ตักบาตรพร้อมกันทั้งครอบครัว |
นายพานทองแท้ ชินวัตร บุตรชายอดีตนายกรัฐมนตรี ได้โพสท์ข้อความเนื่องในโอกาสวันคล้ายวันเกิดของน้องอิ๊งค์ โดยบอกว่า น้องอิ้งค์อดทนเข้มแข็งมาก ใครไม่เคยโดนแบบครอบครัวเราจะไม่มีวันเข้าใจ หากขอได้ เราขอให้พ่อได้กลับมา ขอความสุขของครอบครัวกลับมาก็เพียงพอแล้ว
"เช้านี้ผมต้องตื่นก่อนพระอาทิตย์ขึ้น เพื่อมาทำบุญตักบาตรเนื่องในโอกาสวันสำคัญอีกวันหนึ่งของครอบครัว คือ "วันเกิดของน้องอิ๊งค์" ครับ"
เป็นธรรมเนียมปฏิบัติของครอบครัวเราแต่ไหนแต่ไรมา ที่คุณพ่อ, คุณแม่, ผมและน้องๆ จะต้องตื่นมาใส่บาตร พร้อมหน้าพ
ร้อมตากัน เมื่อถึงวันคล้ายวันเกิดของคนในครอบครัว จนกระทั่งถึงวันปฏิวัติเมื่อปี2549 เป็นต้นมา คุณพ่อก็ไม่สามารถมาร่วมใส่บาตรด้วย นี่ก็เข้าปีที่6 แล้วครับ
และก็เป็นปีที่6 ที่ผมจะถามน้องอิ๊งค์เช่นเดิม ในฐานะพี่ชายคนโตว่า วันเกิดปีนี้อิ๊งค์อยากจะได้อะไร ทั้งๆที่ผมก็รู้ดีว่าคำตอบของน้องอิ๊งค์ จะทำให้ผมและเอม(รวมถึงคุณแม่ด้วย) น้ำตาคลอทุกครั้ง เพราะน้องก็จะตอบคำเดิมว่า "อยากให้พ่อกลับมา"
ทุกครอบครัวที่ลูกคนสุดท้องเป็นลูกสาว ส่วนมากจะเหมือนๆกันคือมักจะสนิทกับพ่อ และมีความใกล้ชิดกับพ่อมากที่สุด น้องอิ๊งค์ก็เช่นเดียวกัน และจากเหตุการณ์วุ่นวายในช่วงก่อนและหลังปฏิวัติ ขณะนั้นน้องยังเรียนอยู่ที่จุฬาฯ เป็นธรรมดาที่ทุกคนย่อมเป็นห่วงน้องอิ๊งค์มากที่สุด ถึงขนาดคิดกันว่า คงจะต้องให้น้องอิ๊งค์ดร็อปเและไปเรียนต่อที่อังกฤษ แต่เราก็ต้องยอมรับว่าน้องอิ๊งค์มีความเข็มแข็งมาก ถึงแม้บางช่วงต้องอยู่คนเดียวที่เมืองไทย แต่น้องก็ตั้งหน้าตั้งตาเรียนจนจบปริญญาตรีที่จุฬาฯ แล้วจึงค่อยไปต่อเมืองนอก โดยไม่เคยปริปากบ่น
ใครไม่โดนอย่างครอบครัวเรา ไม่รู้หรอกครับว่าแต่ละคนต้องเจ็บช้ำแค่ไหน บางครั้งอยากที่จะทำ จะคิด จะเขียนอะไร วัตถุประสงค์ไม่ได้ต้องการอะไรมากไปกว่า ขอคืนความสุขภายในครอบครัว ก็ยังทำไม่ได้ ต้องห่วงภาพรวม ห่วงยุทธศาสตร์ โครงสร้าง ฯลฯอีกมาก ลำพังคุณพ่อ,คุณแม่และตัวผมยังไม่เท่าไหร่ แต่น้องผม ที่ต้องการแค่ Basic Need ของครอบครัวที่อยากให้อยู่พร้อมหน้าพร้อมตากัน ยังไม่ได้เลยครับ
กราบพระก่อนนอนคืนนี้ ขออฐิษฐานเหมือนๆกันนะครับ อย่างน้อยก็นึกว่าเป็นของขวัญ ที่ลูกสาวสุดรักของนายกทักษิณฯอยากได้
วันเกิดปีหน้า น้องอิ๊งค์ จะได้ไม่ต้องขออย่างเดิมซ้ำอีกครับ
และก็เป็นปีที่6 ที่ผมจะถามน้องอิ๊งค์เช่นเดิม ในฐานะพี่ชายคนโตว่า วันเกิดปีนี้อิ๊งค์อยากจะได้อะไร ทั้งๆที่ผมก็รู้ดีว่าคำตอบของน้องอิ๊งค์ จะทำให้ผมและเอม(รวมถึงคุณแม่ด้วย) น้ำตาคลอทุกครั้ง เพราะน้องก็จะตอบคำเดิมว่า "อยากให้พ่อกลับมา"
ทุกครอบครัวที่ลูกคนสุดท้องเป็นลูกสาว ส่วนมากจะเหมือนๆกันคือมักจะสนิทกับพ่อ และมีความใกล้ชิดกับพ่อมากที่สุด น้องอิ๊งค์ก็เช่นเดียวกัน และจากเหตุการณ์วุ่นวายในช่วงก่อนและหลังปฏิวัติ ขณะนั้นน้องยังเรียนอยู่ที่จุฬาฯ เป็นธรรมดาที่ทุกคนย่อมเป็นห่วงน้องอิ๊งค์มากที่สุด ถึงขนาดคิดกันว่า คงจะต้องให้น้องอิ๊งค์ดร็อปเและไปเรียนต่อที่อังกฤษ แต่เราก็ต้องยอมรับว่าน้องอิ๊งค์มีความเข็มแข็งมาก ถึงแม้บางช่วงต้องอยู่คนเดียวที่เมืองไทย แต่น้องก็ตั้งหน้าตั้งตาเรียนจนจบปริญญาตรีที่จุฬาฯ แล้วจึงค่อยไปต่อเมืองนอก โดยไม่เคยปริปากบ่น
ใครไม่โดนอย่างครอบครัวเรา ไม่รู้หรอกครับว่าแต่ละคนต้องเจ็บช้ำแค่ไหน บางครั้งอยากที่จะทำ จะคิด จะเขียนอะไร วัตถุประสงค์ไม่ได้ต้องการอะไรมากไปกว่า ขอคืนความสุขภายในครอบครัว ก็ยังทำไม่ได้ ต้องห่วงภาพรวม ห่วงยุทธศาสตร์ โครงสร้าง ฯลฯอีกมาก ลำพังคุณพ่อ,คุณแม่และตัวผมยังไม่เท่าไหร่ แต่น้องผม ที่ต้องการแค่ Basic Need ของครอบครัวที่อยากให้อยู่พร้อมหน้าพร้อมตากัน ยังไม่ได้เลยครับ
กราบพระก่อนนอนคืนนี้ ขออฐิษฐานเหมือนๆกันนะครับ อย่างน้อยก็นึกว่าเป็นของขวัญ ที่ลูกสาวสุดรักของนายกทักษิณฯอยากได้
วันเกิดปีหน้า น้องอิ๊งค์ จะได้ไม่ต้องขออย่างเดิมซ้ำอีกครับ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น