย-กัมพูชา ด้วย ซึ่งถือเป็นการบ่อนทำลายประเทศชาติอย่างชัดเจน โดยการปลุกปั่นให้ข้อมูลบิดเบือนและเกณฑ์พันธมิตรฯหัวรุนแรงไปป่วนบริเวณชายแดน จนทำให้ วีระ-ราตรี ถูกจับ ติดคุกในต่างประเทศจนถึงทุกวันนี้ 

ซึ่งก่อนหน้านี้ ประชาชนจำนวนมากก็เดินประท้วงกลุ่มพันธมิตรฯ โดยการถือป้ายผ้า "คนบริสุทธิ์ติดคุกไทย คนจัญไรติดคุกเขมร" ไม่ทราบว่า พิธีกร ASTV ได้แหกตาดูบ้างหรือไม่?


ป้ายผ้า "ความจริง" ประโยคสั้นๆที่ "แกนนำพันธมิตรฯ" ไม่กล้าอ่าน

วันเสาร์ที่ 29 กันยายน พ.ศ. 2555

"กทม." เลวได้ใจ! เปิดประตูน้ำบางชันแค่ฟุตเดียว ผลักน้ำไหลย้อนท่วมนิคมลาดกระบัง

วัดบำเพ็ญเหนือน้ำเอ่อท่วม
go6TV (29 กันยายน 2555) - เมื่อเวลา 17.30 น. วันที่ 29 กันยายน มีรายงานว่า คันดินกั้นน้ำของนิคมอุตสาหกรรมลาดกระบังพังทลาย ทำให้น้ำในคลองลำแตงโมไหลทะลักและเริ่มท่วมถนนในนิคม จนบางบริษัทสั่งอพยพคนและหยุดการผลิตแล้ว สำหรับน้ำที่ไหลท่วมนิคมลาดกระบังนั้น ทำให้น้ำเริ่มท่วมบริเวณหน้า บ.จอร์นสัน กับ บ.นีเวลล์ และอีกหลายบริษัท   


ด้านนายวีรพงศ์ ไชยเพิ่ม ผู้ว่าการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (กนอ.) กล่าวว่า คันดินที่พังนั้นเกิดจากฝนที่ตกหนักต่อเนื่องหลายวัน ทำให้ระดับน้ำในคลองแตงโมเพิ่มสูงขึ้นเรื่อยๆ และคันดินที่ถูกฝนชะล้างประกอบกับน้ำในลำคลองกัดเซาะจึงเกิดการทรุดตัว ทำให้น้ำในลำคลองทะลักเข้านิคมลาดกระบัง จนบางบริษัทต้องหยุดการผลิตรีบป้องกันน้ำที่ทะลักเข้ามา

ทางนิคมอุตสาหกรรมลาดกระบังได้ประสานงานกับทางกทม. ซึ่งมีเจ้าหน้าที่จากสำนักงานเขตลาดกระบัง มาช่วยดำเนินการซ่อมแซม ซึ่งขณะนี้ทางนิคมฯได้นำเครื่องสูบน้ำขนาดใหญ่ 2 เครื่องมาดำเนินการสูบน้ำที่ทะลักเข้ามาออก และอีกส่วนหนึ่งก็รีบซ่อมแซมคันดินที่พัง   

นายวีรพงศ์ กล่าวว่าอีกว่า สำหรับคันดินที่พังมีความกว้างประมาณ 2 เมตรครึ่ง โดยการซ่อมแซมได้นำไม้มาปักก่อนนำถุงบิ๊กแบ็กมาปิด ซึ่งคาดว่าจะสามารถปิดคันดินที่พังได้ก่อนเที่ยงคืน   

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะนี้นายวีรพงศ์  ผู้ว่าการการนิคมอุตสหกรรมฯ  ได้ร่วมประชุมกับผู้ประกอบการ และนายธเนศ วีระศิริ เลขาธิการวิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์ และเวลา 20.00 น. ผู้ว่า กนอ.จะแถลงข่าวเกี่ยวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างละเอียด ที่นิคมอุตสาหกรรมลาดกระบัง  ต่อมาเวลา 20.00 น. วันเดียวกัน นายธเนศ วีระศิริ เลขาธิการวิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์ กล่าวภายหลังประชุมร่วมกับ ผู้ว่า กนอ. และผู้ประกอบการในนิคมฯ ว่า ขณะนี้ได้มีการกั้นทางน้ำจากคลองบึงบัว ไม่ให้ไหลเข้าคลองแตงโมได้แล้ว ส่วนปริมาณน้ำที่ไหลเข้าไปท่วมขังนิคมฯ ลดระดับลงมาอยู่ที่ 18 เซนติเมตรแล้ว และปริมาณน้ำยังลดระดับลงตามลำดับ คาดว่าจะกลับเข้าสู่สภาวะปกตินั้นในเวลา 24.00 น. 

จากเหตุการณ์น้ำทะลักดังกล่าวนี้ ทีมงาน สส.พรรคเพื่อไทยได้ลงพื้นที่สำรวจตั้งแต่ต้นทางที่ประตูระบายน้ำบางชัน ซึ่งเป็นประตูระบายน้ำที่เป็นต้นเหตุของการท่วมทะลักในครั้งนี้ เนื่องจาก กรุงเทพมหานคร เปิดประตูระบายน้ำดังกล่าวแค่ 30 ซม.  ซึ่งเป็นการเปิดช่วยระบายน้ำเล็กน้อยมาก กทม.กั้นน้ำโดยไม่ให้ความร่วมมือในการใช้คลองแสนแสบ และอุโมงค์ยักษ์ช่วยระบายน้ำลงเจ้าพระยาเพราะกลัวน้ำท่วมในกรุงเทพ  ดังนั้น น้ำที่อั้นไว้ตรงประตูระบายน้ำ (ประตูระบายน้ำอยู่ด้านทิศเหนือของนิคมอุตสาหกรรมลาดกระบัง)  เมื่อไม่สามารถไหลลงคลองตามที่ควรจะไป เพราะโดนประตูบางชันกั้น จึงไหลย้อนเจิ่งนอง ทะลักเข้าท่วมนิคมอุตสาหกรรมลาดกระบัง ดังที่เป็นข่าวในวันนี้


ลั่นระฆังหัวใจ! "แป้ง-ผู้กองต้อม" รดน้ำสังข์วิวาห์แล้ว


เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 29 ก.ย.ที่ ห้องเลิศวนาลัย บอลลูม โรงแรมสวิสโซเทล นายเลิศ ปาร์ค ได้มีพิธีมงคลสมรสของดาราสาว “แป้ง”อรจิรา แหลมวิไล วัย 27 ปี กับ ร.ต.อ.ทรงพันธุ์ กุลดิลก หรือ “ผู้กองต้อม” วัย 31 ปี บุตรชายของ พล.ต.ท.ชัจจ์ กุลดิลก รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม โดยมีญาติผู้ใหญ่ พร้อมเพื่อนสนิททั้งในและนอกวงการบันเทิงมาร่วมงานกัน อาทิ วุ้นเส้น-วิริฒิพา และชาคริต แย้มนาม, เมย์-พิชญ์นาฏ สาขากร, เอม พินทองทา-ณัฐพงศ์ คุณากรวงศ์ ฯลฯ ซึ่งบรรยากาศในงานเต็มไปด้วยความอบอุ่นท่ามกลางแขกที่สนิทกว่า 100 คน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าเมื่อถึงฤกษ์ดีเวลา 09.39น. “ผู้กองต้อม” ได้ทำพิธีสวมแหวนหมั้นเพชร 5 กะรัตครึ่ง ให้ดาราสาว “แป้ง-อรจิรา” ซึ่งอยู่ในชุดไทยโทนสีเทา ท่ามกลางญาติผู้ใหญ่ของทั้งสองฝ่ายคือ พล.ต.ท.ชัจจ์-นางวิมลรัตน์ กุลดิลก และนายอภิชาต-นางจงกลรัตนา แหลมวิไล หลังจากนั้นเป็นพิธีรดน้ำสังข์ พร้อมด้วยจดทะเบียนสมรส โดยมีฤกษ์ส่งตัวเวลา 13.30 น. และจะจัดพิธีฉลองมงคลสมรสในวันที่ 7 ต.ค. ที่โรงแรมพลาซ่า แอทธินี 

ทีมผู้ว่าฯกทม. มามุกเก่า โทษท่อตัน เพราะ ทักษิณ

ดร.ธีระชน มโนมัยพิบูลย์ ทีมงาน "หม่อมเอ๋อ"
go6TV (29 กันยายน 2555) ดร.ธีระชน มโนมัยพิบูลย์ รองผู้ว่าราชการกรงเทพมหานคร ได้เขียนข้อความลงเฟสบุ๊คส่วนตัว ตอบโต้กรณีที่ กรมราชทัณฑ์ ได้ขุดลอกท่อตามคำสั่งของรัฐบาล โดยมีภาพข่าวพบอิฐ หิน และกระสอบทรายลงไปอุดอยู่ในท่อน้ำเป็นจำนวนมาก

นายธีระชน ได้ปฏิเสธเหตุการณ์ดังกล่าว โดยระบุว่า “อาจมีใครแอบเอาไปซุกไว้รอสร้างภาพสาดโคลน”  โดยมีรายละเอียดข้อความดังต่อไปนี้

"ถุงทรายใหม่ๆเขตมีนบุรีเบามากขนาดลอยไปอุดกลางท่อเป็นร้อยลูก" 

ถ้าเห็นว่าเป็นประโยชน์ ช่วยกันแชร์ ความจริงให้ปรากฏด้วยนะครับ เห็นข่าวเช้านี้ในมติชนแล้วอดไม่ได้ที่จะเอาความจริงทางวิศวกรรมมาเปรียบเทียบแบบง่ายๆให้คนกรุงเทพได้ฉุกคิดว่าความจริงคืออะไร
 ครับ

ประเด็นแรก ต้องถามชาวบ้านในซอยตามภาพข่าวว่า บ้านไหนทำ แล้วซอยนี้ฝาบ่อพักมันเบามากขนาดชาวบ้านเปิดได้ง่ายๆเลยนะเนี่ย

ประเด็นที่สอง อยากให้ชาวบ้านลองเอาทรายแค่สิบถุงหย่อนลงบ่อพักดูว่าด้วยน้ำหนักตัวถุงทรายจะเกิดอะไรขึ้น เพราะที่บ้านผมปีที่แล้วตอนน้ำท่วมหนึ่งเมตรผมล้อมบ้านแล้วใช้ถุงทรายอุดบ่อพักกันน้ำย้อนเข้าบ้านครับ ไม่เห็นถุงทรายจะไหลตามน้ำไปง่ายๆ แถมถุงทรายท่ีอยู่หลังบ้านตะไคร่ขึ้นดำหมดแล้วครับ

ประเด็นที่สามถุงทรายเป็นร้อยๆลูกไปอยู่กลางท่อน้ำแถมพอเอาขึ้นมากองให้ถ่ายภาพดูใหม่มากมันไหลตามน้ำหรือมีใครแอบเอาไปซุกไว้รอสร้างภาพสาดโคลนใส่คนทำงานครับ

ประเด็นท่ีสี่งานของหน่วยงานท่ีรับผิดชอบตรง แถมผู้บังคับบัญชาสูงสุดเป็นรุ่นน้องคนสนิทของคนท่ีอยู่ดูไบจากประวัติการศึกษาทำให้อดคิดไม่ได้ว่าใคร fake ใคร fact ครับ”

จากนั้น แฟนคลับได้เข้าไปให้กำลังใจสนับสนุนมากมากโดยอ้างว่า รัฐบาลเสกถุงทรายลงท่อเพื่อใส่ร้าย จากนั้น ดร.ธีระชน ได้เขียนเพิ่มเติมอีกว่า

อยากให้คน กทม. ลองไปทดสอบเปิดฝาท่อหน้าบ้านดูครับว่ามันง่ายขนาดที่จะเอาทรายไปใส่กลางท่อมั้ย และอยากฝากนักข่าวให้ช่วยเป็นปากเสียงแทนคนกทมในการเปิดเผยความจริงด้วยครับไม่งั้นพวกเราก็คงต้องอาศัยสังคมออนไลน์ของเรากันมากขึ้นครับ”

ถัดจากนั้น นายธีระชน ก็มาโพสท์เพิ่มเติม โดยอ้างอิงพาดพิงถึงบุคคลต่างประเทศ ความว่า
“นึกถึงยันตระท่ีทำให้คนเป็นล้านบูชากราบไหว้แต่ที่สุดความจริงก็ปรากฏเมื่อสังคมช่วยกันใช้สติครับ วันนี้นายคนนี้ถอดผ้าเหลืองหนีไปอยู่ต่างแดนแต่ก็ยังมีคนไปกราบไหว้อยู่ อีกมุมนึกถึงท่านพุทธทาสที่ถูกหาว่าเป็นคอมมิวนิสต์ วันนี้ UNESCO ยกย่องท่านเป็นบุคคลสำคัญของโลก พวกเรามารักกรุงเทพฯแบบมีสติและใช้ปัญญากันนะครับ

