วันจันทร์ที่ 20 สิงหาคม พ.ศ. 2555

เรืองไกร ร้องผู้ตรวจการแผ่นดิน ตรวจสอบพ.ร.ฎ. เงินประจำตำแหน่งรัฐบุรุษไม่ชอบรัฐธรรมนูญ

นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ
นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ  อดีตส.ว.  ได้ใช้สิทธิตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 70 ร้องขอให้ผู้ตรวจการแผ่นดิน ใช้อำนาจหน้าที่ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 245 (1) เสนอเรื่องพร้อมความเห็นต่อศาลรัฐธรรมนูญเพื่อพิจารณาวินิจฉัยว่า พระราชกฤษฎีกาเงินประจำตำแหน่งขององคมนตรีและรัฐบุรุษ พ.ศ. 2551 มาตรา 5 มีปัญหาเกี่ยวกับความชอบด้วยรัฐธรรมนูญ มาตรา 196 หรือไม่ และเป็นอันใช้บังคับมิได้ ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 6 หรือไม่
 
นายเรืองไกร อ้างว่า พลเอก เปรม ติณสูลานนท์ ได้รับพระบรมราชโองการโปรดเกล้า ฯ ยกย่องไว้ในฐานะรัฐบุรุษ ตั้งแต่วันที่ 29 สิงหาคม 2531 มาจนถึงปัจจุบัน
 
ทั้งนี้ พระราชกฤษฎีกาเงินประจำตำแหน่งขององคมนตรีและรัฐบุรุษ พ.ศ. 2551 ประกาศในราชกิจจานุเบกษา  เล่ม 125 ตอน 22 เมื่อวันที่ 25 มกราคม 2551 ซึ่งถ้านับเป็นจำนวนเดือนมาถึงวันที่ในคำร้องนี้จะได้ประมาณ 55 เดือน หากนำเงินประจำตำแหน่งรัฐบุรุษ ตามมาตรา 5 ของพระราชกฤษฎีกาดังกล่าว ที่กำหนดไว้เป็นเดือนละ 121,950 บาท เท่ากับว่า มีการจ่ายเงินไปแล้วประมาณ 6,707,250 บาท ประกอบกับได้มีการจัดซื้อรถประจำตำแหน่งรัฐบุรุษโดยรัฐบาลนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ จำนวน 1 คัน ราคา 7,350,000 บาท ในปีงบประมาณ 2554  ก็อาจจะเป็นเงินของแผ่นดินที่ไม่มากนัก
 
นายเรืองไกร อ้างว่า  สำหรับผู้ที่ได้รับพระบรมราชโองการยกย่องไว้ในฐานะรัฐบุรุษ  แต่เมื่อคำว่า “รัฐบุรุษ” ไม่มีการบัญญัติไว้ในรัฐธรรมนูญ มาตรา 196 บทบัญญัติของกฎหมายตามมาตรา 5 แห่งพระราชกฤษฎีกาเงินประจำตำแหน่งขององคมนตรีและรัฐบุรุษ พ.ศ. 2551  จึงอาจมีปัญหาเกี่ยวกับความชอบด้วยรัฐธรรมนูญ มาตรา 196  และอาจเป็นอันใช้บังคับมิได้ ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 6
 
นายเรืองไกร ได้ร้องขอให้ผู้ตรวจการแผ่นดินรับคำร้องนี้ไปดำเนินการตามอำนาจหน้าที่ในรัฐธรรมนูญ มาตรา 245 (1) ด้วยการเสนอเรื่องพร้อมความเห็นตามคำร้องนี้ให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาวินิจฉัยโดยไม่ชักช้า

อ้างอิง
http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1345446095&grpid=00&catid=&subcatid=

ไม่มีความคิดเห็น: