วันนี้ (6พ.ค.55) เวลา 09.45 น. นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี พร้อมด้วย นายยงยุทธ วิชัยดิษฐ รองนายกรัฐมนตรี/รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย และ ม.ร.ว.พงษ์สวัสดิ์ สวัสดิวัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม ได้เดินทางโดยเฮลิคอปเตอร์จากกองบินตำรวจไปยังจังหวัดระยองเพื่อตรวจโรงงานสารเคมีภายในนิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด ซึ่งได้เกิดเหตุระเบิดและเพลิงไหม้ขึ้นในช่วงบ่ายของเมื่อวานที่ผ่านมา ( 5 พ.ค. 55) นายกรัฐมนตรี ได้กล่าวก่อนการลงพื้นที่ครั้งนี้ว่า จะลงพื้นที่เพื่อไปฟังข้อมูลในเชิงบูรณาการทั้งหมดเพื่อดูว่ามีอะไรต้องสั่งการเพิ่มเติม ซึ่งเบื้องต้นเชื่อว่าสถานการณ์น่าจะดีขึ้น
ภายหลังการเยี่ยมผู้ประสบภัย และประชุมร่วมหน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้องแล้ว เจ้าหน้าที่สำนักงานการนิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด แจ้งว่า นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้เปิดเผยภายหลังเสร็จสิ้นการประชุมหารือและรับฟังรายงานเกี่ยวกับสถานการณ์ระเบิดและเพลิงไหม้โรงงานกรุงเทพ ซินธิติกส์ ในนิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด ร่วมกับกับผู้ที่เกี่ยวข้อง อาทิ ผู้ว่าราชการจังหวัดระยอง ผู้บริหารนิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด สาธารณสุขจังหวัด ฯลฯ เพื่อแก้ไขสถานการณ์ และเตรียมวางแผนป้องกันปัญหาที่อาจจะเกิดขึ้นในอนาคตว่า สภาพอากาศ ของนิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด และชุมชนได้กลับเข้าสู่ภาวะปกติแล้ว โดยทางนิคมอุตสาหกรรมฯ ได้ดูแลผู้ที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ทั้งในส่วนของผู้เสียชีวิต และผู้ป่วย รวมทั้งจะชดเชยค่าเสียหายทั้งของนิคมอุตสาหกรรมฯ และบริษัทอย่างเต็มที่ พร้อมกันนี้รัฐบาลขอแสดงความเสียใจต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ซึ่งเบื้องต้น ทุกหน่วยงานสามารถรับมือต่อสถานการณ์ดังกล่าวได้ดีแต่ยอมรับว่าต้องปรับเรื่องข้อมูลข่าวสาร ที่เชื่อมจากนิคมอุตสาหกรรมฯไปยังประชาชนด้วย
ขณะเดียวกัน นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ต้องมีการวางแผนไม่ให้เกิดเหตุการณ์ซ้ำขึ้นมาอีก และเพื่อให้ประชาชนมีความมั่นใจว่าจะสามารถกลับมาใช้ชีวิตได้ตามปกติ รัฐบาลได้ตั้งคณะกรรมการในลักษณะไตรภาคี โดยมอบหมายให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม อธิบดีกรมควบคุมมลพิษ นิคมอุตสาหกรรมฯ และภาคประชาชน เข้ามาทำงานร่วมกันและช่วยกันดูแลสภาพอากาศในพื้นที่ดังกล่าว โดยหากมีเหตุการณ์ใดๆ เกิดขึ้น จะต้องรายงานโดยตรงต่อรัฐบาล เพื่อให้ได้ข้อมูลที่ถูกต้องตรงกัน และให้กระทรวงสาธารณสุข ตั้งหน่วยแพทย์ฉุกเฉิน สำรวจรอบชุมชนเพื่อให้มั่นใจว่า ประชาชน จะได้รับอากาศบริสุทธิ์
ทั้งนี้จะนำเรื่องดังกล่าว ไปประเมินร่วมกับผู้ว่าการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย และจะประเมินทุก 3 เดือน โดยจะประเมินสารโทลูอีน และสารที่ติดไฟง่ายทั้งหมดโดยจะบูรณาการแผนฉุกเฉิน ร่วมกับ กระทรวงมหาดไทยและชุมชนในพื้นที่โดยได้สั่งการให้นายยงยุทธ วิชัยดิษฐ รองนายกรัฐมนตรี/รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ไปร่วมทบทวนแผนรับมือโดยให้ศาลากลางจังหวัดประมวลข้อมูลที่ถูกต้องไปยังประชาชน ซึ่งเรื่องทั้งหมดจะเป็นหลักสะท้อนการทำงานของกระทรวงมหาดไทยด้วย ขณะที่ในระดับพื้นที่ จะต้องประสานข้อมูลกับทางจังหวัดโดยอยากเห็นการบูรณาการ ทั้งในส่วนที่ต้องมีการวัดคุณภาพอากาศ และปรับปรุงเรื่องการเตือนภัยให้ประชาชนรับทราบเพื่อป้องกันความสับสน และต้องจัดกิจกรรมรับมือ สถานการณ์ ซึ่งกระทรวงมหาดไทย กระทรวงอุตสาหกรรม บริษัทต่างๆ ในพื้นที่นิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด ต้องเคร่งครัดซ้อมแผนรับมือเตือนภัยอย่างต่อเนื่อง
นอกจากนี้นายกรัฐมนตรี ยังได้กล่าวขอบคุณทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องที่ได้ช่วยเหลือเหตุการณ์ครั้งนี้ พร้อมขอเป็นกำลังใจให้ประชาชนชาวจังหวัดระยอง และรับจะนำเรื่องนี้ รายงานต่อที่ประชุมคณะรัฐมนตรีด้วย รวมทั้งจะนำข้อมูลไปบูรณการงานของรัฐบาลอย่างเต็มที่
ต่อจากนั้น นายกรัฐมนตรีและคณะได้ไปตรวจดูระบบศูนย์เฝ้าระวังและควบคุมคุณภาพสิ่งแวดล้อมภายในสำนักงานการนิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุดโดยพบว่า สภาพอากาศปกติ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น