"ธิดา" แนะ "คนเสื้อแดง" งดออกกำลังกาย 29 ตุลาคม

go6TV 29 กันยายน 2555 - นางธิดา ถาวรเศรษฐ์ ประธานกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) ได้ออกแถลงการณ์ที่ห้างสรรพสินค้าอิมพีเรียลลาดพร้าว สั่งห้ามกลุ่มคนเสื้อแดงเดินทางไปชุมนุมที่กองปราบปรามในวันที่ 29 ต.ค.นี้ เพื่อเป็นการป้องกันการปะทะ และกระทบกระทั่งกันระหว่างกลุ่มคนเสื้อแดงและกลุ่มพันธมิตร ที่จะเดินทางไปให้กำลังใจ น.ส.มนัสนันท์ หนูคำ ที่ด่าผิดตัว และจะต้องเดินทางไปรับทราบข้อความหา ในคดีหมิ่นประมาทฯ หลังบุกด่านางดารุณี กฤตบัญญาลัย แกนนำคนเสื้อแดงกลางศูนย์การค้าสยามพารากอน เมื่อช่วงต้นเดือนที่ผ่านมา

ซึ่งนางธิดาเผยว่า เข้าใจว่ากลุ่มมวลชนเสื้อเเดงต้องการให้กำลังใจนางดารณีเช่นกัน เพราะนางดารณีเป็นฝ่ายถูกกระทำ แต่ไม่ต้องการให้มวลชนเกิดการปะทะและเข้าสู่ความขัดแย้งอีก จึงได้ออกมาห้ามดังกล่าว ขณะเดียวกันก็อยากเรียกร้องไปยังพรรคประชาธิปัตย์ ให้ออกมารับผิดชอบถึงกรณีที่พิธีกรสถานีโทรทัศน์ช่องบลูสกาย ปลุกระดมคนและยุแยงจนทำให้เกิดเหตุปะทะกันระหว่างคนเสื้อแดง และกลุ่มพันธมิตร เมื่อวันที่ 25ก.ย. ที่ผ่านมาด้วย

วันศุกร์ที่ 28 กันยายน พ.ศ. 2555

"สายล่อฟ้า" คันปากไม่เลิกกัดนายกฯ “ทับรอย ได้อย่างไร...เค้าซักแล้ว!"

พิธีกรรายการสายล่อฟ้า ขณะไปมอบตัวคดีหมิ่นประมาท
go6TV ( 28 กันยายน 2555) เมื่อวันที่ 12 กันยายน 2555 ที่ผ่านมาในรายการสายล่อฟ้าทางสถานีบลูสกาย พิธีกรสายล่อฟ้าทั้งสามคนได้แก่ นายศิริโชค โสภา  นายชวนนท์ อินทรโกมารสุตย์ นายเทพไท เสนพงศ์ ได้กล่าวอธิบายในรายการถึงกรณีการจัดเลี้ยงอาหารสังสรรค์ของพรรคประชาธิปัตย์ที่โรงแรมโฟร์ซีซัน  ในขณะเดียวกัน ได้กล่าวพาดพิงถึงบุคคลภายนอก กระทบกระเทียบถึงกรณี “โฟร์ซีซัน” ใช้คำพูดส่อเสียดในทางลบ ดังมีคำพูดในรายการดังต่อไปนี้


เทพไท:  คือที่เขาไม่พอใจ... ไม่ใช่เรื่องอะไรหรอก คุณศิริโชค คุณนะไม่รู้ คือคุณไปจัดที่โฟซีซันไง เค้าเรียกว่าไป “ทับรอย”
ชวนนท์ : หัวเราะหึหึ
เทพไท: คุณอย่าไปทับรอยเค้า....คือคุณไปทับรอยที่โฟซีซัน เค้าก็ไม่พอใจ
ชวนนท์:  คือผมก็ไม่ได้ขึ้นไปดูชั้น 7 เมือวานเค้าไม่ได้เปิดห้อง เค้าไม่ให้ขึ้น
ศิริโชค: คือคุณจะว่าเค้า “ทับรอย” ได้อย่างไร...เค้าซักแล้ว!  
เทพไท: ก็รอยเดิมไง...ไม่เป็นไร
ศิริโชคซักแล้ว...
เทพไทซักแล้วก็คือกัน.... เค้าไม่ได้เปลี่ยนที่นอนนิ!
ศิริโชค:  เค้าพูดถึงพรมปู 
เทพไท:  ก็ผมพูดถึงเตียงไมได้ต่างอะไร ไม่เป็นไร เอ้า..ว่าต่อ!


"โอ๊ค" แฮปปี้เบิร์ดเดย์ 6 ขวบ "สนามบินสุวรรณภูมิ"

Go6TV(วันที่ 28 กันยายน 2555) นายพานทองแท้ ชินวัตร บุตรชายอดีตนายกรัฐมนตรี พ.ต.ท.ดร.ทักษิณ ชินวัตร ได้เขียนเฟสบุ๊คระบุว่า วันนี้เมื่อ 6 ปีที่แล้ว เป็นวันแรกที่ประเทศไทยได้มีสนามบินสุวรรณภูมิอย่างเป็นทางการ ถึอได้ว่าเป็นวันเกิดของสนามบินเลยทีเดียว  และเป็นความทรงจำที่ดี ที่ประชาชนมักพูดเสมอว่า "หากไม่มีนายกฯทักษิณ ก็ไม่รู้จะสร้างเสร็จเมื่อไหร่" 



"วันนี้ 28 กันยายน พ.ศ. 2555

เป็นวันครบรอบวันเกิด 6 ปี ของสนามบินสุวรรณภูมิ ครับ

จุดกำเนิดของสนามบินซึ่งได้ชื่อว่าเป็น "ความภูมิใจของคนไทยทั้งชาติ"แห่งนี้ เริ่มต้นขึ้นตั้งแต่ปี พ.ศ.2503 จากการที่รัฐบาลมีความคิดที่จะก่อสร้างสนามบินนานาชาติแห่งที่2 ขึ้น ซึ่งในขณะนั้นสนามบินดอนเมืองมีอายุได้46ปี (สนามบินดอนเมือง ถูกใช้งานมาตั้งแต่ปี พ.ศ.2457 เหลืออีกเพียง1ปีครึ่ง สนามบินดอนเมืองก็จะมีอายุครบ100ปี ครับ) 

จากปัญหาอุปสรรคต่างๆทั้งในเรื่องการเมือง และเศรษฐกิจที่ไม่เอื้ออำนวย ทำให้ก
ารก่อสร้างสนามบินสุวรรณภูมิแห่งนี้ไม่สามารถดำเนินการได้ ซึ่งถ้านับตั้งแต่ริเริ่มโครงการจนกระทั่งสามารถเปิดให้บริการได้ นับเป็นเวลาถึง46ปีเลยทีเดียว(นอกจากสถิติโลกจะบันทึกว่าสนามบินสุวรรณภูมิ มีหอบังคับการบินที่สูงที่สุดในโลกแล้ว น่าจะบันทึกไว้อีกว่าเป็นสนามบินที่มีโครงการก่อสร้างนานที่สุดในโลกด้วย)

สนามบินแห่งนี้ ถือเป็นอีกผลงานหนึ่งนะครับที่ทำให้พี่น้องประชาชน พูดกันอยู่เสมอว่า ไม่มี "นายกทักษิณฯ" ก็ไม่รู้จะเสร็จเมื่อไหร่ สนามบินนี้เริ่มมีการก่อสร้างตอนที่คุณพ่อผมเข้ามาเป็นนายกได้ประมาณ1ปี ใช้เวลาเพียง4ปีเศษๆก็สร้างเสร็จ หลังจากนั้นก็ได้มีการทดลองบินเป็นเที่ยวปฐมฤกษ์เมื่อ 29ก.ค.49 ก่อมที่จะมีการปฏิวัติเดือนกว่าๆ และได้มีการเปิดให้บริการจริงในวันที่ 28ก.ย.49 ภายหลังการปฏิวัติเพียง9วัน

ขณะที่ดำเนินการก่อสร้างก็มีปัญหาและอุปสรรคเยอะครับ นอกจากทางเทคนิคแล้วในทางการเมืองก็โดนสกัดเยอะ หลักๆก็เรื่องทุจริตต่างๆโดยเฉพาะอย่างยิ่งเรื่อง "ซีทีเอ็กซ์" ซึ่งมีการโจมตีตั้งแต่ก่อนสร้างสนามบินเสร็จเป็นปีๆ ลากยาวมาเป็นมหากาพย์จนถึงหลังปฏิวัติ คตส.ก็เข้ามารับลูกต่อ ตรวจสอบกันมา4-5ปี มีหลักฐานเป็นคันรถ จับนักการเมืองเข้าคุกได้เเน่ๆ แต่แล้วในที่สุดก็ไม่มีอะไรในกอไผ่ เอาผิดใครไม่ได้สักคน

ผมคิดว่านักการเมืองน้อยคนในบ้านเรานะครับ ที่จะทำเรื่องใหญ่ๆเช่นนี้ให้สำเร็จได้ จากสนามบินซึ่งคนไทยเราต้องรอนานถึง46ปี ผ่านไปไม่รู้กี่รัฐบาลก็ยังสร้างไม่ได้สักที จนได้รับฉายาว่า "สนามบินเจ็ดชั่วโคตร" แต่บัดนี้กลายมาเป็น "ความภูมิใจของคนไทยทั้งชาติ" ใครจะว่าไม่ดีอย่างโน้นอย่างนี้ก็ช่าง ผมถือว่าสนามบินสุวรรณภูมิเป็นสิ่งที่ผมภูมิใจในฐานะคนไทยคนหนึ่ง"

Happy Birthday ครับ "SUVARNABHUMI"

"พงศ์เทพ" ยัน "กก.ยุทธศาสตร์พท." ไม่เคยคุยเรื่อง "ยงยุทธลาออก"

นายยงยุทธ วิชัยดิษฐ
go6TV (28 กันยายน 2555) - นายพงศ์เทพ เทพกาญจนา กรรมการยุทธศาสตร์พรรคเพื่อไทย กล่าวใน รายการเจาะลึกทั่วไทย อินไซด์ไทยเเลนด์ เอฟเอ็ม 97 เมกะเฮริทซ์  กรณี นายยงยุทธ วิชัยดิษฐ รองนายกรัฐมนตรีเเละรมว.มหาดไทย จะลาออกจากตำเเหน่งในวันนี้จากกรณีสนามกอลฟ์อัลไพน์ว่า ที่ผ่านมาตั้งเเต่กระทรวงมหาดไทยมีคำสั่งเรื่องนี้กับนายยงยุทธ  กรรมการยุทธศาสตร์พรรคไม่เคยประชุมเลย เเละเพิ่งนัดประชุมวันนี้ เเปลกใจว่ามีข่าวว่ากรรมการยุทธศาสตร์พรรคนัดคุยในเรื่อง นายยงยุทธ ในช่วงที่ผ่านมาได้เช่นใด  เพราะตนไม่เคยได้ยิน  รวมทั้งไม่เคยได้ยินเรื่องนี้ในการประชุมวงเล็กของบางกลุ่มในพรรคเช่นกัน 

ส่วนสถานการณ์วันนี้กับผลกระทบทางการเมืองนั้น  นายยงยุทธ ควรลาออกหรือไม่  นายพงศ์เทพ กล่าวว่า รัฐบาลมอบให้สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาเเละกพ.พิจารณาเเล้ว รวมทั้ง นายยงยุทธ ส่งตัวเเทนไปยื่นเรื่องนี้กับ กกต.ให้ตีความ ตรงนี้เป็นการเดินเเบบโปร่งใส หากมีหรือไม่มีปัญหา กกต.ต้องเเจ้งกลับมาหรือส่งศาลรัฐธรรมนูญตีความ เรื่องนี้ไม่มีใครชี้ขาดได้เพราะเเต่ละฝ่ายให้ความเห็นเเตกต่างกันไป   เเต่รัฐบาลต้องยึดถือความเห็นของกฤษฎีกา ในอดีตที่ผ่านมารัฐบาลชุดต่างๆจะยึดเเนวทางความเห็นของกฤษฎีกากับอัยการสูงสุด   เเต่หากเรื่องไปถึงศาลเเล้วศาลมีความเห็นไปอีกอย่างนั้นก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง

"กรณีหวยบนดินกฤษฎีกาบอกทำได้ รัฐบาลพรรคไทยรักไทยก็ทำตาม  เเต่หากศาลไม่เห็นด้วยก็เป็นอีกเรื่อง เเต่รัฐบาลก็ยึดถือตามความเห็นของศาล   จะตำหนิรัฐบาลไม่ได้ว่าทำไมไปเชื่อกฤษฎีกา"นายพงศ์เทพ กล่าว

เมื่อถามว่า หากศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่า นายยงยุทธ ขาดคุณสมบัตินั้น นายยงยุทธ ต้องพ้นจากตำเเหน่งทางการเมืองจะเป็นเช่นใด นายพงศ์เทพ กล่าวว่า สิ่งที่นายยงยุทธปฏิบัติมาก่อนศาลมีคำวินิจฉัยจะไม่เสียไป เเละไม่เข้าเงื่อนไขว่าสิ่งที่ นายยงยุทธ กระทำไปในการเป็นรองนายกฯเเละหัวหน้าพรรคเพื่อไทยนั้น จะกระทบพรรคเพื่อไทยเเละเข้าข่ายยุบพรรคได้เลย

