วันพฤหัสบดีที่ 24 พฤษภาคม พ.ศ. 2555

เผยเอกสารต้นฉบับใบรับรองการรับเงินเยียวยา เปิดช่องฟ้องอาญารัฐได้ ไม่ยุติคดี


(24 พฤษภาคม 2555 - ทำเนียบรัฐบาล go6TV) นางพะเยาว์ อัคฮาด มารดา น.ส.กมนเกด อัคฮาด พยาบาลอาสาที่ถูกยิงเสียชีวิตขณะดูแลผู้บาดเจ็บอยู่ในวัดปทุมวนาราม เมื่อวันสลายการชุมนุม 19 พฤษภาคม 2553 พร้อมนายณัทพัช อัคฮาด บุตรชาย เดินทางมาเข้าพบนายธงทอง จันทรางศุ ปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานคณะอนุกรรมการเยียวยาทางแพ่ง และฟื้นฟูด้วยวิธีการอื่น เพื่อสอบถามความชัดเจนกรณีเงื่อนไขการจ่ายเงินเยียวยาที่ระบุว่าผู้ได้รับเงินชดเชยแล้วจะไม่ฟ้องร้องทางแพ่งมีนายสมพาสนิลพันธ์ ผอ.ศูนย์บริการประชาชน สำนักปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี เป็นตัวแทนในการรับเรื่อง

โดยนางพะเยาว์ กล่าวว่า ที่ผ่านรัฐบาลไม่ชี้แจงหลักเงื่อนไขของการรับเงินอย่างชัดเจน ทำให้ผู้ได้รับผลกระทบโดยเฉพาะที่จะฟ้องร้องเรียกค่าทางแพ่งไม่เข้าใจว่า เงินที่รัฐบาลจ่ายเพื่อเยียวยาเป็นก้อนเดียวกับเงินที่ผู้ได้รับผลกระทบจะได้รับหากมีการฟ้องร้องทางแพ่ง จึงเรียกร้องให้รัฐบาลออกมาชี้แจงถึงเงื่อนไข พร้อมกับออกมาขอโทษในฐานะรัฐบาล ถึงแม้จะไม่ได้สั่งฆ่าประชาชน แต่ถ้าต้องการความปรองดอง และแสดงให้เห็นว่าเป็นรัฐบาลประชาธิปไตยก็ต้องเสียสละเช่นเดียวกัน ทั้งนี้ตนเดินทางกลับไปลงชื่อรับเงินเยียวยาที่กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ และจะกลับมาติดตามความคืบหน้าอีกครั้งในวันที่ 28 พ.ค.นี้ จากนั้นในวันที่ 30 พ.ค.จะไปยื่นหนังสือเรียกร้องต่อกองทัพในให้ออกมาขอโทษประชาชนและชี้แจงเกี่ยวกับเหตุการณ์ที่ผ่านมาด้วย ทั้งนี้มองว่าถ้ารัฐบาลยอมขอโทษก็จะเป็นการตบหน้ารัฐบาลที่แล้วที่สั่งฆ่าประชาชน

ทั้งนี้ ในเวลา 16.45 น. นายธงทอง จันทรางศุ ปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานคณะอนุกรรมการเยียวยาทางแพ่ง และฟื้นฟูด้วยวิธีการอื่น ให้สัมภาษณ์ภายหลังการหารือกับนางพะเยาว์ อัคฮาด มารดาน.ส.กมนเกด อัคฮาด อาสาพยาบาลที่ถูกยิงเสียชีวิตในวัดปทุมวนารามวันศอฉ. ปราบม็อบคนเสื้ิอแดง 19 พ.ค. 53 ถึงกรณีความไม่เข้าใจเงื่อนไขการจ่ายเงินเยียวยาที่ไม่ให้มีการฟ้องร้องหน่วยงานดำเนินคดีทั้งแพ่งและอาญา ว่า สิ่งที่มารดาของน.ส.กมนเกดกังวลคือเข้าใจว่าลงนามในเอกสารรับเงินเยียวยาจากรัฐบาลไปแล้ว จะเป็นการตัดโอกาสที่จะไปพิสูจน์หาความจริงในการดำเนินการเพื่อให้ได้ความจริงว่าใครจะรับผิดชอบต่อเหตุการณ์เสียชีวิตของน้องเกด เนื่องจากในเอกสารระบุว่าต้องไม่ดำเนินการทางแพ่งกับหน่วยงานราชการของรัฐ แต่เมื่อนางยงยุทธ วิชัยดิษฐ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.มหาดไทย ในฐานะประธานปคอป. และผู้ที่เกี่ยวข้อง ชี้แจงว่าแบบฟอร์มเอกสารรับเงินดังกล่าว เป็นเรื่องของการไม่ฟ้องร้องค่าเสียหายจากหน่วยงานรัฐเพียงอย่างเดียว แต่ไม่ได้ตัดโอกาสที่จะดำเนินคดีอาญาหรือการฟ้องร้องทางแพ่งกับตัวบุคคล ที่ระบุในเอกสารเพราะเห็นว่าถ้าไปฟ้องร้องหน่วยงานก็จะเกิดความซ้ำซ้อนเพราะเป็นการจ่ายเงินก้อนเดียวกัน เมื่อพูดกันก็เข้าใจและลงนามรับเงินในแบบฟอร์ม


ไม่มีความคิดเห็น: