ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ร.ท.หญิง สุณิสา เลิศภควัต รองโฆษกพรรคเพื่อไทยกล่าวว่า พรรคเพื่อไทยขอชี้แจงว่า การออกมาแสดงความคิดเห็นของ นายฉลอง เรี่ยวแรง ส.ส.เพื่อไทย ในเชิงโจมตีคนเสื้อแดง และนายจตุพร พรหมพันธุ์ ส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย รวมทั้งได้กล่าวทำนองว่ามีระบบโควต้าภาคในการจัดสรรตำแหน่งรัฐมนตรีนั้น ถือเป็นความคิดเห็นส่วนตัวของ นาย ฉลอง คนเดียวเท่านั้นแต่ไม่ใช่ท่าทีของพรรคเพื่อไทย
ทั้งนี้ แม้ว่า ส.ส.แต่ละคนของพรรค จะมีสิทธิตามธรรมชาติ ที่จะแสดงความคิดเห็นในเรื่องต่างๆ แต่ก็ควรเป็นการพูดในเรื่องที่เกี่ยวข้องกับหน้าที่ความรับผิดชอบของตัวเอง แต่กรณีการปรับ ครม.นั้น พรรคเพื่อไทยได้มอบให้นส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เป็นผู้มีอำนาจหน้าที่ในการตัดสินใจ
ดังนั้นจึงขอให้สมาชิกพรรคที่ไม่ได้มีหน้าที่เกี่ยวข้องกับการปรับ ครม.ระมัดระวังการให้สัมภาษณ์ ที่จะส่งผลให้เกิดความแตกแยกภายในพรรค รวมทั้งควรระมัดระวังคำพูด ที่จะส่งผลกระทบต่อความรู้สึกของพี่น้องประชาชนที่มีความรักและศรัทธาพรรคเพื่อไทย ทั้งนี้ หาก ส.ส. ของพรรค ต้องการแสดงความคิดเห็นใด ๆ ที่เกี่ยวกับการบริหารจัดการภายในของพรรค
เห็นว่าก็ควรนำเรื่องเข้าหารือภายในพรรค ไม่ใช่ให้ข่าวผ่านสื่อมวลชน จนทำให้ประชาชนเกิดความสับสนเกี่ยวกับพรรค ทั้งๆ ที่ ในขณะนี้พรรคเพื่อไทยซึ่งเป็นแกนนำในการจัดตั้งรัฐบาล กำลังทุ่มเทอย่างหนักเพื่อแก้ปัญหาปากท้องและการควบคุมปัญหาค่าครองชีพของประชาชน
ส่วนกรณีที่นายฉลอง ได้พูดพาดพิงถึงคนเสื้อแดงทำนองว่าไม่มีความสำคัญกับพรรคเพื่อไทยนั้น ก็เป็นความคิดเห็นส่วนตัวของนายฉลอง เช่นเดียวกัน ในส่วนของพรรคเพื่อไทย เรามีจุดยืนในการสร้างความเป็นสถาบันทางการเมือง และการพัฒนาระบอบประชาธิปไตย
ดังนั้นพรรคเพื่อไทยจึงมีความชื่นชมพี่น้องประชาชนทุกคน และทุกกลุ่ม ที่มีจุดยืนในการต่อสู้เพื่อประชาธิปไตยรวมถึงพี่น้องคนเสื้อแดง ซึ่งได้ต่อสู้เพื่อประชาธิปไตยมาเป็นเวลานานด้วยความยากลำบาก พรรคเพื่อไทยจึงมีความชื่นชมและต้องการแรงสนับสนุนจากคนเสื้อแดงเช่นกัน
ทั้งนี้ขอยืนยันว่า ขณะนี้ น.ส. ยิ่งลักษณ์ ยังไม่ได้ดำเนินการใด ๆ เกี่ยวกับการ ปรับ ครม. แต่หากจะมี การปรับ ครม. ขึ้นในอนาคต ก็จะเป็นอำนาจหน้าที่ของ นส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ในการพิจารณาโดยยึดหลักความเหมาะสม และหลักความรู้ความสามารถ
โดยคำนึงประโยชน์ของการบริหารราชการแผ่นดินเป็นหลัก ไม่มีการใช้ระบบโควต้า ในการจัดสรรตำแหน่งต่าง ๆ อย่างที่มีการวิพากษ์วิจารณ์ แต่อย่างใด เพราะพรรคเพื่อไทย มีความเป็นสถาบันทางการเมือง จึงไม่ต้องเป็นห่วงว่าใครจะมาต่อรองหรือกดดันนายกรัฐมนตรีได้
ทั้งนี้จึงขอให้สมาชิกพรรคเพื่อไทยให้เกียรติและเคารพการตัดสินใจ ของ นส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร และยุติการดำเนินการใด ๆ ที่จะสร้างความเสียหายต่อพรรค เพราะสังคมย่อมมองออกว่า ผู้ที่ออกมาให้ข่าวต่อสื่อมวลชนนั้น พูดด้วยความปรารถนาดีต่อพรรคจริงหรือไม่ หรือพูดเพื่อสร้างความแตกแยกและต้องการสร้างปัญหาให้กับพรรค
ส่วนกรณีที่ นาย อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ถือโอกาสผสมโรง กับ นายฉลอง เรี่ยวแรง โดยขอให้ นส.ยิ่งลักษณ์ นายกรัฐมนตรีคำนึงถึงประเด็นจริยธรรมในการแต่งตั้ง นาย จตุพร พรหมพันธุ์ เป็นรัฐมนตรีนั้น พรรคเพื่อไทยสงสัยว่า
เหตุใด นายอภิสิทธิ์ จึงกล้าเอ่ยปาก ทวงถามจริยธรรมจากผู้อื่น ทั้ง ๆ ที่ ตัวนาย อภิสิทธิ์ เองไม่เคยแสดงให้สังคมเห็นว่า นาย อภิสิทธิ์ ให้ความสำคัญกับเรื่องจริยธรรมของ ส.ส.
เห็นได้ชัดจากกรณี นายณัฏฐ์ บรรทัดฐาน ที่ยอมรับว่าดูคลิปโป๊ในมือถือ ระหว่างที่มีการประชุมสภา แต่นายอภิสิทธิ์ กลับพยายามทำให้เรื่องนี้เป็นเรื่องเล็ก ทั้ง ๆ ที่ สังคมมองว่า การที่ นายณัฎฐ์ ดูคลิปโป๊ในสภาเป็นเรื่องใหญ่
แต่นายอภิสิทธิ์ กลับปล่อยให้เรื่องเงียบไปเอง โดยไม่คิดที่จะดำเนินการอย่างจริงจังเพื่อแก้ปัญหาจริยธรรมของลูกพรรค และไม่กล้าแม้แต่จะแสดงความคิดเห็นว่า ส.ส. ณัฎฐ์ กระทำผิดจริยธรรมของ ส.ส. หรือไม่
ซึ่งเหตุที่นายอภิสิทธิ์ ไม่กล้าแตะ ส.ส. ณัฎฐ์ บรรทัดฐาน นั้น ก็ไม่ทราบว่าเป็นเพราะ ส.ส.ณัฏฐ์ เป็นบุตรชายคนใหญ่คนโตในพรรคหรือไม่ ดังนั้น ก่อนที่ นายอภิสิทธิ์จะถามหาคำว่าจริยธรรมจากผู้อื่น
นายอภิสิทธิ์ ควรชำระล้างปัญหาด้านจริยธรรมของ บรรดา ส.ส.ในพรรคประชาธิปัตย์ ให้สังคมเห็นเสียก่อน มิเช่นนั้น ก็คงจะทำใจเชื่อได้ยาก ว่า นายอภิสิทธิ์ ให้ความสำคัญกับเรื่องจริยธรรมคุณธรรมของ ส.ส. จริงๆ อย่างที่ปากพูด
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น