เมื่อถามว่า สถานการณ์เเบบนี้นายยงยุทธควรลาออกเพื่อรักษาพรรคเเละรัฐบาล  นายพงศ์เทพ กล่าวว่า ตนจะพูดเเบบนั้นไม่ได้ เรื่องนี้มันต้องเเล้วเเต่การตัดสินใจของ นายยงยุทธ  เมื่อถามว่า เเสดงว่าพรรคไม่ควรกังวลเรื่องนี้ นายพงศ์เทพ กล่าวว่า ตนไม่ทราบว่าข่าวออกมาเป็นเช่นใด เเต่หลักกฎหมายมันเป็นเเบบนี้  การคาดผลทางการเมืองในเรื่องนี้ในช่วงนี้ตนคาดอะไรไม่ได้ เพราะข้ออ้างทางกฎหมายในหลายกรณีเริ่มมีอะไรเเปลกๆในวันนี้เเล้ว กฎหมายนั้นมีความเห็นเเตกต่างกันได้หากนักกฎหมายใช้หลักวิชากฎหมายก็จะมองคล้ายๆกัน

สาบานได้! "กทม." ลอกท่อแล้ว?


เมื่อวันที่ 27 ก.ย. พล.ต.ต.มานิต วงศ์สมบูรณ์ รอง ผบช.น. ปรท.ผบช.น. ทำบันทึกข้อความถึง พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง ผบช.น. รายงานผลการดำเนินการขุดลอกท่อระบายน้ำในพื้นที่กทม. ตามคำสั่งการผบช.น.ภายหลังประชุมร่วมกับกรมราชทัณฑ์ในการแก้ไขปัญหาน้ำท่วมขังในพื้นที่ กทม.ที่กำลังเป็นปัญหาอยู่ในขณะนี้

 โดยบันทึกดังกล่าวระบุว่า เจ้าหน้าที่กรมราชทัณฑ์ ผู้ต้องโทษ และเจ้าหน้าที่ตำรวจ ดำเนินการร่วมกันขุดลอกท่อระบายน้ำ ตามจุดที่มีน้ำท่วมขัง ระหว่างวันที่ 22-24 ก.ย. จำนวน 10 จุด ได้แก่ ถ.ศรีอยุธยา ถ.พิษณุโลก และ ถ.พระราม 6 บริเวณทางลงด่วนดินแดง ถ.วิภาวดีรังสิต ถ.พหลโยธิน ก.ม.62 แยกมีนบุรี บริเวณแยกลำสาลี ถ.ศรีนครินทร์-ถ.กรุงเทพกรีฑา ซอยสุขุมวิท 62 7.ถ.พิพิธตัดถนนสนามไชย ถ.ศิรินธรขาเข้า เชิงสะพานต่างระดับ ถ.กำนันแม้น และ ถ.รัชดาภิเษก ตั้งแต่แยกรัชโยธินถึง ถ.ลาดพร้าว (หน้าศาลอาญา)

 โดยมีเจ้าหน้าที่ตำรวจในการรักษาความปลอดภัย และมี ผกก.สน., รอง ผกก.ป. และรอง ผกก.จร. ควบคุมการปฏิบัติอย่างใกล้ชิด เพื่ออำนวยความสะดวกด้านการจราจร การเดินทางเข้าพื้นที่ รวมทั้งจุดจอดรถระหว่างปฏิบัติหน้าที่ และมีการติดตั้งป้ายประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนทราบ พร้อมจัดพื้นที่เหมาะสม สำหรับเป็นที่ทิ้งขยะสิ่งปฏิกูล เพื่อไม่ให้ส่งผลกระทบกับประชาชนทั่วไป และมีเจ้าหน้าที่ตำรวจจราจรพร้อมรถจักรยานยนต์นำรถไปยังจุดทิ้งสิ่งปฏิกูล ซึ่งแต่ละ บก.ได้จัดเตรียมน้ำดื่มสนับสนุนผู้ต้องโทษ จุดละ 30 โหล

 จากการดำเนินงานพบว่า ส่วนมากในท่อระบายน้ำหลักมีเศษหิน ดิน โคลน และทรายจำนวนมาก ทำให้น้ำไหลช้า การตักโคลนทรายขึ้นมาน่าจะช่วยระบายน้ำได้เร็วขึ้น ในถนนใหญ่ เช่น ถ.รัชดาภิเษก ถ.ศรีนครินทร์ ท่อระบายน้ำมีขนาดใหญ่มาก แม้จะมีเศษดินทรายปูนอยู่ในท่อ ก็ยังไม่กีดขวางทางเดินน้ำมากนัก แต่ช่องทางเดินน้ำจนถึงช่องตะแกรงเหล็กข้างทางเท้าลงสู่ท่อระบายน้ำ มีเศษดินทรายอุดตัน ทำให้น้ำจากถนนลงในท่อระบายน้ำไม่ได้ หรือระบายน้ำได้ช้ามาก จึงได้ดำเนินการขุดลอกเรียบร้อยแล้ว หากมีฝนตกจะทำให้น้ำบนผิวการจราจรสามารถลงสู่ท่อระบายน้ำได้สะดวก และรวดเร็วมากขึ้น

 นอกจากนี้ บางแห่งยังเป็นไปตามสภาพทางกายภาพของถนนที่มีระดับต่ำ เช่น ถ.กำนันแม้น มีระดับต่ำกว่า ถ.กัลปพฤกษ์ และ ถ.เอกชัย ทำให้การระบายน้ำไม่สะดวก ภายหลังดำเนินการทุกจุดเสร็จสิ้นแล้วจึงได้ร่วมหารือในการแก้ไขปัญหาจุดน้ำท่วมขังว่าจุดใดควรแก้ไขเร่งด่วนหรือเพิ่มเติม ซึ่งในที่ประชุมได้สั่งการให้ดำเนินการขุดลอกท่อระบายน้ำเพิ่มเติม 26 จุด โดยจะดำเนินการจนถึงวันที่ 3 ต.ค.

วันพฤหัสบดีที่ 27 กันยายน พ.ศ. 2555

คลิปร้อน! "จูเลียน อัสซานจ์" โฟนอินเข้า "สหประชาชาติ"



Go6TV(27 กันยายน 2555) ผู้ก่อตั้งเว็บไซต์วิกิลีกส์ สร้างความฮือฮาไปทั่วโลก ด้วยการวิดีโอลิงก์เข้าไปยังที่ประชุมสหประชาชาติ วิพากษ์วิพากษ์วิจารณ์กลไกการรักษาความลับของรัฐบาลสหรัฐฯ และยังโจมตีว่าการกล่าวอ้างของสหรัฐฯว่าเป็นผู้อยู่เบื้องหลังปรากฏการณ์อาหรับสปริงเป็นสิ่งที่น่าละอาย

นายจูเลียน อัสซานจ์ ผู้ก่อตั้ง วิกิลีกส์
นายจูเลียน อัสซานจ์ ผู้ก่อตั้งเว็บไซต์วิกิลีกส์ ซึ่งอยู่ในระหว่างการลี้ภัยในสถานทูตเอกวาดอร์ประจำกรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ ได้วิดีโอลิงก์เข้ามายังที่ประชุมสมัชชาใหญ่สหประชาชาติ โดยความช่วยเหลือของรัฐบาลเอกวาดอร์ และสถานีโทรทัศน์รัสเชีย ทูเดย์ ของรัฐบาลรัสเซีย

ในการกล่าวสุนทรพจน์ครั้งนี้ นายอัสซานจ์ได้กล่าวโจมตีรัฐบาลสหรัฐฯ ในกรณีที่ดำเนินคดีกับพลทหารแบรดลีย์ แมนนิง ในข้อหาเปิดเผยข้อมูลให้แก่วิกิลีกส์อย่างไม่เป็นธรรม โดยเขาเปิดเผยว่าพลทหารแมนนิงถูกกักขังแล้วเป็นเวลากว่า 800 วันโดยยังไม่มีการพิจารณาคดีในชั้นศาล ซึ่งผิดกฎหมายของสหรัฐฯเอง และการกระทำดังกล่าวแสดงให้เห็นว่าสหรัฐฯมีระบอบการปกครองที่ไม่โปร่งใส

นอกจากนี้ นายอัสซานจ์ยังโจมตีการที่รัฐบาลของนายบารัก โอบามา ประธานาธิบดีสหรัฐฯ อ้างว่าเป็นผู้มีส่วนร่วมในการปฏิวัติประชาชนในหลายประเทศในตะวันออกกลางเมื่อปีที่ผ่านมา หรือที่เรียกว่าปรากฏการณ์อาหรับ สปริง โดยเขาชี้ว่าการกล่าวอ้างดังกล่าวเป็นเรื่องที่น่าละอาย

ทั้งนี้ ถึงแม้ว่าในปัจจุบัน นายอัสซานจ์จะได้สถานะผู้ลี้ภัยจากเอกวาดอร์แล้ว แต่รัฐบาลอังกฤษยังคงไม่เปิดทางให้เขาเดินทางออกนอกประเทศได้อย่างปลอดภัย โดยล่าสุด รัฐบาลของอังกฤษและเอกวาดอร์กำลังอยู่ในระหว่างการเจรจาเพื่อส่งตัวเขาไปดำเนินคดียังสวีเดน ซึ่งนายอัสซานจ์ถูกออกหมายจับในข้อหาล่วงละเมิดทางเพศ

ชาวนาจำชื่อนี้ไว้! "อดิศร์ อิศรางกูร ณ อยุธยา " ยื่นศาลรัฐธรรมนูญ ล้ม "จำนำข้าว"




อาจารย์จากสถาบันบัณฑิตพัฒนาบริหารศาสตร์ และมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ จำนวน 146 คน ลงรายชื่อพร้อมทำหนังสือถึงประธานตุลาการศาลรัฐธรรมนูญคัดค้านโครงการรับจำนำข้าว เพราะเห็นว่าขัดต่อรัฐธรรมนูญ เพราะรัฐบาลกลายเป็นผู้ผูกขาดตลาดเป็นผู้รับซื้อแต่เพียงผู้เดียว และสร้างความหายนะต่ออนาคตข้าวไทย

นายอดิศร์ อิศรางกูร ณ อยุธยา คณบดี คณะพัฒนาการเศรษฐกิจ สถาบันบัณฑิตพัฒนาบริหารศาสตร์ หรือ นิด้า เข้ายื่นหนังสือร้องเรียน พร้อมรายชื่ออาจารย์จากคณะต่าง ๆ ของ นิด้าจำนวน  61 คน อาจารย์มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์  27  คน นักศึกษาและประชาชนทั่วไป 58 คน รวมเป็น 146 รายชื่อ เสนอต่อประธานตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ผ่านนายชวลิต ศรีโฉมงาม ผู้อำนวยการสำนักคดี 5 สำนักงานศาลรัฐธรรมนูญ  เพื่อยับยั้งหรือยุติโครงการรับจำนำข้าวของรัฐบาล

เนื่องจากเห็นว่าการดำเนินโครงการเป็นการกระทำที่ขัดต่อบทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยพ.ศ.2550 มาตรา84  วงเล็บ 1 ที่ว่าถึงการสนับสนุนระบบเศรษฐกิจระบบเสรีและเป็นธรรม และต้องไม่ประกอบกิจการที่มีลักษณะเป็นการแข่งขันกับเอกชน  ซึ่งโครงการจำนำข้าวของรัฐบาลชุดนี้ ทำให้รัฐบาลกลายเป็นผู้ผูกขาด การรับซื้อข้าวเปลือกรายใหญ่ของประเทศเป็นการทำลายกลไกตลาดการค้าเสรี สร้างหายนะอนาคตข้าวไทยหลายด้าน อาทิ  คุณภาพข้าวลดลงเนื่องจากการเก็บสต็อกข้าวจำนวนมาก และไม่มีการระบายออกสู่ตลาด , การกำหนดราคาจำนำที่สูงเกินราคาตลาด นำไปสู่การบิดเบือนโครงสร้างการผลิตในภาคเกษตร , โครงสร้างอุตสาหกรรมข้าวไทยที่พัฒนามาเป็นอย่างดีถูกทำลายและการประกาศราคาข้าวที่สูงขึ้นทำให้ประเทศไทยขาดความสามารถในการแข่งขันในตลาดการค้าข้าวโลกและทำให้มูลค่าการส่งออกข้าวของประเทศลดลง 46 %  นอกจากนี้การระบายข้าว ระหว่างรัฐต่อรัฐ ยังเป็นการขายในราคาขาดทุนอีกด้วย

