นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี มีกำหนดการนำรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้อง ประกอบด้วยนายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ นายบุญทรง เตริยาภิรมย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ นายสุชาติ ธาดาธำรงเวช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ และ ม.ร.ว. พงษ์สวัสดิ์ สวัสดิวัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม พร้อมด้วยภาคเอกชนไทย เดินทางเยือนเครือรัฐออสเตรเลียอย่างเป็นทางการ ระหว่างวันที่ ๒๖-๒๙ พฤษภาคม ๒๕๕๕ เพื่อเสริมสร้างความเชื่อมั่นในเศรษฐกิจไทย และติดตามความร่วมมือไทย-ออสเตรเลียในมิติต่าง ๆ
ทั้งนี้ วัตถุประสงค์สำคัญในการเดินทางเยือนออสเตรเลียในครั้งนี้ คือ เพื่อสร้างความเชื่อมั่นต่อสถานการณ์การเมืองและเศรษฐกิจไทย ส่งเสริมหุ้นส่วนความร่วมมือยุทธศาสตร์ไทย-ออสเตรเลียในทุก ๆ ด้าน โดยเน้นการขยายความร่วมมือในสาขาที่เป็นประโยชน์ต่อการพัฒนาร่วมกันระหว่างไทยกับออสเตรเลีย เช่น การค้า การลงทุน ความมั่นคงทางพลังงาน ความมั่นคงและความปลอดภัยทางอาหาร และการแลกเปลี่ยนข้อมูลการวิจัยด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
การเดินทางเยือนออสเตรเลียครั้งนี้ จะเป็นโอกาสอันดีที่นายกรัฐมนตรีจะได้เยี่ยมชุมชนไทยในนครซิดนีย์ ซึ่งมีอยู่เป็นจำนวนมาก พร้อมพบปะและให้กำลังใจผู้ประกอบการร้านอาหารไทยในนครซิดนีย์ อีกทั้งรับฟังปัญหาและอุปสรรคต่าง ๆ ในการวางยุทธศาสตร์ครัวไทยสู่ครัวโลก เพื่อช่วยผลักดันให้อุตสาหกรรมอาหารไทย ทั้งสินค้าและบริการ เติบโตอย่างต่อเนื่องในทุก ๆ ตลาดของโลก ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อเกษตรกรไทยในระยะยาว
ที่สำคัญ นายกรัฐมนตรีจะพบหารือกับนางสาวจูเลีย กิลลาร์ด นายกรัฐมนตรีออสเตรเลีย และรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องของออสเตรเลีย เพื่อติดตามความร่วมมือไทย-ออสเตรเลีย ทั้งความสัมพันธ์ในระดับทวิภาคี (การค้า การลงทุน พลังงาน วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี และการศึกษา) ตลอดจนหารือถึงความร่วมมือในเวทีระหว่างประเทศ โดยเฉพาะในกรอบอาเซียน และการประชุมสุดยอดเอเชียตะวันออก (East Asia Summit)
นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรีสองฝ่ายจะเป็นสักขีพยานการลงนามบันทึกความเข้าใจและเอกสารความร่วมมือไทย- ออสเตรเลีย จำนวน ๒ ฉบับ คือ ความร่วมมือด้านการศึกษา (ฉบับใหม่) และการแลกเปลี่ยนผู้นำภาคการเมืองรุ่นใหม่
ขณะที่คณะนักธุรกิจชั้นนำของไทยที่ร่วมเดินทาง อาทิ ปตท.สผ. บ้านปู โรงไฟฟ้าราชบุรี ล็อกซ์เลย์ มิตรผล เจริญโภคภัณฑ์ สุรพลฟูดส์ เซ็นทรัลกรุ๊ป รวมทั้งผู้แทนสภาอุตสาหกรรม สภาหอการค้า ตลอดจนสมาคมอื่น ๆ จะพบหารือกับบริษัทคู่ค้าและนักลงทุนชั้นนำของออสเตรเลีย เพื่อขยายลู่ทางและโอกาสทางธุรกิจร่วมกัน ซึ่งนายกรัฐมนตรีจะได้พบหารือกับบริษัทและนักลงทุนรายใหญ่ของออสเตรเลีย เช่น บริษัทเหล็ก (Bluescope) เหมืองแร่ (Kingsgate) ธนาคาร (ANZ) และกลุ่มชิ้นส่วนรถยนต์
อนึ่ง การเดินทางเยือนเครือรัฐออสเตรเลียของนายกรัฐมนตรีในครั้งนี้ ถือเป็นการกระชับความสัมพันธ์ระดับผู้นำ หลังจากที่มีการว่างเว้นการเยือนระดับผู้นำของไทยนานกว่า ๘ ปี โดยการเยือนครั้งสุดท้ายเมื่อปี ๒๕๔๗ เพื่อลงนามความตกลงเขตการค้าเสรีไทย-ออสเตรเลีย (Thailand-Australia Free Trade Agreement - TAFTA)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น