น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เดินทางเยือนราชอาณาจักรบาห์เรนอย่างเป็นทางการ ระหว่างวันที่ 13-15 พฤษภาคม บาห์เรนถือเป็นประเทศในกลุ่มตะวันออกกลาง มีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกันมายาวนาน ทั้งสมเด็จพระราชาธิบดีแห่งบาห์เรน และนายกรัฐมนตรีบาห์เรน เดินทางมาเยือนประเทศไทยก่อนหน้านี้ และนักธุรกิจบาห์เรนต้องการที่จะลงทุนในประเทศไทยเพิ่มรวมถึงมีความต้องการ ด้านความมั่นคงทางอาหาร จึงเป็นประโยชน์ที่ไทย จะไปหารือเกี่ยวกับข้อตกลงความต้องการทางอาหารกับบาห์เรน เพื่อที่ประเทศไทยจะได้เตรียมความพร้อมด้านการค้าและการผลิต ให้สามารถรองรับความต้องการทางอาหารของบาห์เรนได้
นอกจากนี้จะหารือเรื่องของวัฒนธรรม โดยเฉพาะด้านการท่องเที่ยว ที่จะมีการลงนามร่วมกัน
ขณะนี้บาห์เรนต้องการลงทุนเรื่องการก่อสร้างสนามบินแห่งใหม่ จึงเป็นโอกาสของไทยที่จะไปร่วมลงทุนและรับงานด้านก่อสร้าง รวมถึงการส่งแรงงานไทยไปทำงานบาห์เรนเป็นประเทศที่มีศักยภาพพอสมควรในกลุ่ม ตะวันออกกลาง จึงถือเป็นการเปิดตลาดในกลุ่มตะวันออกกลาง ด้านตัวเลขเศรษฐกิจถือว่าไทยได้ประโยชน์ เพราะส่งออกมากกว่านำเข้า แต่ไทยมีความประสงค์ที่จะเจรจาข้อตกลงเรื่องของการค้าด้านอาหาร และความมั่นคงด้านอาหาร โดยไทยต้องการผลิตและส่งออกอาหาร รวมถึงวัตถุดิบการผลิตอาหารฮาลาลด้วย
"ถ้าไทยประสบความสำเร็จจากข้อตกลงนี้ จะมีโอกาสเป็นศูนย์การส่งออกอาหารไปยังประเทศในกลุ่มตะวันออกกลาง และบาห์เรนถือเป็นประเทศที่เข้าใจไทยเป็นอย่างดี ในการแก้ไขปัญหาความไม่สงบในจังหวัดชายแดนภาคใต้ เป็นกลุ่มประเทศอิสลามที่ให้ความร่วมมือกับไทยด้วยดีมาตลอดดังนั้นการเยือน ครั้งนี้จะเป็นการกระชับความสัมพันธ์ให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น"
น.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าวว่า ได้เชิญนักธุรกิจไทยกว่า 50 ราย ร่วมเดินทางไปกับคณะ เพื่อเจรจาด้านการค้า การลงทุน การก่อสร้าง การเงิน และหารือเรื่องพลังงานในอนาคต พร้อมกันนี้จะเยี่ยมชมศูนย์บัญชาการกองกำลังผสมทางทะเล ที่เป็นส่วนหนึ่งในการดูแลด้านความปลอดภัยทางทะเล สาเหตุที่เลือกเยือนบาห์เรนเป็นประเทศแรกในตะวันออกกลาง เพราะมีสัมพันธ์ดีต่อกัน จึงเชื่อว่าจะสามารถเพิ่มมูลค่าการค้า การลงทุนได้ตามเป้าหมายที่วางไว้
สำหรับการเดินทางครั้งนี้นายกรัฐมนตรี พร้อมคณะจะออกเดินทางจากท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ เวลา 12.50 น. ด้วยเที่ยวบินพิเศษของบริษัทการบินไทย จำกัด มหาชน เมื่อเดินทางถึงท่าอากาศยานนานาชาติกรุงมานามา เมืองหลวง ที่เวลาช้ากว่าประเทศไทย 4 ชั่วโมง H.H. Shaikh Khalifa bin Salman Al Khalifa นายกรัฐมนตรีบาห์เรนจะจัดพิธีต้อนรับ จากนั้นนายกรัฐมนตรีจะเดินทางไปพระราชวัง Al Rowdah เพื่อเข้าเฝ้า H.M. King Hamad bin Isa Al Khalifa สมเด็จพระราชาธิบดีแห่งราชอาณาจักรบาห์เรน และ H.R.H Prince Salman bin Hamad Al Khalifa มกุฎราชกุมารแห่งราชอาจักรบาห์เรน
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น