คณบดี คณะพัฒนาการเศรษฐกิจ กล่าวด้วยว่า หลังจากนี้หากมีช่องทางอื่นๆ ก็จะรวบรวมหลักฐาน ไปฟ้องร้องหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต่อไป แต่ขอย้ำว่าการดำเนินการครั้งนี้ไม่ต้องการให้ล้มโครงการรับจำนำข้าว แต่ต้องการให้มีการปรับปรุงแก้ไข เช่น ลดราคาจำนำให้ใกล้เคียงกับราคาตลาด และจำกัดปริมาณรับจำนำที่ครัวเรือนละ 25 ตัน หรือวงเงิน 3 แสน 5 หมื่นล้านบาท เพื่อไม่ให้เกษตรกรรายใหญ่ได้เปรียบ อย่างไรก็ตามยอมรับว่าการดำเนินการในครั้งไม่ได้มีการรับฟังความเห็นจากเกษตรกร

"สื่อฯลอดช่อง" ชูสุนทรพจน์นายกฯไทย "เอเซียต้องสร้างความเข้มแข็งทางเศรษฐกิจ ไม่สร้างความขัดแย้ง"


Asia must make money, not trouble: Thai PM


PM. Yingluck Shinawatra
NEW YORK (AFP) - Thai Prime Minister Yingluck Shinawatra said on Wednesday that Asia's emerging economies can help the troubled global economy, but warned against allowing conflict in the seas around China from derailing development.
"The Asia Pacific region is a key engine of the global economy," she said in New York in a talk at the Asia Society.
However, the standoff between China and several neighbors over disputed islands must be resolved, she warned.
"We will not be successful in promoting economic development and prosperity if there are tensions," she said, adding Thailand was "determined to do what we can" to defuse the situation.

ศาล "ยกฟ้องคดีหมิ่นหนีทหาร" แต่ "โทษคุกคดีกล่าวหาฆ่าประชาชน"


เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 27 กันยายน ที่ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก อ่านคำพิพากษาในคดีที่นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ เป็นโจทก์ยื่นฟ้องนายจตุพร พรหมพันธุ์ แกนนำกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ หรือ นปช.ในความผิดฐานหมิ่นประมาทผู้อื่นโดยการโฆษณา จากกรณีเมื่อวันที่ 29 ม.ค. 2553 ถึง15 ก.พ. 2553 นายจตุพร ขึ้นเวทีปราศรัยต่อกลุ่มคนเสื้อแดง ผ่านโทรทัศน์ช่องพีเพิลแชนแนว กล่าวหาว่านายอภิสิทธิ์ ในฐานะนายกรัฐมนตรี สั่งฆ่าประชาชนและหลบเลี่ยงการเกณฑ์ทหาร ซึ่งคดีนี้จะเป็นสำนวนที่ 2 ที่นายจตุพร ถูกนายอภิสิทธิ์ ฟ้องร้องฐานหมิ่นประมาท และจะมีคำตัดสิน

โดยศาลมีคำพิพากษา "ยกฟ้องนายจตุพร" กรณีกล่าวหานายอภิสิทธิ์หนีทหาร  

ส่วนกรณีกล่าวหาเข็ญฆ่าประชาชน "ศาลสั่งจำคุก 6 เดือนปรับ 5 หมื่นบาท แต่ให้รอลงอาญาไว้ก่อน"

วันพุธที่ 26 กันยายน พ.ศ. 2555

สื่อฯนอกเหยื่อกระสุนทหาร "ชี้จุดโดนยิง" ยันชัด "ผมไม่เคยเห็นชายชุดดำ"

นายมิเชล มาร์ส นักข่าวอิสระต่างชาติที่โดนยิงในวันที่ 19 ก.ย.

 Go6TV (26 กันยายน 2555) นายมิเชล มาร์ส นักข่าวอิสระชาวเนเธอแลนด์ ที่มาทำข่าวเมื่อวันที่ 19 กันยายน 2549 และโดนยิงไกล้สี่แยกราชดำริ เป็นพยานปากเอกที่พบเห็น "ฟาบิโอลา" ขณะโดนยิงและเสียชีวิตไปนั้น  ได้เดินทางมายังกรมสอบสวนคดีพิเศษ  เพื่อให้ปากคำทั้งหมด และถัดจากนั้นได้เดินทางไปยังจุดเกิดเหตุที่ตนโดนยิงเมื่อวันนั้น พร้อมกับให้สัมภาษณ์ต่อสื่อมวลชนดังนี้
เห็นชายชุดดำหรือไม่?
ตอบ ผมไม่เห็นชายชุดดำหรือเสื้อดำเลยแม้แต่คนเดียว

เห็นคนเสื้อแดงมีอาวุธ หรือเปล่า?
ตอบ ไม่เห็นคนเสื้อแดงมีอาวุธ มีแต่ไม้กระบอง  มีอย่างมากระเบิดขวด เห็นมีแค่ปืนพกประดิษฐ์เก่าๆอยู่แค่อันเดียว เล็กๆ ที่ดูโบราณๆ  (ถามต่อว่าเห็นเยอะไหม)  เห็นอันเล็กๆอันเดียว
ตอนเขายิงกันเช้าวันที่ 19 เห็นกระสุนยิงมาจากฝั่งไหน?
ตอบ ผมได้ยินเสียง และเห็นแต่วิถีกระสุนยิงมาจากฝั่งทหารเท่านั้น ไม่เคยเห็นกระสุนจากฝั่งผู้ชุมนุม เขามองขึ้นไปบนรถไฟฟ้า บีทีเอส เขาเห็นแต่ทหารยิงลงมา
เห็นชายชุดดำในวัดไหม?
ตอบ ไม่เห็น เท่าที่เขาเห็นทั้งหมด เขาก็พยายามหาว่ามีใครบ้างไหมที่มีอาวุธในวัด ผมเคยได้ยินเช่นกันที่เขาพูดกัน(ในสื่อ) ว่ามีชายชุดดำ และผมพยายามมองหา แต่ผมหาไม่เจอ  ผมมั่นใจว่าวันนั้น ผมไม่ได้ใส่เสื้อแดง และผมก็มั่นใจว่า ทหารเห็นเขาเป็นฝรั่ง เพราะตัวสูงกว่าคนไทยผู้ชุมนุมคนอื่นๆ ทั่วไป

เค้าคิดว่า โดนจงใจยิงไหม?
ตอบ ผมไม่ทราบ ว่าเขาจงใจยิงผม หรือโดนเพราะอุบัติเหตุ เพราะกระสุนบินว่อนไปหมด แต่มั่นใจว่าไม่มีกระสุนยิงขึ้นฟ้า ไม่มีเสียงกระสุนจากฝั่งเสื้อแดง มีแต่จากฝั่งทหารเท่านั้น   

ตามคาด! ศาลอาญา "ยกฟ้อง" สนธิ ลิ้มทองกุล คดีผิด ม.112


Go6TV (26 ก.ย. 2555) เวลา 11.50 น. ศาลอาญา รัชดาฯ อ่านคำพิพากษาคดีนายสนธิ ลิ้มทองกุล ผู้ก่อตั้งสื่อเครือผู้จัดการและแกนนำกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ในข้อหาผิดกฎหมายอาญา ม.112 หมิ่นสถาบันพระมหากษัตริย์ ศาลมีคำพิพากษา “ยกฟ้องจำเลย” ชี้จำเลยไม่มีเจตนาเผยแพร่ เพียงแต่ต้องการให้ตำรวจดำเนินคดีกับ 'ดา ตอปิโด"

 ก่อนหน้านี้ เมื่อวันที่ 29 ส.ค. ที่ห้องพิจารณาคดี 908 ศาลอาญา รัชดาฯ ศาลนัดสืบพยานคดีหมายเลขดำ อ.2066/2553 ที่พนักงานอัยการฝ่ายคดีอาญา 10 เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง นายสนธิ ลิ้มทองกุล เป็นจำเลยในความผิดฐานหมิ่นประมาท ดูหมิ่น หรือแสดงความอาฆาตมาดร้ายพระมหากษัตริย์ หรือพระราชินี ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 กรณีเมื่อวันที่ 20 กรกฎาคม 2551 จำเลยนำคำปราศรัยของน.ส.ดารณี ชาญเชิงศิลปกุล หรือ ดา ตอร์ปิโด ที่พูดบนเวทีปราศรัยบริเวณสนามหลวง เมื่อวันที่ 18 กรกฎาคม 2551 มาเผยแพร่ซ้ำที่ปราศรัยบนเวทีของกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย บริเวณสะพานมัฆวานรังสรรค์ ขณะที่ดารณีถูกศาลพิพากษาจำคุกแล้ว 15 ปี และถูกควบคุมตัวในเรือนจำมากว่า 4 ปี ขณะนี้อยู่ระหว่างการอุทธรณ์คดี

วันอังคารที่ 25 กันยายน พ.ศ. 2555

แฉ! "พิธีกรบลูสกาย" สนับสนุนม็อบพันธมิตรถ่อย "ทุบรถ-ขว้างหินสาวเลือดอาบ"



สองพิธีกรคู่ขวัญ อัญชะลี ไพรีรักษ์ และ กฤษณพงศ์ เกียรติศักดิ์

Go6TV(วันที่ 25 กันยายน 2555) แฉหลักฐานผู้สนับสนุนม็อบพันธมิตร มีพรรคการเมืองชื่อดังชักใย โดยมีหลักฐานเป็นภาพถ่ายพิธีกรชื่อดังรายการหนึ่งในสถานนีบลูสกาย เชิญชวนและไปแจกเสื้อยืดให้แก่ผู้ชุมนุม

ภาพม็อบสลิ่มแสดงความถ่อยใส่เสื้อตัวนี้ทุกคน
จากเหตุการณ์ชั่วร้ายที่ม็อบพันธมิตรประชาชนเพื่อประธิปไตยหรือ พธม. ได้นัดชุมนุมหน้ากองปราบปรามฯ ตั้งแต่ตอนเช้า จนกระทั่งมีเรื่องทุบตีรถยนต์ของเสื้อแดง และไล่ทุบคนเสื้อแดงจนบาดเจ็บหัวแตกดังที่ทราบดีนั้น

หลายท่านคงสังเกตว่า คนที่อยู่ในภาพและข่าวทั่วโซเชี่ยลเนตเวิร์ค ที่เป็นผู้ทุบกระจกรถด้วยเหล็กแหลม  ภาพคนฟาดเจ้าหน้าที่ด้วยร่ม จนกระทั่งพกอาวุธมาชุมนุมจนเจ้าหน้าที่จับตัวได้  และอีกหลายในคลิป “จะใส่เสื้อเหมือนกัน” คือ “เสื้อยืดสีขาวแขนสั้น สกรีนอักษรคำว่า “ทรงพระเจริญ” อยู่บนหน้าอก

ข้อความเชิญชวนประชาชนมาก่อม็อบหน้ากองปราบฯ
เมื่อตรวจสอบย้อนหลังปรากฏว่า เสื้อดังกล่าวนั้นได้ถูกจัดเตรียมและประกาศเผยแพร่ชัดเจนอยู่ในรายการ โทรทัศน์รายการหนึ่งของสถานีบลูสกาย และพิธีกรชายคนดังกล่าว ได้ถ่ายภาพคู่กับพิธีกรหญิงชื่อดังที่ทั้งประชาชนรู้จักดี พร้อมใส่เสื้อลายดังกล่าวโชว์ถ่ายภาพ พร้อมเชิญชวนว่า “พรุ่งนี้ 9.00 น. ไปเจอกันที่กองปราบ พร้อมทั้งแท็กภาพดังกล่าวไปให้กลุ่มเครือข่ายของตน ช่วยกันเผยแพร่ข่าว

ดังนั้นจึงปฏิเสธไม่ได้ว่า สถานนีโทรทัศน์ชื่อดังที่โยงใยกับพรรคการเมืองพรรคใหญ่ จะปฏิเสธไม่รู้เห็นไม่ได้ รายการโทรทัศน์ที่มีพิธีกรคู่ดังจัดอยู่ รวมถึงทุกรายการในช่องบลูสกาย ต่างสร้างกระแส เปิดประเด็น ชักชวนคนออกมาชุมนุม พร้อมรายงานสดตลอดทั้งวันนั้น พรรคประชาธิปัตย์จะไม่รับผิดชอบต่อความวุ่นวายจนบาดเจ็บเสียเลือดเนื้อ และทรัพย์สินไม่ได้  สมควรแล้วที่ประชาชนจะประณามการกระทำ ของพรรคการเมืองพรรคนี้ว่าใช้วิธีใต้ดิน เลวทรามต่ำช้า ก่อม็อบชนม็อบ จนสร้างความวุ่นวายปั่นป่วนในบ้านเมือง


ชายคนนี้ ถูกตำรวจับหลังพบมีอาวุธปืนภายในตัวขณะชุมนุม
ภาพผู้ชุมนุมใส่เสื้อของพิธีกรบลูสกาย
โฉมหน้าผู้ชุมนุมใส่เสื้อของบลูสกายทุบกระจกรถ

ลำดับภาพชายทุบกระจกตั้งแต่เริ่มทุบ จนทุบแตกแล้วเดินหนีไป

แฟนคลับใส่เสื้อ "สายล่อฟ้า" และ "ทรงพระเจริญ" ก่อนเกิดเหตุการณ์วุ่นวาย

ชายคนทุกกระจก เมือทุบเสร็จรีบวิ่งหนีออกไป